สรุปตอน บทที่ 1202 รอต่อไป – จากเรื่อง The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง
ตอน บทที่ 1202 รอต่อไป ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง The king of War โดยนักเขียน เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
“เกิดอะไรขึ้นในโรงเรียนศิลปะการต่อสู้เยี่ยนตู?”
“ทำไมฉันถึงสัมผัสได้ถึงลมปราณแห่งวิถีบู๊ที่อยู่เหนือแดนเทพชั้นยอดจากสองคน?”
“คนหนึ่งคือหยางเฉิน อีกคนคือยอดฝีมือแดนเหนือมนุษย์ เขาเป็นใครกัน?”
ภายนอกโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ สีหน้าของยอดฝีมือแดนเทพเหล่านั้นเปลี่ยนไปอย่างมาก
ในเวลานี้พวกเขาได้ออกจากโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ไปแล้ว และถอยห่างออกไปเกือบร้อยเมตร จากระยะไกลเช่นนี้ พวกเขายังคงสัมผัสได้ถึงการปะทะกันของพลังอันน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่งของทั้งสองจากในโรงเรียนศิลปะการต่อสู้
หม่าชาวที่เพิ่งถอยออกมาจากโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ ในเวลานี้ได้เบิกตากว้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ “อีกคนหนึ่ง อย่าบอกว่าเป็นคุณปู่จ้าน?”
เมื่อครู่หวางจ้านเอาตัวเองอยู่ แล้วไล่เขาออกมา
เดิมทีเขายังไม่รู้ว่าการอยู่ของหวางจ้านจะมีประโยชน์อย่างไร แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว
แต่หวางจ้านนั้นไม่ได้อยู่ในระดับแดนเทพชั้นกลางหรือ?
แม้ว่าเขาจะมีวิธีเพิ่มระดับวิถีบู๊ แต่ก็คงไม่มีทางพัฒนาความสามารถขึ้นไปถึงแดนเหนือมนุษย์ได้ภายในช่วงเวลาสั้นๆ อย่างบ้าบิ่นเช่นนี้หรอกนะ?
ซ่างกวนโหรวเป็นคนสุดท้ายที่ออกจากโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ เธอย่อมรู้ว่าตอนนี้ในโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้มีเพียงหยางเฉินและหวางจ้านสองคน
แต่ในเวลานี้กลับมีพลังอานุภาพที่เหนือกว่าสุดยอดแดนเทพส่งออกมาจากภายในโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ว่าหวางจ้านได้ก้าวเข้าสู่แดนเหนือมนุษย์แล้ว
“นี่มัน เป็นไปได้ยังไง?”
ซ่างกวนโหรวพูดด้วยสีหน้าตกใจ “ยอดฝีมือแดนเทพชั้นกลางจะใช้วิธีลับเพื่อทำให้ระดับวิถีบู๊ทะลวงขึ้นสู่สุดยอดแดนเทพได้ยังไง?”
แม้ว่าเธอจะเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในเรื่องวิถีบู๊มากที่สุดในราชวงศ์ซ่างกวน แต่เธอก็ไม่เคยได้ยินเรื่องเช่นนี้มาก่อน
แต่มันคือความจริง ภายในโรงเรียนศิลปะการต่อสู้มีเพียงหยางเฉินและหวางจ้าน ดังนั้นลมปราณแห่งวิถีบู๊ทั้งสองที่เหนือกว่าสุดยอดแดนเทพจึงต้องมาจากพวกเขาเท่านั้น
“คุณปู่จ้าน คุณทำได้ยังไง?”
หม่าชาวกัดฟันพูด
เขาเองก็ไม่มั่นใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของหวางจ้าน แต่เขารู้ว่าหากสามารถทะลวงจากแดนเทพชั้นกลางไปถึงแดนเหนือมนุษย์ได้ในเวลาอันสั้น ผลที่ตามมาจะร้ายแรงมาก
เมื่อคิดว่าหวางจ้านบังคับให้เขาออกไป แต่กลับเหลือตัวเองอยู่เคียงข้างหยางเฉินตามลำพัง หม่าชาวก็ตระหนักได้ว่า สาเหตุที่หวางจ้านต้องการให้เขาออกไปก็คือคิดไว้อยู่แล้วว่าจะช่วยหยางเฉินอย่างไร
ลมปราณที่รุนแรงภายในร่างกายของหยางเฉินจำเป็นต้องได้รับการปลดปล่อยออกมา แต่ด้วยระดับวิถีบู๊ของเขา มีเพียงไม่กี่คนในใต้หล้าที่สามารถทนทานต่อมันได้
เว้นแต่จะมียอดฝีมือแดนเหนือมนุษย์อีกคนปรากฏตัวขึ้น ไม่เช่นนั้นสุดท้ายร่างกายของหยางเฉินจะระเบิดแตกสลาย เพราะไม่สามารถระบายความบ้าคลั่งที่มีอยู่ในร่างกายของเขาได้
“คุณหมายความว่า อีกคนหนึ่งคือท่านผู้อาวุโสหวางจ้านเหรอ?”
