ทัณฑ์รักอสูรร้าย นิยาย บท 13

ปรางค์รวีนอนหมดสติไปสามวันสองคืน โดยมีภัทรานอนเฝ้าในช่วงกลางวัน เพราะในยามค่ำคืนเธอต้องไปนอนเป็นเพื่อนสดศรี มารดาของปรางค์รวีที่พักนี้อาการป่วยยังคงทรงๆ ทรุดๆ และให้เหตุผลที่ปรางค์รวีไม่กลับบ้านว่า ไปต่างจังหวัดกับอาจารย์ท่านหนึ่งที่ไว้วานให้ไปช่วยงาน ซึ่งสดศรีก็เชื่อตามนั้น

ภัทราไม่ได้บอกเรื่องอุบัติเหตุในครั้งนี้ให้ใครรู้ นอกจากมาลีที่รู้โดยบังเอิญ รวมทั้งวิตโตริโอ เธอก็ไม่ได้บอกเรื่องร้ายให้รู้เช่นกัน เพราะถือว่าไม่จำเป็นและไม่มีประโยชน์ที่จะบอกให้เขารู้ ถึงอย่างไรเสียเขาก็ไม่กลับมารับผิดชอบเรื่องที่ทำไว้กับปรางค์รวี เนื่องจากเขาได้อ่านคอลัมน์ไฮโฟหนึ่งในหนังสือพิมพ์ว่า ตอนนี้กำลังปลูกต้นรักกับหลานสาวผู้ดีเก่า วิตโตริโอคงจะสนใจสาวคนใหม่ที่ฐานะเท่าเทียม และอาจจะถึงขั้นวิวาห์ ภัทราจึงเลือกที่จะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ

ภัทรานั่งมองเพื่อนสนิทที่ยังจมอยู่ในห้วงนิทราทั้งน้ำตา รู้สึกสงสารจับใจ หากปรางค์รวีตื่นขึ้นมาแล้วรู้ว่าเสียทารกน้อยในครรภ์ ปรางค์รวีจะเสียใจมากแค่ไหน เสียใจที่ถูกพ่อของลูกทิ้งยังไม่พอ ยังจะมาเสียใจเรื่องสูญเสียเลือดเนื้อเชื้อไขอีก ช่างน่าเวทนายิ่งนัก

รอยยิ้มเกิดขึ้นท่ามกลางความหมองเศร้า เมื่อภัทราเห็นเปลือกตาของปรางค์รวีค่อยๆ ขยับเปิด คนที่นั่งรอคอยให้เพื่อนรักลืมตาตื่นรีบร้องเรียกด้วยความดีใจ

“ปรางค์...เป็นยังไงบ้างปรางค์” ภัทราถามเสียงสั่น กุมมือเพื่อนรักเอาไว้แน่น

คถเพิ่งฟื้นไม่ตอบเพื่อน เพราะเธอรู้สึกมึนศีรษะ รู้สึกเจ็บตามเนื้อตามตัวยามขยับกาย บริเวณท้องเหมือนมีอะไรมากดทับเจ็บร้าวลึกถึงภายใน นึกสงสัยว่าตนเองเป็นอะไร

“เกี๊ยะ” เสียงของปรางค์รวีช่างเบานัก ลำคอแห้งผาก ภัทราเหมือนจะรู้ใจเพื่อน เทน้ำในเหงือกลงในแก้ว หยิบหลอดมาหนึ่งอันให้เพื่อนใช้ดื่มกินแก้กระหายอย่างสะดวก

“ที่นี่ที่ไหน แล้วฉันเป็นอะไร” สองคำถามแรกหลุดออกมาจากลำคอของผู้ป่วย ภัทราไม่รู้จะตอบเพื่อนว่ายังไงดี จะบอกว่าแท้งลูกเพราะเกิดอุบัติเหตุ กลัวเพื่อนจะรับไม่ได้และสลบไปอีก เธอจึงปดออกไปรอวันที่ปรางค์รวีพร้อมกว่านี้

