มีอีกคนหนึ่งก้าวไปข้างหน้าและพูดอย่างโกรธเกรี้ยว “ตระกูลลู่เห็นเราเป็นพวกอ่อนหัดเหรอ? พวกคุณกล้าแอบโจมตีตระกูลจาง แต่กลับถูกตระกูลจางฆ่าผู้แข็งแกร่งสองคน พวกคุณไม่กล้าไปหาเรื่องตระกูลจาง ก็เลยมารังแกพวกเราแทนงั้นหรือ?”
“ลู่ชวน วันนี้ถ้าไม่ส่งคนออกมา ก็อย่าหาว่ากองกำลังของพวกเราร่วมมือกันปราบปรามตระกูลลู่ของพวกคุณแล้วกัน!”
“ส่งคนออกมา!”
“ใช่แล้ว ส่งคนออกมาเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้นวันนี้เราจะทำลายตระกูลลู่!”
……
เพียงชั่วครู่ ทุกคนก็เริ่มมีอารมณ์ฮึกเหิม แต่ละคนตะโกนให้ตระกูลลู่ส่งคนออกมา
จนกระทั่งในเวลานี้เอง ลู่ชวนถึงรู้ว่าคนเหล่านี้พุ่งเป้ามาที่หยางเฉิน แต่เขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น
อย่าบอกนะว่า หยางเฉินทำเพื่อตระกูลลู่ เมื่อคืนวานจึงได้แอบยื่นมือเข้าช่วยเหลือ สังหารผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นต้น?
เพราะกองกำลังเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลจาง
ลู่ชวนสงสัยว่าการตายของนายฟางและนายหงทำให้ลู่ฉิงเสว่หงุดหงิด เธอจึงให้หยางเฉินเคลื่อนไหว
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ความกังวลในหัวใจของลู่ชวนก็หายไปด้วย
“ฮึ!”
สายตาของลู่ชวนเยือกเย็น กล่าวอย่างเย็นชา “พวกคุณสำคัญตัวเองผิดไปหรือเปล่า? ผมจะบอกพวกคุณให้นะ ในสายตาของตระกูลลู่ พวกคุณไม่มีค่าอะไรเลย”
“พวกคุณต้องการมาขอคำอธิบายจากตระกูลลู่ของเราไม่ใช่เหรอ? ได้! แสดงหลักฐานให้เราเห็นก่อน ถ้าพวกคุณแค่อ้างอิงจากภาพเบลอๆ ของกล้องวงจรปิด แล้วจะมากล่าวโทษตระกูลลู่ของเรา ขอโทษนะ ตระกูลลู่ของผมไม่ยินยอม!”
ในเวลานี้ท่าทีของลู่ชวนแข็งกร้าวมาก
กองกำลังเหล่านี้ที่มา มีบางส่วนอยู่ในระดับเดียวกับตระกูลลู่ หรือต่อให้ด้อยกว่า ก็ด้อยกว่าไม่มาก
เมื่อได้ยินคำพูดของลู่ชวน ทุกคนก็ยิ่งโกรธทันที
ชายวัยกลางคนที่นำหน้าหรี่ตาลงและพูดว่า “ลู่ชวน พูดแบบนี้แสดงว่าตระกูลลู่ไม่ยอมส่งคนออกมาแล้วใช่ไหม?”
“ไม่ให้!”
ลู่ชวนกล่าวอย่างเย็นชา
“คุณไม่กลัวว่าตระกูลของพวกเราเหล่านี้จะร่วมมือกันทำลายตระกูลลู่ของคุณเหรอ?”
ชายคนนั้นกล่าวต่อ “คุณไม่ดูหน่อยว่า สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไง? ยังกล้าหยิ่งผยองต่อหน้าพวกเรา?”
แม้ว่าจะมีผู้แข็งแกร่งหลายคนอยู่ข้างกายลู่ชวน แต่ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็มาจากการร่วมมือกันของกองกำลังที่อยู่ระดับเดียวกับตระกูลลู่ อย่าว่าแต่ตระกูลลู่เลย ต่อให้เป็นตระกูลหลี่กับตระกูลจาง หากได้พบกับกำลังพลที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ก็มีแต่จะพินาศย่อยยับเท่านั้น
“ผมอยากจะเห็นนัก ว่าใครจะกล้าอวดดีในตระกูลลู่ของผมบ้าง?”
ลู่ชวนก้าวออกมาข้างหน้า ร่างกายเต็มไปด้วยจิตวิญญาณการต่อสู้ เขากวาดสายตามองฝูงชนด้วยสายตาข่มขู่ พลางหรี่ตากล่าวว่า “ไม่ว่าพวกคุณจะเป็นใคร ถ้าออกไปตอนนี้ ผมจะแกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“มิฉะนั้น หากเริ่มลงมือก็จะไม่มีทางหวนกลับมาแล้ว พวกคุณควรคิดให้รอบคอบ ก่อนจะตัดสินใจว่าจะออกไปหรือเคลื่อนไหว”
ในเวลานี้ท่าทีของลู่ชวนแข็งแกร่งมาก หยิ่งผยอง และไม่มีความหวาดกลัวอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
มันทำให้คนของกองกำลังแต่ละฝ่ายที่มาก่อเรื่องที่ตระกูลลู่ ล้วนมีสีหน้าเคร่งขรึม
ในสถานการณ์แบบนี้ ต่อให้เป็นตระกูลหลี่กับตระกูลจางก็ต้องหลีกเลี่ยงการปะทะชั่วคราว แต่พวกเขามองไม่เห็นความหวาดกลัวใดๆ อยู่บนใบหน้าของลู่ชวนเลย
ถ้ามีอะไรผิดปกติย่อมต้องมีความไม่ชอบมาพากลแน่นอน!
หรือจะบอกว่า ตระกูลลู่มีความมั่นใจที่จะต่อสู้กับกองกำลังเหล่านี้ในเวลาพร้อมๆ กัน?
“ฮึ!”
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครเคลื่อนไหวอะไร ลู่ชวนก็ยิ้มอย่างดูถูกและกล่าวอย่างเย็นชา “จะให้เวลาคุณอีกห้านาทีสุดท้าย ถ้ายังไม่ออกไปจากตระกูลลู่ของเรา จะถือว่าเป็นศัตรูของตระกูลลู่ทั้งหมด!”
พูดจบเขาก็คำราม “หนุ่มๆ ตระกูลลู่จงฟังคำสั่ง ห้านาทีหลังจากนี้ ให้ฆ่าคนนอกทั้งหมดที่ยังคงอยู่ในตระกูลลู่ สังหารให้หมดสิ้น!”
“ครับท่าน!”
เสียงคำรามดังก้องไปทั่วคฤหาสน์ของตระกูลลู่ สั่นสะเทือนไปทั่วฟ้าดิน
สิ่งนี้ทำให้สีหน้าของคนในกองกำลังที่ร่วมมือกันแย่ลงอย่างถึงขีดสุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...