ทัณฑ์รักอสูรร้าย นิยาย บท 42

โรเจอร์มองหญิงสาวที่เหมือนรักแรกพบของเขาไม่วางตา เป็นเพราะพรหมลิขิตหรือความบังเอิญไม่อาจทราบได้ วันนี้เขามีนัดคุยธุรกิจกับศาสตรา เจ้าของโกดังสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีเรือเดินสินค้าภายในประเทศและนอกประเทศกว่ายี่สิบลำ โรเจอร์มีบริษัทเดินเรือหลายบริษัทอยู่ในใจ แต่เขาเลือกบริษัทของศาสตราในการขนสินค้าทางเรือข้ามประเทศ และโกดังสินค้าเพื่อเก็บสินค้าที่เขาส่งเข้ามาขายในประเทศไทย พอเจอศาสตราทำให้เขาคิดว่า เลือกบริษัทไม่ผิด

“สวัสดีครับคุณโรเจอร์” ศาสตราทักทายเป็นภาษาสากล

“สวัสดีครับ” โรเจอร์ทักทายตอบ เขายิ้มให้หนุ่มชาวไทย และไม่ลืมที่จะส่งยิ้มนั้นให้กับสาวสวยที่อยู่ด้านหลังของศาสตรา

“เลขาของผมครับ ชื่อว่าปรางค์รวี” ศาสตราแนะนำตัวให้อีกฝ่ายรู้จักเลขาของตน ปรางค์รวีพนมมือไหว้อย่างสวยงาม แทนการจับมือทักทายแบบสากล

“ชื่อของคุณทั้งสองเรียกยากจัง” โรเจอร์เป็นคนต่างชาติ สำนวนภาษาไทยเป็นอะไรที่ห่างไกลเขามาก

“เรียกผมว่าทอมสันก็ได้ครับง่ายดี” ศาสตราเอ่ยบอก

“ครับคุณทอมสัน ถ้าอย่างนั้นผมขอเรียกเลขาของคุณว่าบาร์บี้ก็แล้วกันครับ เพราะว่าเลขาของคุณสวยและน่ารักเหมือนตุ๊กตา” เขาทำตากรุ่มกริ่มเวลาพูด จากสายตาและคำพูดของโรเจอร์นั้น ทำให้ศาสตราเกิดความไม่พอใจขึ้นมา และไม่อยากร่วมธุรกิจกับชายหนุ่มจอมเจ้าชู้คนนี้เสียแล้ว

“ผมว่ามันไม่เหมาะ เอาเป็นว่าเรียกเลขาของผมว่าพลิสซิลล่าก็แล้วกันครับ” ศาสตราเปลี่ยนชื่อให้หญิงสาวเสร็จสรรพ

“โอเคครับ” โรเจอร์ยอมเรียกชื่อตามที่ศาสตราบอก เมื่อทำความรู้จักกันแล้ว ชายหนุ่มทั้งสองจึงพูดคุยเรื่องธุรกิจที่จะทำร่วมกัน โดยมีปรางค์รวีทำหน้าที่เป็นผู้ช่วย จัดการเรื่องเอกสารที่เตรียมไว้ส่งให้โรเจอร์อ่าน

ระหว่างที่พูดคุย สายตาของโรเจอร์มองมายังปรางค์รวีตลอดเวลา แน่นอนว่า สายตาของเขาเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่เปิดเผยซึ่งคนที่ถูกมองก็ไม่ชอบสายตาแบบนี้สักเท่าไหร่ ทว่าเธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากนั่งนิ่งและไม่พยายามมองสบตาโรเจอร์

ศาสตรารู้สึกไม่พอใจกับสายตาเปิดเผยของคู่ค้าทางธุรกิจเช่นกัน เพราะผู้ชายด้วยกันดูออกว่า โรเจอร์คิดเช่นไรกับปรางค์รวี แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้มากกว่าไปกว่า นั่งร้องฮึ่มๆ ในใจ