“แกโดนรถมอเตอร์ไซค์ชนหน้ามหา’ ลัย แกหมดสติไปสามวันสองคืนแหนะ แต่หมอบอกว่า ถ้าแกฟื้นขึ้นมาก็ไม่มีอะไรต้องน่าห่วง พักรักษาตัวอีกสองสามวันก็ออกจากโรง’ บาลได้แล้ว” ภัทราพูดเสียงเครือ พยายามบังคับไม่ให้เสียงสั่นไปมากกว่านี้

“ฉันนอนหลับไปนานสามวันเชียวเหรอ” ปรางค์รวีตื่นตกใจเมื่อรู้ว่า ตนนอนหลับไม่ได้สติถึงสามวันสองคืน แล้วระหว่างที่ตนนอนพักอยู่ที่นี่ ใครจะเป็นคนดูแลมารดา “ฉันกลับบ้านตอนนี้ได้ไหม ฉันเป็นห่วงแม่ ฉันมานอนอยู่ที่นี่แล้วแม่ของฉันจะอยู่กับใคร แม่เป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้”

น้ำเสียงของปรางค์รวีบอกถึงความร้อนและเป็นห่วงมารดา จนไม่คิดห่วงตัวเอง

“แกนอนพักรักษาตัวให้หายดีก่อน ส่วนเรื่องแม่ของแก แกไม่ต้องห่วง ระหว่างแกนอนอยู่ที่นี่ตอนกลางวันหน่าจะเป็นคนดูแลแม่ของแก ส่วนตอนกลางคืนฉันเป็นคนดูแล แล้วฉันก็ไม่ได้บอกเรื่องที่แกถูกรถชนกับแม่แกด้วย ฉันบอกไปว่าแกไปช่วยงานอาจารย์ที่ต่างจังหวัด แกสบายใจเรื่องแม่ได้เลย”

ภัทราบอกให้ปรางค์รวีสบายใจเรื่องมารดา ซึ่งปรางค์รวีก็เบาใจเรื่องมารดาลงไปมากโข

“ขอบใจแกมากนะที่ช่วยดูแลแม่ของฉัน” คนป่วยกล่าวขอบใจกับความมีน้ำใจที่เสมอต้นเสมอปลาย “เออว่าแต่ตาจะไปอิตาลีไม่ใช่เหรอ ไปวันไหนล่ะ ปรางค์ออกจากโรง’ บาลไปส่งตาทันไหม”

ปรางค์รวีเอ่ยถามภัทรา เมื่อนึกขึ้นได้ว่า กมลเนตรจะไปเรียนต่อทันทีที่เรียนจบ

“ตาไปแล้วล่ะ ไปเมื่อคืนนี้”

เมื่อคืนเป็นวันเดินทางอิตาลีของกมลเนตรที่ เธอเองไม่ได้ไปส่งเพื่อนรักอย่างที่ตั้งใจไว้ เพราะต้องอยู่ดูแลปรางค์รวี โดยให้เหตุผลว่าต้องเดินทางไปต่างจังหวัดด่วน ส่วนปรางค์รวีไม่สามารถมาส่งได้เนื่องจากต้องดูแลมารดาที่ป่วยอยู่ กมลเนตรเข้าใจในเหตุผลที่เพื่อนรักทั้งสองบอก ไม่โกรธเคืองและยังบอกอีกว่าจะติดต่อกลับมาบ่อยๆ

“น่าเสียดายจัง เพื่อนไปอยู่ไกลขนาดนั้น อีกนานกว่าจะได้เจอ”

“แกพักผ่อนเถอะ นอนซะจะได้หายเร็วๆ” ปรางค์รวีหลับตาลงอย่างว่าง่ายตามคำสั่งของเพื่อนรัก โดยไม่ได้เฉลียวใจเรื่องอาการป่วยของตน เพราะไม่คิดว่า อุบัติเหตุในครั้งนี้เธอจะสูญเสียสิ่งมีค่าในชีวิตไป

.............

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์รักอสูรร้าย