“อาสอง!”
เมื่อเห็นคนที่มา ไป๋จวิ้นเหาก็ตะโกนเรียกด้วยความประหลาดใจ
ต่งจ้านกังยังหรี่ตามองชายวัยกลางคน สีหน้าค่อนข้างย่ำแย่ เขาจำได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
เขาเป็นหนึ่งในทายาทของกษัตริย์ไป๋ อยู่ในลำดับที่สอง และยังเป็นผู้รับผิดชอบตระกูลคิงไป๋ในเมืองเยี่ยนตูด้วย ชื่อไป๋ชิ่ง
เมื่อฉินซีเห็นไป๋ชิ่งก็แปลกใจเล็กน้อย ในงานแต่งงานของหม่าชาวและอ้ายหลินก่อนหน้านี้ ไป๋ชิ่งยังพาภรรยาของเขาไปงานเลี้ยงและนั่งโต๊ะเดียวกันกับเธอ
ในงานแต่งงาน ไป๋ชิ่งได้เริ่มเข้ามาพูดคุยกับเธอก่อน
“ไป๋ชิ่ง!”
ต่งจ้านกังขมวดคิ้ว มองที่ไป๋ชิ่งพลางพูดว่า “หลานชายของคุณคิดอะไรไม่เป็น ผมสั่งสอนเขาแทนคุณ เจ้าชายรองไป๋ คงจะไม่รู้สึกไม่พอใจใช่ไหม?”
“คุณคิดว่าตัวเองเป็นใคร? กล้าดียังไงมาสั่งสอนหลานชายผม?”
ไป๋ชิ่งไม่ไว้หน้าต่งจ้านกัง ดุด่าเขาในที่สาธารณะ กระหายในการต่อสู้
ชายชราที่อยู่ข้างหลังเขาก็ได้ปลดปล่อยความกระหายในการต่อสู้ของเขาออกมาเช่นกัน
ทันใดนั้นภายในห้องโถงชั้นหนึ่งของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป ก็ถูกปกคลุมไปด้วยพลังที่แข็งแกร่ง พนักงานเหล่านั้นอดสั่นสะท้านและหวาดกลัวไม่ได้
ในเวลานี้ฉินซีรู้สึกเป็นกังวล เธอรีบเดินเข้าไปและพูดกับไป๋ชิ่งว่า “สวัสดีค่ะคุณอาไป๋ ฉันคือฉินซีเป็นรองผู้จัดการทั่วไปของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป คุณจำฉันได้ไหม? เราเคยพบกันที่งานแต่งงานของหม่าชาว เรื่องนี้มันเป็นความเข้าใจผิด...”
“ตาสีตาสาเกิดอยากคบหากับฉันขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ก่อนที่ฉินซีจะพูดจบ เธอก็ถูกไป๋ชิ่งขัดจังหวะ
ในเวลานี้ไป๋ชิ่งไม่เหลือความอ่อนโยนและสง่างามที่ฉินซีเห็นเมื่อแรกเจอ
ตอนนี้เขาเป็นเหมือนผู้กุมอำนาจที่อยู่เหนือกว่า เมื่อเขามองไปที่ฉินซี แววตานั้นเต็มไปด้วยความรังเกียจ
ฉินซีก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ในงานแต่งงานของหม่าชาว ไป๋ชิ่งได้เริ่มเข้ามาพูดคุยกับเธอก่อนด้วยท่าทีเจียมเนื้อเจียมตัว
แต่ตอนนี้ ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้?
“ไป๋ชิ่ง คุณควรให้ความเคารพบ้าง คุณไม่สามารถดูถูกประธานฉินได้”
ต่งจ้านกังพูดอย่างเย็นชา สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ
เขาเป็นเพียงผู้แข็งแกร่งที่เพิ่งไปถึงแดนราชาสูงสุด แต่ชายชราที่อยู่เบื้องหลังไป๋ชิ่งกลับทำให้เขารู้สึกกดดันอย่างมาก
เห็นได้ชัดว่าความสามารถของชายชราอยู่ในระดับแดนราชาสูงสุด
ในฐานะผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นปลายอย่างไป๋ชิ่ง ถึงแม้จะอยู่ในลำดับที่สองในบรรดาทายาทของกษัตริย์คิงไป๋ แต่ก็เป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดในบรรดาโอรสของกษัตริย์คิงไป๋
ว่ากันว่ากษัตริย์คิงไป๋ให้ความสำคัญกับไป๋ชิ่งมาก วางแผนที่จะยกให้เขาเป็นผู้สืบทอดของกษัตริย์คิงไป๋หลังจากที่เรื่องราวของเมืองเยี่ยนตูสิ้นสุดลง
เห็นได้ชัดว่าชายชราผู้อยู่เบื้องหลังไป๋ชิ่ง ก็เป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอดของตระกูลคิงไป๋ เขาได้รับมอบหมายจากกษัตริย์คิงไป๋เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของไป๋ชิ่งโดยเฉพาะ
แม้ว่าเขาจะเป็นผู้บัญชาการของกองยุทธการเมืองเยี่ยนตู และยังมีความสามารถอยู่ในระดับแดนราชาสูงสุด แต่ก็ยังด้อยกว่าทายาทของกษัตริย์ไป๋อยู่เล็กน้อย
เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน มันเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะปกป้องฉินซี
“ฮึ!”
ไป๋ชิ่งยิ้มเยาะและมองไปที่ไป๋จวิ้นเหาอีกครั้ง “เป็นแม่ม่ายคุณก็ชอบด้วยเหรอ?”
ไป๋จวิ้นเหาดูเหมือนจะกลัวไป๋ชิ่งมาก เขาก้มหน้าลงแล้วพูดว่า “อาสอง ผมแค่อยากสนุกเท่านั้น”
“ต่อให้แค่สนุกก็ไม่ได้ ในฐานะทายาทของตระกูลเดอะคิง อยากได้ผู้หญิงแบบไหนก็มี ผู้หญิงที่ถูกเล่นสนุกจนเยินแล้ว คุณก็ชอบด้วยเหรอ?”
ไป๋ชิ่งตะโกนอย่างเย็นชา
ไป๋จวิ้นเหารีบพูดว่า “อาสอง ผมขอโทษ ผมรู้ว่าผมผิดไปแล้ว”
การสนทนาระหว่างลูกหลานทั้งสองทำให้ฉินซีโกรธและเขินอาย เธอพูดอย่างโกรธเคือง “เจ้าชายรองไป๋ ไม่ว่ายังไงคุณก็เป็นทายาทของตระกูลคิงไป๋ ทำไมถึงพูดคำหยาบคายเช่นนี้ออกมาได้?”
“ฉันถามตัวเองได้ความว่าไม่เคยล่วงเกินคุณ ทำไมคุณต้องมาดูหมิ่นฉันแบบนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...