The king of War นิยาย บท 1229

สรุปบท บทที่ 1229 ข้าไม่เห็นด้วย: The king of War

สรุปเนื้อหา บทที่ 1229 ข้าไม่เห็นด้วย – The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง

บท บทที่ 1229 ข้าไม่เห็นด้วย ของ The king of War ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

“ยินดีด้วย องค์ชายห้า!”

“ยินดีด้วย องค์ชายห้า!”

……

ภายในห้องประชุม ทุกคนพากันแสดงความยินดี

ต้วนหวูเหยียนยิ้มสดใส ลุกขึ้นกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ต่อไปทุกท่านได้โปรดช่วยชี้แนะด้วย!”

ในเวลานี้ ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจว่า ทำไมต้วนหวูเหยียนถึงสามารถนั่งบนที่นั่งทางด้านขวาของกษัตริย์ต้วนได้ ที่แท้เขาได้ก้าวเข้าสู่ระดับแดนเทพชั้นปลายแล้ว

“พี่รอง ต่อไปได้โปรดชี้แนะด้วย!”

ในที่สุดต้วนหวูเหยียนก็มองไปที่ต้วนหวูหยา และกล่าวด้วยรอยยิ้ม

“แน่นอนอยู่แล้ว! ยินดีด้วยน้องห้า!”

ต้วนหวูหยากล่าวขึ้น

ไม่ว่าภายในใจเขาจะไม่ยินยอมแค่ไหน แต่ก็ต้องยอมรับว่าความสามารถด้านวิถีบู๊ของต้วนหวูเหยียนนั้นแซงหน้าเขาไปแล้ว

ความต่างอายุสองปีแต่อยู่ในระดับเดียวกับเขา ได้แสดงให้เห็นว่าใครกันแน่ที่เป็นสุดยอดวรยุทธอันดับหนึ่งของราชวงศ์ต้วน

ต้วนหวูหยาเข้าใจเหตุผลข้อนี้ดี สมาชิกคนอื่นๆ ของราชวงศ์ต้วนก็ย่อมรู้ดีเช่นกัน เพียงชั่วครู่เดียว สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่ต้วนหวูหยา

เดิมทีต้วนหวูหยาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สืบทอดราชบัลลังก์ ซึ่งทำให้สถานะของเขาในราชวงศ์ต้วนมีเสถียรภาพ

แต่ตอนนี้ สถานะของเขาดูเหมือนจะถูกสั่นคลอนแล้ว

“ตามธรรมเนียมที่ผ่านมา ใครก็ตามที่มีคุณูปการมากมายต่อราชวงศ์ ก็สามารถร้องขออะไรจากข้าได้ ข้าจะตอบตกลงอย่างแน่นอน!”

กษัตริย์ต้วนมองต้วนหวูเหยียนด้วยความพึงพอใจ

“เสด็จพ่อ ที่หวูเหยียนสามารถก้าวเข้าสู่ระดับแดนเทพชั้นปลายได้ ก็เพราะการฝึกอบรมของท่าน แล้วจะนับว่าเป็นการสร้างคุณูปการอย่างใหญ่หลวงให้กับราชวงศ์ได้อย่างไร? หวูเหยียนไม่กล้าขออะไรทั้งนั้น”

ต้วนหวูเหยียนรีบลุกขึ้นพูด

“ต้องอาศัยพรสวรรค์ในด้านวิถีบู๊และความอุตสาหะของตนเอง ถึงได้ฟันฝ่าเข้าสู่ระดับแดนเทพชั้นปลาย ต่อให้ทางราชวงศ์จะให้การฝึกอบรมอย่างสุดกำลัง แล้วอย่างไรล่ะ?”

กษัตริย์ต้วนพูดเสียงดังชัดเจน “ในฐานะพระโอรส การฟันฝ่าเข้าสู่ระดับแดนเทพชั้นปลาย ตัวข้านั้นถือว่าเป็นคุณูปการอย่างยิ่ง หากต้องการสิ่งใดก็สามารถขอจากข้าได้ทุกอย่าง!”

เมื่อได้ยินคำพูดของกษัตริย์ต้วน ต้วนหวู่เหยียนก็มองไปทางต้วนหวูหยา ประกายวิบวับปรากฏขึ้นในส่วนลึกของดวงตา ก่อนจะเอ่ยปากว่า “เช่นนั้น ข้าก็มีความกล้าที่จะขออะไรเสด็จพ่อแล้ว”

“เสด็จพ่อจะยกจวนเล็กที่หัวมุมตะวันออกเฉียงเหนือของวังให้ข้าได้ไหม?”

ทันทีที่เขาได้ยินสิ่งนี้ สีหน้าของต้วนหวูหยาก็ถอดสี ความโกรธเกรี้ยวอันรุนแรงได้แผ่ซ่านออกจากตัวเขา

“หืม?”