“เอาเป็นว่าตกลงตามนี้นะครับ คุณเช่าเรือผมขนสินค้าจากประเทศไทยไปประเทศอิตาลีและฝรั่งเศส ราคาเป็นไปตามที่ตกลงกันไว้นะครับ และอีกข้อตามระเบียบของบริษัท ผมจำเป็นต้องรู้ว่าสินค้าที่คุณว่าจ้างให้เรือเดินสินค้าของผมบรรทุกไปส่งนั้นคืออะไร” ศาสตราสรุป หลังจากที่พูดคุยรายละเอียดกันมาได้สักพักหนึ่ง และโรเจอร์ก็ตอบตกลงที่จะใช้บริการเรือขนสินค้าของเขา

“สินค้าของผมไม่ผิดกฎหมายแน่นอนครับ เป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ธรรมดาเท่านั้น ก่อนที่ผมจะนำสินค้าขึ้นเรือ คุณสามารถตรวจสอบได้” ธุรกิจของโรเจอร์ไม่ได้มีเพียงแค่เครื่องประดับเลอค่า เขามีธุรกิจอื่นอีกหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ ทำเฟอร์นิเจอร์ไม้

“คุณคงไม่ถือโทษโกรธผมนะครับ ที่ต้องเข้มงวดแบบนี้”

“ผมเข้าใจครับ”

“ผมกับพลิสซิลล่าขอตัวกลับก่อนนะครับ ยินดีที่ได้ร่วมงานครับ” ศาสตราลากลับทันที เพราะเขาไม่อยากอยู่ใกล้ชายหนุ่มคนนี้ ดูเหมือนว่าลูกค้าตรงหน้านี้มีอะไรปิดบังซ่อนเร้นอยู่ โดยเฉพาะดวงตาที่มองมาที่ปรางค์รวี เป็นอีกผลหนึ่งที่เขาไม่ชอบ

“เดี๋ยวสิครับ อยู่ทานอาหารกันก่อนนะครับ นี่ก็เที่ยงแล้ว คุณทอมสันกับคุณพลิสซิลล่าคงหิวแล้ว”

“อย่าดีกว่าครับ ผมต้องเดินทางกลับไปประชุมที่บริษัทอีก ผมขอตัวนะครับ กลัวว่าจะไม่ทันเข้าประชุม” ศาสตราปฏิเสธอย่างนุ่มนวลและมีเหตุผล จะตอบออกไปว่าไม่อยากรับประทานอาหารร่วมโต๊ะด้วยก็ไม่ได้ เพราะยังไงโรเจอร์ก็เป็นลูกค้า

“น่าเสียดายจังนะครับ ไม่เป็นไรโอกาสหน้าคุณทอมสันกับคุณพลิสซิลล่าห้ามปฏิเสธนะครับ”

“ครับ” ศาสตราจำยอมตอบรับ ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานของโรเจอร์ที่อยู่ภายในคอนโดหรูพร้อมกับปรางค์รวี ที่ตกอยู่ในสายตาของเจ้าของห้องจนกระทั่งเธอเดินลับหายออกไปจากห้อง

เขายิ้มอย่างมีเลศนัย ผู้หญิงไทยคนนี้สวยบาดใจยิ่งนัก มีความอ่อนหวานทั้งกิริยาและคำพูด ยามที่มองสบตาหัวใจของเขาเต้นแรง หวั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และมีความปรารถนามีเธอมาแนบกาย แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะทำให้สำเร็จ

................

