The king of War นิยาย บท 1106

ในชั่ววูบที่เสียงพูดจบ ความเจ็บปวดรุนแรง แผ่ออกจากภายในร่างกาย เขาร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดที่สุดทน หน้าตาบิดเบี้ยวอย่างเห็นชัด

“โอย....อะไรกันนี่.....โอย....”

เฉาเยว่กลิ้งไปมาบนพื้นด้วยความเจ็บปวด ร้องโหยหวนเหมือนหัวใจไส้ตับถูกฉีกกระชาก

ใช้คำว่าเหมือนหัวใจไส้ตับถูกฉีกกระชากมาเปรียบเปรย ไม่เกินเลยแม้แต่น้อย เพราะมันมีความเจ็บปวดเหมือนหัวใจไส้ตับถูกฉีกกระชากจริง ๆ

สติของเขายังให้รู้สึกว่า มันมีอะไรบางอย่างวิ่งพล่านอยู่ภายในตัว อีกทั้งยังขบกัดเครื่องในเขาอยู่อย่างเมามัน

ความเจ็บปวดทรมานที่เป็นอยู่นั้น ทำให้เขาอยากจะพุ่งหัวชนกำแพงให้ตายไปเลย

เหล่าบรรดาคนในตระกูลเศรษฐี ต่างคนต่างตกตะลึงอึ้งกันไปหมด มองเฉาเยว่ที่กลิ้งคลุกฝุ่นอยู่อย่างตื่นกลัว

หยางเฉินหยีตาขึ้นมา ถึงแม้เขาไม่รู้ว่าเหมียวหยุนกว่างทำอะไรกับเฉาเยว่ แต่เขาก็รู้สึกถึงได้ ในขณะนี้เฉาเยว่ถึงแม้จะเจ็บปวดมาก แต่ส่วนที่ตัวเฉาเยว่เองยังไม่รู้สึกได้ก็คือ แรงพลังบ้าคลั่งในตัวของเขายิ่งทวีความเข้มข้นและรุนแรงขึ้น

ในช่วงสั้น ๆไม่กี่สิบวิฯ. พลังปราณบูโดของเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างน่ากลัว

ก่อนหน้านี้เขาก็ยังแค่กระตุ้นพลังบูโดระดับขั้นต้นแดนเทพ แต่ขณะนี้ ที่แผ่ซ่านออกจากภายในตัวของเขา กลับเป็นพลังแดนเทพขั้นกลางแล้ว อีกยังก้าวขึ้นใกล้ขั้นสุดท้ายอย่างมากเข้าไปอีกแล้วด้วย

และในขณะเดียวกันนั้น พลังปราณบูโดในตัวเหมียวหยุนกว่าง ก็ได้ประทุขึ้นไปอีกไม่น้อย

เดิมทีเหมียวหยุนกว่างน่าจะมีพลังจริงอยู่ที่ระดับกลางในขั้นเทพ แต่มาถึงขณะนี้ กลับได้เปล่งพลังระดับขั้นสุดท้ายแดนเทพออกมา ถึงขนาดว่ากำลังจะถึงขั้นสุดยอดแดนเทพเข้าไปแล้ว

ให้แม้แต่หยางเฉิน ก็รู้สึกได้ถึงความกดดันที่รุนแรงมาก

“หยางเฉิน เจ้าเลิกยุ่งกับข้าได้แล้ว รีบออกจากที่นี่ไปเถอะ!”

