เหล่าลูกน้องของหลิวข่ายล้วนท่าทางเฉยเมย ไม่ได้แปลกใจเลยสักนิดเดียว เหมือนว่าเห็นเหตุการณ์ลักษณะนี้มาจนเคยชินตั้งนานแล้ว
หยางเฉินตกใจอยู่บ้างนิดหน่อย คาดไม่ถึงว่าหลิวข่ายโอหังเช่นนี้ ถึงแม้ที่นี่เป็นเขตอิทธิพลของเขา แต่พอเสียงปืนดังขึ้น เขาก็หนีไม่รอดความเกี่ยวข้องเช่นกัน
หวังเฉียงอยากจะหันปากกระบอกปืน ทว่าไม่ทันเสียแล้ว แต่ในสายตาของเขาไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย มีเพียงความเกลียดเข้มข้น ยังมีความไม่ยินยอมด้วย
“ปึก!”
ชั่วขณะนั้นที่นิ้วชี้ของหลิวข่ายเพิ่งกดลงยังไกปืน ไพ่โป๊กเกอร์ใบหนึ่งก็ลอยออกไปในชั่วขณะหนึ่ง กำลังมหาศาล มีเสียงลมหวืดขึ้นมา
“พรึ่บ!”
เขายังไม่ทันได้ลั่นไกปืน มือที่ถือปืน จากข้อมือขึ้นมาถูกตัดจนขาด ปืนกับมือหล่นลงบนพื้นพร้อมกัน ด้านข้างยังมีไพ่โป๊กเกอร์เปื้อนเลือดสดใบหนึ่งด้วย
“อ๊าก......”
แวบเดียว เสียงร้องโหยหวนที่เจ็บปวดดังก้องทั้งห้องส่วนตัว
สายตาของทุกคนตกอยู่บนตัวของหยางเฉินกันหมด ในสายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจกลัว ไม่รู้ว่าตอนไหน ในมือหยางเฉินมีไพ่โป๊กเกอร์จำนวนหนึ่ง เวลานี้กำลังเล่นอยู่ไม่หยุด
บนศีรษะล้านของหวังเฉียงเหมือนถูกล้างอยู่เลย น้ำเหงื่อไหลลงจากศีรษะไม่ขาดสาย ไหลเข้าในดวงตา จากนั้นเขาถึงได้กะพริบตา
เวลานี้เหล่าลูกน้องพวกนั้นของหลิวข่ายสั่นเทาไปทั่วทั้งร่างกาย
เมื่อสักครู่หวังเฉียงใช้ปืนจ่อศีรษะของหลิวข่าย บังคับพวกเขาให้วางปืนลงบนโต๊ะให้หมด เวลานี้กลับไม่มีใครกล้าไปหยิบสักคน
หลิวข่ายกอดมือข้างขวาไม่ขาด เจ็บจนนอนกลิ้งไปทั่วพื้น ไม่นานเสียงร้องโหยหวนกก็หยุดลงฉับพลัน คาดไม่ถึงหมดสติสลบไปทันที
หลังจากที่หยางเฉินตามหลิวข่ายเข้ามาในห้องส่วนตัว คนที่มาดูเรื่องสนุกมากมายล้วนรอดูบทสรุปอยู่ข้างนอก ไม่รอให้หยางเฉินออกมา กลับได้ยินเสียงร้องโหยหวนหนึ่งดังขึ้น
“กล้ามาก่อเรื่องถึงถิ่นของหลิวข่าย ยังไม่เจียมตัวเองเสียจริง ตอนนี้เสร็จแล้ว เดาว่าคงโดนหลิวข่ายฆ่าทิ้งเรียบร้อยแล้ว”
“เสียงนี้ฟังดูยังทรมานจริงๆ ด้วย ดูแล้วเจ้าหมอนั้นคงได้รับบาดเจ็บหนักทีเดียว ไม่อย่างนั้นคงไม่หยุดคำรามไปกะทันหันหรอก”
“เสียงร้องคำรามหยุดลง ดูท่าทางน่าจะสลบไปแล้ว”