วันรุ่งขึ้นปรางค์รวีเดินทางไปทำงานตามปกติ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะเดินออกไปจากรั้วบ้าน รถเบนซ์ป้ายแดงก็แล่นมาจอดเทียบข้างรั้วบ้าน ปรางค์รวีมองรถคันดังกล่าวด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ก้าวเท้าเดินไปทางริมฟุตบาทเพื่อเดินไปยังหน้าปากซอยบ้าน ทว่าเธอเดินไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องระงับเท้ายืนตัวตรง เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของโรเจอร์ก้าวลงมายืนข้างตัวรถ

“สวัสดีครับคุณพลิสซิลล่า” ปรางค์รวีมองผู้พูดอย่างตกใจ เธอไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี่ คำถามหลายคำถามมีมากมาย โรเจอร์รู้จักบ้านของเธอได้อย่างไร ในเมื่อเพิ่งรู้จักกันเมื่อวานนี้ แล้วเธอก็ไม่ได้บอกที่อยู่ให้เขารับรู้ด้วย และอีกคำถามหนึ่งคือ เขามาที่นี่เพื่อจุดประสงค์ใด

“สวัสดีค่ะคุณโรเจอร์” เธอตอบรับเพื่อไม่ให้เสียมารยาท

“สำหรับคนสวยของผมครับ” โรเจอร์ไม่ได้มามือเปล่า เขาหอบดอกไม้ช่องามช่อใหญ่มาด้วย ก่อนจะยื่นช่อดอกไม้ให้ปรางค์รวีตามที่ตั้งใจไว้ เธอเอื้อมมือมารับอย่างไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้

“ผมขอไปส่งคุณพลิสซิลล่าที่ทำงานนะครับ” โรเจอร์บอกจุดประสงค์ที่เขาเดินทางมาที่นี่

“อย่าลำบากเลยค่ะ พอดีพลิสซิลล่าต้องไปทำธุระให้แม่ก่อนไปทำงานค่ะ” เธอปฏิเสธเสียงนุ่ม

“ไม่ลำบากเลยครับ ผมเต็มใจที่สุดที่จะบริการคุณเต็มที่ คุณบอกผมมาได้เลยครับว่า จะไปทำธุระที่ไหนให้แม่ของคุณ” โรเจอร์ยังคงตื้อต่อไป ปรางค์รวีกำลังคิดหาวิธีจะปฏิเสธ และกำลังจะพูดออกไป ทว่าเสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นเสียก่อน

“ปรางค์ นึกว่ามาไม่ทันซะแล้ว” ภัทราวิ่งกระหืดกระหอบมาหาเพื่อนรัก และการมาขอภัทราทำให้ปรางค์รวีหาข้ออ้างได้สำเร็จ

“ต้องขอโทษคุณโรเจอร์ด้วยนะคะ พอดีพลิสซิลล่านัดเพื่อนไว้ ขอตัวก่อนนะคะ ขอบคุณสำหรับดอกไม้นะคะ” เสียงนุ่มเอ่ยบอกอย่างมีมารยาท ก้มศีรษะเล็กน้อยเป็นการลา เดินจูงมือเพื่อนสนิทไปหน้าปากซอยทันที

“หนีให้ตลอดนะ ครั้งหน้าเธอไม่รอดมือฉันแน่” เขาพูดเมื่อร่างบางเดินห่างจากร่างของเขาพอสมควร ก่อนจะเดินขึ้นไปบนรถยนต์อย่างอารมณ์เสีย ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เธอปฏิเสธเขา แม้ว่าครั้งแรกเธอจะไม่ได้ปฏิเสธเขาโดยตรงก็ตาม แต่จะไม่มีครั้งที่สามเด็ดขาด

...............

“จะลากฉันไปไหนเนี่ย แกบอกให้ฉันมาดูแม่ให้ไม่ใช่เหรอ”

ภัทราถามเพื่อนที่ลากจูงเดินห่างบ้านไปทุกที เมื่อคืนปรางค์รวีโทรศัพท์ไปหาเธอว่า วันนี้ให้มาดูแลสดศรีที่อาการป่วยกำเริบ วันนี้ปรางค์รวีต้องเดินทางไปต่างจังหวัดกับศาสตรา เพื่อประชุมด่วนในจังหวัดชลบุรี เธอจึงให้ภัทรามาอยู่เป็นเพื่อนสดศรี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทัณฑ์รักอสูรร้าย