หลังจากหวังจะจับชายหนุ่มทายาทเศรษฐีอย่างวราวุฒิ ผู้หญิงที่ยอมแลกตัวเองเพื่อเงินทองเช่นสุรัตนาคงไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว หญิงสาวรับรู้ความต้องการของชายหนุ่มเขามีใจให้กับพิยะตา หญิงคนที่ทำให้เธอไม่มีความหมายในสายตาของแฟนเก่า สุรัตนารู้สึกหน้าชาเจ็บแค้นยิ่งนัก เธอยอมทุกอย่างที่ผู้ชายอยากจะได้แล้วทำไมเธอถึงเป็นคนที่ไม่มีใครต้องการ
“คุณวุฒิคะ” เสียงหวานเรียกหลังจากที่ชายหนุ่มเดินออกมาจากลิฟต์
“มาทำไม”
“พูดกับสุแบบนี้ได้ยังไงคะ”
“คุณต้องการอะไร” สุรัตนาปวดหัวใจยิ่งนักที่เขาพูดจาไม่มีเยื่อใยกับเธอเลย สิ่งที่ลงทุนไปเนื้อตัวที่เสียให้เขาเธอจะเสียมันไปฟรีๆ ไม่ได้ หญิงสาวสูดลมหายใจเรียกความมั่นใจ
“แหมพูดเหมือนกับสุเป็นอะไรที่น่ารังเกียจเลยนะคะ...รู้ๆ กันอยู่ว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน ทำไมพูดจาห่างเหินขนาดนี้ล่ะคะ”
“เป็นอะไรกัน ฮึๆ เข้าใจผิดหรือเปล่าครับ เรื่องวันก่อนคุณเสนอมา ผมก็ต้องสนองตอบสิ เราสองคนมีแต่ได้กันทั้งสองฝ่ายไม่ใช่เหรอ”
“คุณวุฒิ นี่ฉันมองคุณผิดไปจริงๆ เห็นสุขุมเงียบเฉย คิดว่าเป็นเจ้าชายที่แท้ก็ซาตานไม่ต่างจากแมงดาข้างถนน” เสียงขบกรามไม่พอใจที่โดนลบเหลี่ยมของชายหนุ่มดังขึ้น สีหน้าเคร่งขรึมมองดุดัน
“คืนนั้นผมก็แค่เล่นตามเกมที่คุณวางเอาไว้ หรือว่าไม่จริง” ดวงตาขุ่นเคืองมองหน้าเอาเรื่อง ชายหนุ่มร้ายกาจกว่าที่เธอคิดจริงๆ
“งั้นเหรอคะ” เสียงเธอสั่นเครือ
“จะเอาอะไรมากล่ะครับ คุณมันแค่ผู้หญิงขายตัวเท่านั้น ไม่มีเกียรติพอที่ผมจะทำดีด้วยหรอก” คำพูดดูถูกทำให้หญิงโกรธจัดจนเกือบจะปรี่เข้าไปทุบตีชายหนุ่ม ใบหน้าเรียวยาวเชิดขึ้นท้าทายความจองหองของเขา ความคิดที่จะเอาชนะอยู่ในสมองจนเต็มเปี่ยมเธอไม่มีอะไรที่จะต้องเสียอีกแล้ว
“ดูถูกกันมากเกินไปแล้วนะคะ”
“สมควรแล้วไม่ใช่เหรอที่ผมจะดูถูกคุณ”
“สุต้องขอบคุณนะคะที่คุณวุฒิยอมลดตัวมาอยู่กับสุทั้งวันทั้งคืน เรื่องนี้ถ้าพิตต้ารู้เข้าคงจะยินดีกับสุด้วย”
“หยุดนะ คุณจะทำอะไรบ้าๆ”
“สุก็แค่อยากจะประกาศตัวให้คนอื่นรู้ว่าเราสองคนเป็นอะไรกันก็เท่านั้นเอง” วราวุฒิบีบต้นแขนหญิงสาวด้วยความโกรธ เขาไม่คิดว่าเธอจะกล้าท้าทายเขาขนาดนี้ ยิ่งสายตาเจ้าแค้นมองมาที่เขาเหมือนว่าเธอจะยอมเสี่ยงทุกอย่างเพื่อแลกกับสิ่งที่ต้องการ
“โอ๊ย เจ็บนะคะ ทำไมทำกับเมียแบบนี้ล่ะคะ” หญิงสาวทำเสียงสูงยั่วโมโหเขา แรงมือที่บีบก็หนักขึ้น
“โอ๊ยๆ เจ็บค่ะ ใจร้ายกับเมียเหลือเกินนะคะ” ชายหนุ่มเหลืออดเหวี่ยงคนสาวออกไปให้พ้นทางเขา จนเธอล้มลงไปกองอยู่กับพื้น
