อาการป่วยของธัญญ์ดีขึ้นเรื่อยๆ คงเพราะนางพยาบาลสาวจำเป็นที่คอยดูแลอยู่เคียงข้างเขาไม่ห่างตัว ชายหนุ่มปลาบปลื้มใจอย่างมากที่คนสวยเอาอกเอาสาระพัด นี่ก็กว่าสัปดาห์แล้ว สายตาของเขามองเห็นในระยะใกล้ได้ไม่ผิดเพี้ยน เหลือแต่ไกลออกไปมันยังพร่ามัว
“คุณธัญญ์”
“ว่ายังไงครับที่รัก”
“เป็นยังไงคะ...ไม่ปวดหัวแล้วใช่ไหม”
“ครับ มองเห็นชัดขึ้น แต่ยังมีอาการแสบตา เคืองตาบ้าง”
“อย่ารีบเร่งนะคะค่อยๆ มองเดี๋ยวจะปวดอีก”
“ผมไม่ได้มองอะไรเลยนะ นอกจากคุณ” คำหวานทำให้แก้มสีขาวนวลแดงระเรื่อ หญิงสาวเอียงอายไม่กล้าหันสบตา หัวใจที่เต้นปกติกลับรัวสั่นราวกับตื่นเต้น
“มาหยอดพิตต้าแต่เช้าแบบ สงสัยจะมีอะไรลัลลมคมนัยแน่ๆ” ชายหนุ่มรีบหลบหน้าเบี่ยงไปอีกทางเมื่อรู้ว่าหญิงสาวอาจจะรู้ทันความคิดเขา
“ปะ เปล่านะ ใครจะกล้ามีความลับอะไรกับคุณพิตต้าเจ้าแม่บาร์คนสวยได้ล่ะ”
“ว๊าย ดูสิมีเรียกพิตต้าว่าเจ้าแม่บาร์...ประสบการณ์น้อยอย่างพิตต้าเป็นเจ้าแม่ไม่ได้หรอก” ชายหนุ่มดึงร่างบางเข้ามาหา เขาพิจารณาดวงหน้าเรียวที่สวยหวานก่อนจะประทับรอยจูบแผ่วที่ไรผมหอมกรุ่น
“คุณธัญญ์ ไม่สบายใจเหรอคะ”
“ผมคงไม่มีโอกาสที่จะได้อยู่กับคุณแบบนี้อีกแล้วใช่ไหม”
“อย่าพูดถึงมันเลยค่ะ...พิตต้าจะดูแลคุณจนกว่าจะหาย และจะไม่ยียวนชวนทะเลาะเด็ดขาด” ธัญญ์โอบกอดคนที่เขารักอย่างโหยหา เขาไม่อยากให้เธอต้องแต่งงานกับธีร์เลยจริงๆ แต่มันคงไม่มีวิธีไหนที่จะทำให้ธีร์ยอมเปลี่ยนใจ ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ
“เอ เสือร้ายเจ้าอารมณ์คนเดิมหายไปไหนแล้วนะ...เห็นมีแต่แมวเชื่องๆ ออดอ้อนขอขนม”
“อ้าว นี่ผมเป็นแมวไปแล้วเหรอ...ก็ได้จะออดอ้อนขอความรักแทนขนมดูสิว่าคุณจะมีให้ผมบ้างไหม”
“ความรักหรือคะ พิตต้าไม่มีความรักให้ใครหรอก เพราะพิตต้าให้ผู้ชายคนหนึ่งไปแล้ว”
“ให้ใครไป นี่คุณไปรักใครเข้าแล้วเหรอ” เสียงฉุนเฉียวดังขึ้นอย่างขัดใจ ใบหน้าคนหนุ่มบูดบึ้งทันที
“นั่นไงโวยวายอีกตามเคย แบบนี้พิตต้าเอาหัวใจคืนมาดีกว่า” หญิงสาวสะบัดสายตาค้อนใส่เขา แล้วหันไปอีกทาง ส่วนชายหนุ่มเมื่อไตร่ตรองคำพูดของเธอแล้วเขาก็ต้องคลี่รอยยิ้มออกจนสุดปาก
“คุณรักผมเหรอพิตต้า...ใช่ไหมครับคนดี” น้ำเสียงดีใจทำให้หญิงสาวแอบอมยิ้ม ก่อนที่จะปรับเปลี่ยนสีหน้าบึ้งตึงแล้วหันกลับไปเง้างอนเขา
