ร่างอ้วนของเว่ยเสียง สั่นทั้งตัว เก็บคำข่มขู่นั้นกลับไปทันที
“คุณหยาง เมื่อกี้ผมทำผิดไป ตอนนี้ผมขอโทษคุณ ขอโทษครับ!”
เว่ยเสียงที่เมื่อกี้ยโสโอหังอย่างมาก จู่ๆก็เหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน คิดไม่ถึงว่าจะขอโทษหยางเฉิน
จู่ๆเขาก็ท่าทีเปลี่ยนไป แม้ว่าหยางเฉิน ก็ค่อนข้างมึนงง นี่คือโดนตบจนกลัวเหรอ?
หยางเฉินไม่สนใจ จ้องเว่ยเสียงอย่างครุ่นคิด คนรุ่นหลังของตระกูลใหญ่ทั้งสี่แห่งเจียงโจว ที่แท้ก็ไม่ธรรมดาเลยสักคน
“คุณหยาง พูดตรงๆ ครั้งนี้ที่ผมมาหาคุณ ไม่ใช่เพราะผมชอบคฤหาสน์หลังนี้ แต่มีคนใหญ่คนโต ชอบที่นี่”
เว่ยเสียงท่าทางลำบากใจ
ดูแล้วไม่เหมือนโกหก งั้นก็น่าจะมีคนชอบคฤหาสน์นี้จริงๆ
หยางเฉินรู้ดี ยอดเมฆาในตอนแรกเป็นเขาที่สั่งให้ลั่วปิงซื้อไว้ ตอนนี้กลับมีคนอยากได้ที่นี่ ตระกูลเว่ยจึงได้จัดคนมาเกลี้ยกล่อม นี่หมายถึง ผู้ที่อยากได้คฤหาสน์หลังนี้ จะต้องเป็นผู้มีอิทธิพลแน่นอน
“มีคนชอบยอดเมฆา แล้วมันเกี่ยวอะไรกับกู? กูไม่ขาย! มึงไสหัวไปได้ละ!” หยางเฉินกล่าวเน้นย้ำ
“คุณหยาง ยังไงที่นี่ก็เป็นคฤหาสน์ที่ตระกูลเว่ยของผมเป็นผู้พัฒนา ถึงแม้คุณรู้จักกับลั่วปิง แต่เบื้องหลังของอีกฝั่งใหญ่กว่า ยอมที่จะให้จากราคาเดิม เพิ่มขึ้นไปอีกสิบล้าน”
ดวงตาของเว่ยเสียงแสดงออกถึงความไม่มีความสุข แต่ก็กดความโกรธไว้แล้วกล่าว “หวังว่าคุณหยางจะคิดอย่างถีถ้วน อย่าหาเรื่องให้ตัวเองถ้าไม่จำเป็น”
“นี่เป็นคฤหาสน์ที่กูใช้เงินซื้อมา บนโฉนดก็มีชื่อกู ไม่ว่าใครจะเป็นผู้พัฒนา ก็เป็นอสังหาริมทรัพย์ส่วนตัวของกูทั้งนั้น มีคนชอบ แล้วกูต้องขาย?"
หยางเฉินดูแคลน เขาไม่เข้าใจตรรกะของตระกูลเว่ย
“คุณหยาง อย่าเกินไป! อีกฝ่ายยอมที่จะชดเชยให้คุณสิบล้าน ยังไม่พออีกงั้นเหรอ? แน่นอน ถ้าคุณไม่มีที่อยู่ ผมจัดการ มอบคฤหาสน์ที่ตีนเขาให้อีกหลัง เพื่อเป็นการชดเชย”
เว่ยเสียงกล่าวอย่างกัดฟัน ด้านล่างภูเขาจิ่วเฉิง ต่อให้เป็นคฤหาสน์ที่ธรรมดาที่สุด ราคาก็กว่าสิบล้านไปแล้ว
หยางเฉินค่อยๆหลับตาทั้งสองลง ดูๆแล้วเบื้องหลังของอีกฝ่ายไม่ธรรมดาจริงๆ คิดไม่ถึงว่าจะทำให้คนของตระกูลเว่ยยอมจ่ายมากมายขนาดนี้ ซื้อคฤหาสน์หลังนี้ด้วยราคาที่มากกว่าปกติ
“มึงไม่เข้าใจ ที่กูพูด? หรือว่าไม่ได้ยิน? อยากให้ฉันทำให้แกฟังชัดเจนสักหน่อยมั้ย?"
หยางเฉินหลับตาพูด เหมือนเว่ยเสียงกำลังเกลี้ยกล่อม แต่ตั้งแต่ต้นจนจบกลับประพฤติตัวสูงส่ง ทำให้เขาไม่พอใจมาก
“หยางเฉิน! มึงอย่าคิดว่ามึงรู้จักกับลั่วปิง แล้วจะทำตามอำเภอใจที่เจียงโจวได้นะ เยี่ยนเฉินกรุ๊ปในตอนนี้ได้แยกออกมาจากตระกูลอวี่เหวิน แล้วมีอะไรต้องกลัวอีก?”
เว่ยเสียงเกรี้ยวกราด “ไม่ต้องพูดถึงคนรับผิดชอบของสาขาสำนักงาน ในสายตาของตระกูลเว่ย ลั่วปิงไม่สำคัญอะไรเลย ถ้ามึงคิดว่าเค้าให้ท้ายมึงอยู่ แล้วจะทำอะไรก็ได้ มึงคิดผิดแล้วละ?”
หยางเฉินอาลัยอาวรณ์ เยี่ยนเฉินกรุ๊ปในตอนแรก ในช่วงที่เจริญรุ่งเรือง เพียงแค่เป็นผู้รับผิดชอบของสาขาสำนักงาน ก็ทำให้ผู้นำตระกูลในท้องถิ่นระแวงได้
ตอนนี้หลังจากที่ข่าวเยี่ยนเฉินกรุ๊ปแยกออกจากตระกูลอวี่เหวินแพร่สะพัดออกไป แม้แต่เจียงโจวเมืองเล็กๆ ล้วนไม่มีใครให้เกียรติอีกแล้ว
พวกเขามองว่า เยี่ยนเฉิงกรุ๊ปตอนนี้ บางทีอาจจะเป็นแค่คนป่วยเท่านี้!
หยางเฉินไม่โกรธแต่กลับหัวเราะ “มึงคิดว่า เบื้องหลังของกูเป็นลั่วปิงจริงๆงั้นเหรอ?"
"หรือไม่ใช่?"
เว่ยเสียงดูแคลน “แกมีใครอยู่เบื้องหลัง ตระกูลเว่ยรู้ดีมากตั้งแต่แรกแล้ว ก็แค่ชายแต่งงานเข้าบ้านหญิงที่ไร้ชาติตระกูล ถ้าไม่ใช่เพราะลั่วปิงชอบเมียมึง คิดว่าตัวเองเป็นเพื่อนลั่วปิงจริงๆงั้น?"
หยางเฉินหลับตามองไปที่เว่ยเสียง ดูๆแล้ว คนจำนวนมากล้วนคิดว่าที่ตนรู้จักกับลั่วปิง เป็นเพราะฉินซี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...