กษัตริย์ต้วนเลิกคิ้วขึ้นและมองไปทางต้วนหวูหยาอย่างเย็นชา

ต้วนหวูหยาถึงได้ตระหนักว่าตนเองนั้นควบคุมอารมณ์ไม่อยู่แล้ว จึงรีบข่มความโกรธและกำหมัดทั้งสองแน่น ตอนที่มองไปทางต้วนหวูเหยียน สายตานั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา

ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมต้วนหวูเหยียนถึงกล้ายั่วยุเขา รวมถึงสิ่งที่เขาพูดในจวนเล็กนั้นหมายความว่าอย่างไร

จวนเล็กที่หัวมุมตะวันออกเฉียงเหนือของวัง เป็นสถานที่ที่เขาและภรรยาผู้ล่วงลับเคยอาศัยอยู่มาก่อน

“เจ้าแค่ต้องการจวนเล็กหลังนั้นน่ะหรือ?”

กษัตริย์ต้วนถามด้วยสีหน้างุนงงทันที “ถ้าข้าจำไม่ผิด จวนหลังเล็กที่หัวมุมตะวันออกเฉียงเหนือของวังเป็นสถานที่ที่หวูหยาเคยอาศัยอยู่ใช่ไหม?”

ต้วนหวูเหยียนพยักหน้าและพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ข้าเล็งจวนเล็กหลังนั้นอยู่ พี่รองก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นมาหลายปีแล้ว”

“แม้ว่าจวนเล็กจะเล็กมาก แต่ก็เงียบสงบและอยู่ใกล้กับภูเขาและแม่น้ำ เป็นสถานที่ที่ดีสำหรับการฝึกฝน”

“ในเมื่อพี่รองไม่ได้เข้าไปอยู่มานานแล้ว ทำไมไม่มอบที่นี่ให้กับน้องล่ะ น้องจะสามารถใช้ประโยชน์จากสถานที่แห่งนี้ได้ สะดวกสำหรับน้องในการฝึกฝนวรยุทธด้วย”

“ไม่ทราบว่าพี่รองจะยินดีมอบจวนเล็กว่างๆ หลังนี้ให้กับข้าไหม”

ทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็พากันจับจ้องไปที่ต้วนหวูหยา

“เสด็จพ่อ...”

ก่อนที่ต้วนหวูเหยียนจะได้พูดอะไรอีก กษัตริย์ต้วนก็ตัดบท “ในเมื่อข้ามอบยาบำรุงร่างกายให้แก่เจ้าแล้ว ก็ย่อมไม่เอาคืน”

“สำหรับข้าแล้ว ยาบำรุงร่างกายไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เจ้าเพิ่งก้าวเข้าสู่ระดับแดนเทพชั้นปลาย การกินยาบำรุงร่างกายจะมีประโยชน์มากสำหรับเจ้า”

ต้วนหวูเหยียนรีบกล่าวว่า “ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!”

“ฮ่าฮ่า ดี!”

กษัตริย์ต้วนอารมณ์ดีมาก บรรดาทายาทสายตรงคนอื่นๆ ก็สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติเช่นกัน พากันพูดว่า “องค์ชายห้ามีจิตใจกตัญญูงดงามมาก!”

“สมกับที่เป็นพระโอรสของราชวงศ์ต้วน มีพรสวรรค์โดดเด่นในด้านวิถีบู๊และรู้จักกตัญญูกตเวที”

“มีสุดยอดวรยุทธอย่างพระโอรสหวูเหยียนอยู่ การเติบโตของราชวงศ์ต้วนก็อยู่ใกล้แค่เอื้อม!”

ทุกคนพากันกล่าวขึ้น

“เสด็จพ่อ ข้าไม่เห็นด้วย!”

ขณะที่ทุกคนพากันพูดถึงความเป็นเลิศของต้วนหวูเหยียน ทันใดนั้นก็มีเสียงที่ไม่พึงประสงค์ดังก้องไปทั่วห้องประชุม

ดวงตาของต้วนหวูหยาแดงก่ำ กัดฟันพูดว่า “เสด็จพ่อ จวนเก่าที่หัวมุมตะวันออกเฉียงเหนือเป็นสถานที่ที่ข้าและหยวนเอ๋อร์เคยอาศัยอยู่ แม้ว่าจะไม่ได้ใช้งาน แต่ข้าก็ไปทำความสะอาดเองทุกวัน”

“จวนเล็กหลังนั้นมีความทรงจำที่งดงามของข้ากับหยวนเอ๋อร์ ข้าจะยกที่นั่นให้ใครไม่ได้!”

พอต้วนหวูหยาพูดออกมาเช่นนี้ ก็สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคน!

ทุกคนมองไปที่เขา ถ้าเขากล้าปฏิเสธคำขอของกษัตริย์ต้วนในการประชุมที่สำคัญเช่นนี้ นั่นเท่ากับรนหาที่ตายชัดๆ

“เจ้าพูดอะไรน่ะ?”

ตามที่คาดไว้ สีหน้าของกษัตริย์ต้วนเย็นชาลงอย่างถึงที่สุด พลังกดดันอันน่าสะพรึงกลัวของวิถีบู๊ได้แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของเขาและปกคลุมต้วนหวูหยาทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War