“โอ๊ย คุณจะใจร้ายไปถึงไหนคะ”
“จำใส่สมองของคุณไว้ ผมไม่ใช่พ่อพระ แล้วก็ไม่ได้โง่ให้คุณมาทำมารยาใส่ง่ายๆ”
“งั้นเหรอคะ ก็คอยดูไปแล้วกันว่าสุจะมีวิธีที่จะทำให้คุณยอมทำตามความต้องการของสุหรือเปล่า”
“วิธีโง่ๆ ของคุณนะเหรอ ชิส์ ออกไปจากบริษัทของผมเลย ไป” วราวุฒิตวาดขับไล่สุรัตนาอย่างกับหมูกับหมา ต่อหน้าพนักงานที่เดินผ่านไปมา หญิงสาวต้องทนฝืนความเจ็บแค้นและอับอายเอาไว้ เธอคิดไว้แล้วว่าถ้าเขาไม่ใยดีคงจะต้องมีข้อแลกเปลี่ยนอะไรบ้าง
“แน่ใจนะคะว่าคุณจะยอมให้สุออกไปแบบนี้”
มีอะไรที่ผมจะต้องกลัวอีกล่ะ”
“ฮึ งั้นเรื่องที่คุณเตรียมจะแย่งเจ้าสาวของคุณธีร์มันคงไม่สำคัญใช่ไหมคะ” วราวุฒิหันมองด้วยความตกใจ เธอรู้เรื่องที่เขากับบิดาวางแผนกันได้ยัง
“เรื่องอะไร ผมไม่รู้เรื่อง”
“อย่ามาปฏิเสธเลยค่ะ หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง ที่คุณกับพ่อคุณวางแผนเอาไว้สุรู้หมดแล้ว” ชายหนุ่มปาดเข้ามาฉุดกระชากร่างเพียวให้ตามเขาออกไป
“มานี่ เร็วสิ”
“เจ็บนะคะ สุไม่ไป”
“มา อย่าเอะอะโวยวายนะเลย”
“เจ็บนะเบามือหน่อยสิคะ นี่เมียนะคะ”
“ถ้าคุณไม่หยุดอ้างตัวล่ะก็ผมรับรองว่าจะโยนคุณออกไปกองอยู่ข้างถนนแน่ๆ” กว่าจะลากหญิงสาวมาถึงลานจอดรถได้ ชายหนุ่มก็ถูกจิกข่วนไปหลายแผล
“เข้าไปเดี๋ยวนี้” เขาออกแรงผลักให้เธอขึ้นไปนั่งในรถ คนโมโหสาวเท้ายาวๆ ไปอีกฝั่ง เขาเข้าไปนั่งแล้วปิดประตูเสียงดังจนหญิงสาวสะดุ้ง
“จะพาสุไปไหน”
“เหมือนเรามีเรื่องที่จะต้องตกลงกันไม่ใช่เหรอ” น้ำเสียงเจ้เล่ห์กับรอยยิ้มซาตานทำให้สุรัตนาหวาดหวั่น ถึงเธอจะกล้าได้กล้าเสียแต่ความโหดร้ายที่เธอได้รับมันทำให้รู้ว่า เขาไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาที่แสดงออกคงเป็นการเก็บอารมณ์มากกว่า
“คุยกันที่นี่ก็ได้ค่ะ”
“คนเยอะแยะไม่สะดวกหรอก...ไปหาที่เงียบๆ ดีกว่า” สายตากระลิ้มกระเลี่ยมองสำรวจเรือนร่างหญิงสาว ถึงจะผ่านมือผู้ชายมาหลายคนแต่สุรัตนาก็ดูแลตัวเองอย่างดี เรียกได้ว่าสวยกว่าเด็กวัยรุ่นบางคนเสียอีก
“ฮึ คุณนี่เจ้าเล่ห์ไม่เบา”
“พร้อมไปขึ้นสวรรค์หรือยัง”
รถยนต์คันใหญ่แล่นรวดเร็วเลี้ยวเข้าจอดยังสถานที่บริการห้องพักแห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากที่ทำงานของวราวุฒินัก หลังจากรถยนต์เข้าจอดม่านสีชมพูผืนใหญ่ก็รูดปิดทันที หญิงสาวก้าวลงมาสำรวจบรรยากาศของห้องพักเล็กๆ แล้วต้องเบ้ปากขนลุกชูชัน
“ทำไมมาที่นี่คะ เล็กแคบ สกปรกมาก”
“มันก็ใกล้ที่สุดแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์นางโลม