ซ่างกวนโหรวถามด้วยความประหลาดใจ
ดวงตาของหม่าชาวแดงก่ำ เขาจ้องเขม็งไปทางโรงเรียนศิลปะการต่อสู้และกัดฟันพูดว่า “ต้องเป็นเขาแน่!”
“แต่เขามีความสามารถแค่แดนเทพชั้นกลางเท่านั้น จะทะลวงผ่านไปยังแดนเหนือมนุษย์ได้ยังไง?”
ซ่างกวนโหรวถามด้วยสีหน้าไม่เชื่อ
แม้ว่าเธอจะรู้ว่าอีกคนคือหวางจ้าน แต่เธอก็ยังไม่สามารถยอมรับผลลัพธ์เช่นนี้ได้ในตอนที่หม่าชาวบอกเธอ
ก่อนจะถึงวันนี้เธอไม่รู้ว่าที่อยู่เหนือแดนเทพนั่นคือแดนเหนือมนุษย์
ตอนนี้มีแดนเหนือมนุษย์สองคนปรากฏตัวขึ้นอย่างคาดไม่ถึง
ไม่เพียงแต่ซ่างกวนโหรวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงยอดฝีมือแดนเทพซึ่งเป็นกองกำลังระดับสูงอื่นๆ ของเขาก็ล้วนมีสีหน้าตกตะลึง
ทางสมาคมบูโด สีหน้าของหวาอิงเจี๋ยซีดเผือด เขาเป็นยอดฝีมือแดนเทพชั้นยอด จึงย่อมรู้เรื่องนี้มากกว่าคนอื่นๆ
ถึงอย่างไรหวางจ้านก็เคยเป็นยอดฝีมือของราชวงศ์หลงมาก่อน หากเขามีความสามารถระดับแดนเหนือมนุษย์จริง มันจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับราชวงศ์หลง
“ไม่ใช่แต่หวางจ้านเท่านั้น แต่ยังรวมถึงหยางเฉินด้วย ความสามารถของแดนเหนือมนุษย์ที่เขามีนั้นไม่ถือว่าเป็นความสามารถในวิถีบู๊ของตัวเอง แต่เป็นการบังคับให้เพิ่มขึ้นโดยใช้วิธีการอะไรสักอย่าง”
ยอดฝีมือแดนเทพของราชวงศ์หลงกล่าวขึ้น “ถ้าเขาแข็งแกร่งขนาดนั้นจริง คงจะฆ่าพวกเราไปนานแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ทำ กลับกลายเป็นว่าคอยควบคุมพลังอาฆาตของตัวเองเอาไว้แทน”
“ยังมีหม่าชาวซึ่งเป็นเพื่อนพี่น้องของเขา และหวางจ้าน ต่างก็ห้ามไม่ให้เขาลงมือฆ่าคนมาก่อน”
“ด้วยเหตุนี้จึงมียอดฝีมือแดนราชาสิบคนโจมตีเขา หลังจากที่เขาฆ่ายอดฝีมือแดนราชาเหล่านั้นได้ภายในชั่วพริบตา เขาก็สูญเสียการควบคุมไปโดยสิ้นเชิง”
“ถ้าผมเดาไม่ผิด ร่างกายของเขาต้องมีปัญหาใหญ่แน่ เขาจะไม่สามารถใช้วรยุทธได้ หากเขาใช้มันก็จะสูญเสียการควบคุมและความแข็งแกร่งจะปะทุขึ้นอย่างมาก”
ในเวลานี้ ทางด้านราชวงศ์เย่ได้มียอดฝีมือแดนเทพคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “ถูกต้อง เดิมทีหยางเฉินไม่ใช่ยอดฝีมือแดนเหนือมนุษย์อะไรนั่นเลย สภาพร่างกายของเขายังเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นอีก”
“บางทีตอนนี้เขาอาจจะสูญเสียการควบคุมไปโดยสิ้นเชิง สิ่งเดียวที่เขาจะต้องเผชิญคือความตายเท่านั้น!”
ยอดฝีมือของราชวงศ์หลงและราชวงศ์เย่กล่าวต่อ ซึ่งทำให้เหล่ายอดฝีมือแดนเทพที่ไม่เต็มใจยอมรับรู้สึกดีขึ้นมาก
ถึงอย่างไรพวกเขาก็ฝึกฝนมาเป็นเวลาหลายสิบปีกว่าจะมีความสามารถระดับแดนเทพ หากชายหนุ่มอายุไม่ถึงสามสิบมีความสามารถระดับแดนเหนือมนุษย์ มันจะเป็นการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงสำหรับพวกเขา
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นพวกเราก็ต้องรอต่อไป หลังจากที่หยางเฉินและหวางจ้านตาย พวกเราจะเริ่มการแข่งขันแย่งชิงตำแหน่งคิงแห่งเยี่ยนตูใหม่อีกครั้ง ว่าไง?”
หลงเคอถามด้วยรอยยิ้ม
“ดี!”
“กำลังคิดแบบนี้อยู่เหมือนกัน!”
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็รอต่อไปแล้วกัน!”
ครู่หนึ่ง นอกจากราชวงศ์ซ่างกวนและราชวงศ์ต้วนแล้ว ยอดฝีมือของกองกำลังระดับสูงอื่นๆ ต่างพากันกล่าวขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...