ตอน บทที่ 1203 ได้โปรดมีสติกลับมา จาก The king of War – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1203 ได้โปรดมีสติกลับมา คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต The king of War ที่เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ภายในโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้เยี่ยนตูขนาดใหญ่ หยางเฉินและหวางจ้านผู้ก้าวเข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ กำลังต่อสู้กันอย่างบ้าคลั่ง
ความสามารถระดับสุดยอดแดนเทพมีอานุภาพทำลายล้างโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ได้อยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงสองยอดฝีมือที่ก้าวเข้าสู่ระดับแดนเหนือมนุษย์เลย
“ปังๆๆ!”
การโจมตีอันทรงพลังทำให้ทุกอย่างในโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ได้รับอานุภาพทำลายล้างอย่างรุนแรง
พื้นเดิมที่สมบูรณ์ไม่บุบสลายกลายเป็นตะปุ่มตะป่ำเพราะแรงปะทะอย่างมหาศาลก่อนหน้านี้แล้ว ได้เผยให้เห็นโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก
“ฮึ่ม!”
หยางเฉินคำรามด้วยความโกรธ ลมปราณที่พลุ่งพล่านในร่างกายของเขายิ่งเข้มข้นขึ้น ลมปราณเหนือมนุษย์อันน่าสะพรึงกลัวได้พัดตลบไปทุกทิศทาง
“ปังๆๆ!”
ผนังของโรงเรียนศิลปะการต่อสู้เยี่ยนตูขนาดใหญ่ล้มครืนลงกับพื้นเสียงดังลั่น
“โอ้พระเจ้า! โรงเรียนศิลปะการต่อสู้ถูกทำลายแล้วเหรอ?”
ยอดฝีมือของกองกำลังระดับสูงทั้งหลายที่ถอยห่างออกไป ในเวลานี้ได้เบิกตากว้างด้วยความเหลือเชื่อ
หม่าชาวทำหน้าบูดเบี้ยว เต็มไปด้วยความดุร้าย เขากำหมัดแน่น ปลายเล็บเจาะเข้าไปในฝ่ามือ แต่ดูเหมือนจะไม่มีความรู้สึกใดๆ
ยิ่งการต่อสู้ในโรงเรียนศิลปะการต่อสู้รุนแรงขึ้นเท่าใด ยิ่งเป็นการบอกว่าสถานการณ์ของหยางเฉินและหวางจ้านน่าเวทนามากขึ้นเท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นใคร หากได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงชีวิต มันจะเป็นความสะเทือนใจอย่างใหญ่หลวงของเขาทั้งนั้น
“พี่เฉิน คุณปู่จ้าน พวกคุณต้องต้านทานไว้ให้ได้นะ!”
หม่าชาวกัดฟันพูด
ซ่างกวนโหรวยืนอยู่ข้างหม่าชาว พูดปลอบว่า “คุณไม่ต้องกังวล พวกคุณหยางต้องไม่เป็นอะไร”
“ฮ่าๆ!”
และในเวลานี้เองก็มีเสียงหัวเราะเยาะดังขึ้น หลงเคอมาพร้อมกับยอดฝีมือของราชวงศ์หลง
เขายิ้มและพูดว่า “คุณซ่างกวน ผมว่าคุณคิดมากเกินไปแล้ว”
“พวกเขาสองคน หนึ่งในนั้นได้สูญเสียสติสัมปชัญญะไปอย่างสิ้นเชิง อีกคนก็ไม่รู้ว่าใช้วิธีลับอะไร เพิ่มความสามารถจากแดนเทพชั้นกลางขึ้นสู่แดนเหนือมนุษย์อย่างเร่งรัด”
“คุณคิดว่า ต่อให้ทั้งสองคนนี้ฟื้นขึ้นมาได้จริงๆ โอกาสรอดชีวิตจะเหลือมากน้อยแค่ไหน?”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลงเคอ สีหน้าของซ่างกวนโหรวก็มืดมนลงอย่างที่สุด เธอกัดฟันพูดว่า “คุณลำพองแบบนี้ ไม่กลัวว่าจะมีใครรอดเหรอ?”
เมื่อมองไปทางโรงเรียนศิลปะการต่อสู้ที่มีฝุ่นตลบ หลงเคอก็สะดุ้งโดยไม่ตั้งใจ
ถ้าหยางเฉินและหวางจ้านมีใครในสองคนนี้รอดชีวิตมาได้ มันจะเป็นโศกนาฏกรรมของราชวงศ์หลงอย่างแท้จริง
“ฮึ!”
หลงเคอกล่าวอย่างเย็นชา “พวกเขาทั้งสองคน จะไม่มีใครรอดชีวิตทั้งนั้น!”
“ผัวะ!”
เงาร่างหนึ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว ปรากฏกายขึ้นตรงหน้าหลงเคอ เขาคว้าลำคอหลงเคอไว้ จากนั้นร่างของหลงเคอก็ถูกยกขึ้นไปในอากาศ
“ปล่อยฝ่าบาทนะ!”
ยอดฝีมือของราชวงศ์หลงตกตะลึงในทันที รีบเข้ามาตวาดใส่เขา
ซ่างกวนโหรวก็ประหลาดใจเช่นกัน เธอคิดไม่ถึงว่าหม่าชาวจะลงมือกับหลงเคออย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ในเวลานี้ดวงตาของหม่าชาวแดงฉาน ภายใต้สีแดงดั่งเลือดนั้นมีเจตนาฆ่าที่รุนแรงซ่อนอยู่
เขาจ้องเขม็งไปที่หลงเคอและกัดฟันพูดว่า “แกอยากตายขนาดนี้เชียวหรือ?”
แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ในเวลานี้เขาก็ยังสามารถปลดปล่อยลมปราณแห่งวิถีบู๊ที่อยู่เหนือระดับแดนเทพชั้นกลางออกมาได้
สำหรับหลงเคอ ตัวเขาเป็นเพียงยอดฝีมือระดับแดนเทพชั้นกลางเท่านั้น เมื่อเผชิญหน้ากับหม่าชาว ก็ไม่มีกำลังต่อสู้กลับแม้แต่นิดเดียว
ยอดฝีมือของราชวงศ์หลงโกรธจัดและข่มขู่ว่า “ไอ้สารเลว รีบปล่อยฝ่าบาทเดี๋ยวนี้!”
“ถ้าใครกล้าเห่าสุ่มสี่สุ่มห้าอีก ฉันจะฆ่าไอ้สวะนั่นก่อนใคร!”
หม่าชาวกล่าวอย่างเย็นชาพร้อมกับกวาดสายตามองยอดฝีมือของราชวงศ์หลงด้วยดวงตาสีแดงก่ำ
ในขณะเดียวกัน มือที่เขาจับลำคอของหลงเคอก็ออกแรงเพิ่มอย่างฉับพลัน
เขารู้สึกไม่ยอมจำนน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ทำได้เพียงภาวนาในใจ ปล่อยให้หยางเฉินตายในการต่อสู้ครั้งนี้
ในเวลานี้ ทางด้านโรงเรียนศิลปะการต่อสู้กำลังวุ่นวายโกลาหล
การประมือกับยอดฝีมือแดนเหนือมนุษย์ ยอดฝีมือแดนเทพเหล่านี้ไม่สามารถมองเห็นเงาร่างของพวกเขาอย่างชัดเจนได้เลย สัมผัสได้เพียงลมปราณอันรุนแรงแผ่กระจายไปทั่วทุกทิศทาง
จุดที่โรงเรียนศิลปะการต่อสู้ตั้งอยู่ได้กลายเป็นซากปรักหักพังอย่างสมบูรณ์ หยางเฉินและหวางจ้านได้เข้าสู่สภาวะที่แข็งแกร่งที่สุดของทั้งสอง
ไม่มีใครรู้ว่า ในเวลานี้ร่างกายของหวางจ้านได้รับแรงกดดันมากแค่ไหน พลังที่ทวีเพิ่มขึ้นในร่างกายของเขาอย่างไม่ขาดสาย คล้ายกำลังจะระเบิดร่างกายของเขาแล้ว
แต่เขาก็พยายามต้านทานไว้อยู่ตลอด แม้ว่าทวารทั้งเจ็ดจะมีเลือดออกมา แต่เขาก็ยังพยายามต้านทานไว้อย่างเต็มที่ เพราะเขารู้ดีว่า หากเขาไม่สามารถต้านทานไว้ได้อีก หยางเฉินจะต้องสูญสิ้นจริงๆ
ตอนนี้ได้ผ่านไป 7-8 นาทีแล้วนับตั้งแต่เขาได้กินยาวิเศษเข้าไป เหลือเวลาอีกเพียง 2-3 นาทีสุดท้ายก่อนถึงกำหนดสิบนาที
แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีวี่แววว่าหยางเฉินจะได้สติกลับมาเลย ลมปราณที่พลุ่งพล่านอยู่ในร่างกายของเขาเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาเต็มไปด้วยความกังวล
“คุณหยาง เพื่อภรรยา เพื่อลูกสาว เพื่อญาติมิตรที่อยู่ข้างกายคุณ คุณต้องอดทนไว้!”
หวางจ้านเหวี่ยงหมัดออกไปแล้วตะโกนว่า “คุณหยาง ตื่นได้แล้ว!”
เขาคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว พร้อมกับโจมตีหยางเฉินอย่างบ้าคลั่ง
ในเวลานี้ลมปราณแห่งวิถีบู๊ของหยางเฉินเหนือกว่าเขามาก แม้ว่าเขาจะพยายามอย่างสุดกำลัง แต่ก็ทำอะไรหยางเฉินไม่ได้เลย ทำได้แค่รอให้หยางเฉินปลดปล่อยออกมา จึงจะสามารถฟื้นคืนสติได้
สองนาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ร่างกายของหวางจ้านเต็มไปด้วยเลือด แม้แต่ผิวหนังก็ปริแตก มันไม่ได้เกิดจากการจู่โจมของหยางเฉิน แต่ร่างกายของเขาไม่สามารถทนรับลมปราณแห่งวิถีบู๊ระดับแดนเหนือมนุษย์ได้
แต่หยางเฉินยังคงคลุ้มคลั่งและไม่มีทีท่าว่าจะได้สติกลับมา
“หยางเฉิน! มีสติหน่อยสิ! ได้สติเดี๋ยวนี้!”
หวางจ้านคำรามเสียงลั่นสุดกำลังของเขา
“อ๊อก!”
ในที่สุดเขาก็ยืนหยัดไม่ไหวอีกต่อไป หลังจากที่ตะโกนออกไป เขาก็กระอักเลือดออกมาทันที ความสามารถระดับแดนเหนือมนุษย์หายไปในชั่วพริบตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...