คนที่มาดูเรื่องสนุกด้านนอกประตูต่างพูดจาแบบเวทนากัน
เพียงแค่อ้างอิงจากเสียงร้องโหยหวน เดิมทีไม่มีทางแน่ใจได้ว่าเป็นใครร้องออกมา แต่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ไม่มีใครคิดว่าเสียงร้องคำรามนี้เป็นเสียงที่หลิวข่ายร้องออกมาเลย
ฉินซีที่เดิมทีกังวลมากอยู่แล้ว เวลานี้ยิ่งกังวลเข้าไปใหญ่ เธอรู้จักเสียงของหยางเฉินเป็นอย่างดี เสียงร้องนี้ไม่ค่อยเหมือนของหยางเฉินเท่าไร แต่ในห้องส่วนตัวนอกจากหยางเฉินแล้ว คนอื่นล้วนเป็นคนของหลิวข่ายทั้งหมด
ฉินซีไม่สนใจอะไรมากมายอีกต่อไป วิ่งเข้าไปหมายจะพุ่งเข้าห้องส่วนตัว แต่ว่าหน้าประตูกลับมีบอดี้การ์ดของเมืองคิงเฝ้าอยู่ เดิมทีเธอเข้าไปไม่ได้
“นายชื่ออะไร?”
ทันใดนั้นหยางเฉินมองทางหวังเฉียงที่หน้าตาตกใจกลัวพลันถามขึ้นมา
ตอนแรกที่ปู๋เย่เฉิง หวังเฉียงรู้สึกได้ว่าหยางเฉินไม่ธรรมดา วันนี้ใช้ไพ่โป๊กเกอร์ตัดข้อมือของหลิวข่ายจนขาด ยิ่งพิสูจน์ความคิดในใจเขาได้อย่างกระจ่าง
เวลานี้พอหยางเฉินสอบถามมา เขาสั่นไปทั่วตัว เสียง“ปึก”ทีหนึ่ง คุกเข่าทั้งคู่ลงแทบเท้าของหยางเฉินอย่างแรง ก้มศีรษะลง พูดด้วยน้ำเสียงที่ทั้งเคารพทั้งหนักแน่น “ผมชื่อหวังเฉียงครับ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขอติดตามรับใช้คุณหยางเพียงผู้เดียวครับ!”
คนอื่นๆ เห็นสถานการณ์นี้ ต่างทำหน้าตื่นตกใจ
หวังเฉียงไม่มีอำนาจจริงในเมืองคิง ปรมาจารย์ที่สองก็เป็นเพียงตำแหน่งในนามอันหนึ่ง แต่ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาควบคุมปู๋เย่เฉิง ยังเป็นบุคคลที่โด่งดังในโลกใต้ดินที่เมืองเจียงโจว ตอนนี้คาดไม่ถึงว่าจะคุกเข่าลงแทบเท้าชายหนุ่มคนหนึ่ง
ถึงแม้หยางเฉินจะใช้ไพ่โป๊กเกอร์ใบหนึ่งตัดข้อมือของหลิวข่ายขาดไป แต่เดิมทีพวกเขามองไม่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพียงคิดว่าไพ่โป๊กเกอร์คือของบังหน้า สิ่งที่ตัดข้อมือหลิวข่ายขาดที่แท้จริงน่าจะเป็นของอย่างอื่น
ดังนั้นถึงแม้พวกเขาจะหวาดกลัวหยางเฉิน แต่จะไม่เป็นเหมือนหวังเฉียงที่คุกเข่ายอมจำนนแบบนั้น
ถึงแม้ว่าหลิวข่ายจะมือขาดไปข้างหนึ่ง แต่ยังมีชีวิตอยู่ อาจจะควบคุมเมืองคิงได้ใหม่อีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...