ฉินเต๋อเจิ้งรีบตะโกนบอก

เขาก็ยังไม่รู้แน่ชัด ว่าตอนนี้เหมียวหยุนกว่าง จะมีฝีมือแข็งแกร่งไปถึงระดับไหน แต่รู้แน่ ๆ ว่า ในตัวของเหมียวหยุนกว่างกับเฉาเยว่ ต่างมีอะไรเปลียนแปลงเกิดขึ้น

พลังฝีมือของพวกเขา ต่างปะทุทวีเพิ่ม

ท้องฟ้าบ้านตระกูลฉิน เมฆครึ้มเข้าปกคลุม ดูประหนึ่งพายุฝนกำลังมา

ความน่าสะพรึงกลัวของกระแสกดดันจากผู้แข็งแกร่งแดนเทพ ทำเอาทุกคนสั่นเทิ้ม สิ่งที่พวกเขาได้รับอยู่ มันไม่ใช่ความกดดันแบบรับได้จากความกดดันของมนุษย์ แต่มันเป็นพลังเหนือฟ้า!

ในสายตาของพวกเขา เหมียวหยุนกว่างในทุกขณะนาทีนี้ เปรียบประดุจเทพแห่งฟ้าดินนี้ ทรงพลังไม่ธรรมดา

ตาทั้งคู่ของหยางเฉินเจิดจ้าด้วยประกายสู้ศึกที่แข็งกล้า พลังฝีมือบูโดของเขามาถึงขั้นนี้ คิดจะก้าวขึ้นไปอีก คงเป็นเรื่องแสนยาก

มีแต่การได้เข้าปะทะทำศึกที่หนักหน่วง จึงจะเป็นวิถีเสริมส่งให้พลังรุดก้าวขึ้น

และในขณะนั้นเอง เฉาเยว่เดิมทีที่ร้องครวญครางอยู่ ก็ได้หยุดครวญคราง

ทั้งตัวของเขาชุ่มเปียกไปด้วยเหงื่อ หายใจเข้าออกเป็นหอบใหญ่ ความเจ็บปวดสุดทนเมื่อสักครู่ก่อนนี้ พลันหายไปหมดสิ้น

ขณะเดียวกันนั้นเอง เขารู้สึกได้ถึง กระแสปราณบูโดที่กระเซ็นซ่าน เป็นกำลังภายในที่ทยอยออกมาทั่วร่าง

“ข้า...ข้า..นี่ข้า ทะลวงทะลุด่านแล้ว?”

เฉาเยว่พลันตื่นผวาขึ้นมา ความรู้สึกพลุ่งพล่านกระเซ็นซ่านของกำลังภายใน ดูเหมือนพลังที่แผ่กระจายออกมา มันทำให้เขาตื่นเต้นจนพูดอะไรไม่ถูก

“ไม่ต้องพูดพล่ามมาก ร่วมมือกับข้า จัดการฆ่าไอ้เด็กหนุ่มคนนี้!”

เหมียวหยุนกว่างพูดเสียงเฉียบ

“ฮะ ฮ้า ดีเลย!”

เฉาเยว่หัวเราะขึ้นมาในฉับพลัน หมัดทั้งสองข้างของเขา อีกทั้งตัวนั้นอัดแน่นด้วยพลังแข็งแกร่งสุด ๆ

ที่ทำให้เขาดีใจจนตื่นใจอย่างมากคือ พลังบูโดของเขาไม่เพียงแต่จะทะลุถึงขั้นกลางแดนเทพแล้วเท่านั้น แต่ยังคงปะทุต่อ ดูแล้วเข้าใกล้จะทะลุขั้นสุดท้ายแดนเทพแล้ว

และเหมียวหยุนกว่างในเวลานั้น พลังปราณบูโดในตัวยิ่งน่ากลัว เพียงชั่วเวลาอันสั้นนั้น พลังปราณในตัวของเขาก้าวขึ้นไปถึงขั้นสุดยอดแล้ว

“มันคือพลังสุดยอดแดนเทพหรือนี่?”

เหมียวหยุนกว่างรับรู้ถึงความปลื้มปิติของพลังที่เต็มอิ่มไปทั่วร่าง ถึงแม้ต้องทุ่มเทไปด้วยมูลค่าที่สูงมาก แต่เขาไม่รู้สึกเสียใจแม้แต่น้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War