“เปล่าค่ะ...ตอนนี้ไม่รักแล้วค่ะ”
“โธ่ๆ ยาหยีของผม รักกันนะครับ นะครับคนดี” เขาออดอ้อนเสียงอ่อนเสียงจนเธอเคลิ้มตามในที่สุด
“ไม่ต้องมาอ้อนเลยนะคะ”
“อ้อนคนสวยหน่อยจะเป็นไร”
“แหวะ...เลี่ยน”
“ฮ่าๆ ไม่ชอบเหรอ ผมรักคุณนะครับพิตต้า” แก้มแดงเด่นร้อนผ่าวขึ้นเรื่อยๆ จนหญิงสาวคิดว่าใบหน้าของเธอคงบวมเปล่งราวกับผลไม้สุกที่กำลังจะแตก
“บ้า”
“รักก็บ้า ไม่รักก็บ้า ผมยอมเป็นคนบ้าที่รักคุณ” นิ้วยาวบิดเนื้อแขนของคนทะเล้นแก้เก้อเขิน
“โอ๊ย ซู้ด เจ็บนะคะที่รัก”
“หยุดเรียกพิตต้าแบบนั้นสิคะ”
“ไม่เอาผมอยากเรียกคุณว่าที่รัก”
“ไม่ค่ะ...พิตต้า อะ เอ่อ เขินนะ” ชายหนุ่มยิ้มกริ่ม เขาเชยคางสวยเข้ารูปขึ้นมามองด้วยสายตาหวานซึ้ง
“รู้ไหมเวลาที่คุณเขิน คุณน่ารักมาก แต่เวลาที่คุณอาละวาดคุณเซ็กซี่จนผมห้ามใจไม่ไหว” คนทิ้งท้ายประโยคเสียงแหบพร่า ดวงตากลมเบิกกว้าง หญิงสาวอึ้งกับพูดของเขา ชายหนุ่มกำลังเล้าโลมความรู้สึกของเธออยู่ใช่ไหม หญิงสาวคิดในใจ
“อี๋ อีตาบ้าลามก” มือเรียวฟาดที่แขนหนาหลายครั้ง คนถูกทำร้ายก็วิ่งหลบมุมนั้นบ้างมุมนี้บ้างไม่ยอมให้แม่เสือสาวทำร้ายได้ง่ายๆ
“อย่าหนีนะคะ...มาให้ตีซะดีๆ เอาใหญ่แล้วพูดจาแบบนี้กับพิตต้าได้ยังไง”
“โธ่ที่รัก ก็มันจริงนี่นา ทั้งสวยเซ็กซี่แถมยังเร้าใจอีกต่างหาก”
“อ๊าย หยุดพูดนะคะ” มือเรียวสะบัดอยู่ในอากาศ ชายหนุ่มหลบได้ไวกว่าที่เธอคิด ธัญญ์วิ่งหนีจนรอบบ้านเสียงเขาหัวเราะชอบใจดังทั่วทั้งบริเวณ แต่ไม่อาจกลบเสียงเอ็ดตะโรโวยวายของหญิงสาวได้
“พลั่ก” ร่างกำยำเสียงหลักชนกับใครบางคนที่ยืนนิ่ง หญิงสาวเห็นใบหน้าเคร่งขรึมดุดันแล้วต้องกลืนน้ำลายอย่างหวาดกลัว
“คุณธีร์” เสียงสั่นเรียกชื่อคนหน้าดุ ก่อนที่จะเข้าไปพยุงร่างกำยำนั้นขึ้นยืน
“อาธีร์ มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ” ชายหนุ่มถามแก้เก้อออกไปเท่านั้น เขาไม่ต้องการรู้จริงๆ หรอกว่าธีร์เข้ามานานแค่ไหนแล้ว แต่ที่อยากรู้คือธีร์เห็นเขากับพิยะตาหยอกล้อกันหรือเปล่า ถึงจะไม่ต้องการให้ทั้งคู่แต่งงานกันเขาก็ไม่อาจจะทำร้ายจิตใจของอาแท้ได้ลงคอ
“นานพอที่จะเห็นว่าแกทำอะไรลงไปบ้าง” ธัญญ์อ้าปากจะโต้แย้ง ร่างเพียวของดนุพรก็เดินเข้ามาขัดเสียก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์นางโลม