เมื่อกลุ่มต่างๆนำผู้แข็งแกร่งแดนเทพเดินทางไปที่ราชวงศ์เย่ ส่วนหยางเฉินเองก็นำผู้แข็งแกร่งสามจักรพรรดิแดนเหนือมนุษย์ และยังมีผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดนับสิบคน เดินทางตรงไปที่ราชวงศ์เย่เหมือนกัน
หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป หยางเฉินและพรรคพวกก็มาถึงประตูทางใต้ของคฤหาสน์ราชวงศ์เย่
ในตอนนั้นเอง ประตูทางใต้ มีผู้แข็งแกร่งแดนเทพอยู่ไม่ต่ำกว่าสิบคนเฝ้าอยู่ เมื่อเห็นหยางเฉินพาพวกมา ผู้แข็งแกร่งที่เฝ้าประตูทางใต้อยู่ ก็หวาดกลัวขึ้นมาทันที
คนพวกนี้ไม่ใช่คนของราชวงศ์เย่ แต่เป็นคนในเมืองราชวงศ์เย่ และเป็นตระกุลที่แข็งแกร่งระดับต้นๆของเมือง ส่วนมากก็จะเป็นแดนเทพชั้นต้นและผู้แข็งแกร่งแดนกลาง และส่วนผู้แข็งแกร่งระดับแดนเทพขั้นปลายมีแค่สามคน และมีผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอด แค่คนเดียว
พวกเขารู้ดีว่า หยางเฉินนั้นเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ โดยเฉพาะคนที่เป็นหัวหน้าที่เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอด ก่อนหน้านี้เคยไปร่วมงานวันเกิดของเย่หลิน แน่นอนว่าต้องเคยเจอหยางเฉินมาก่อน
ขณะนั้นเองเมื่อเขาเห็นหยางเฉินพาผู้แข็งแกร่งมา เขาก็กลัวจนสั่นไปทั้งตัว
หยางเฉินเหลือบไปมองพร้อมกับหัวเราะเยาะ "ราชวงศ์เย่นี้น่าสมเพชจริงๆ ให้ผู้แข็งแกร่งทั้งหมดรวมตัวกันอยู่แต่ในคฤหาสน์ราชวงศ์ และให้ตระกูลอื่นๆ ในเมืองราชวงศ์เย่ มาเฝ้าประตูเนี้ยน่ะ"
เขามองแป๊บเดียวก็รู้ถึงความสามารถของคนพวกนี้ เย่หลินเองก็ไม่ใช่คนโง่ ก็รู้อยู่ว่าเขาเป็นถึงผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ แค่ให้ผู้แข็งแกร่งแดนเทพรับผิดชอบดูแลที่นี่ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาถูกส่งมาตาย
หลี่จ้งก็หัวเราะเยาะ "ฉันได้ยินมาว่า เมื่อก่อนเมืองราชวงศ์เย่ เคยถูกราชวงศ์เย่ปฏิวัติมาก่อน ดูเหมือนว่าแค่นี้ราชวงศ์เย่ยังไม่พอใจ ถึงขั้นต้องยืมมือของคุณหยาง เพื่อบั่นทอนตระกูลชั้นนำที่มีผู้แข็งแกร่งแดนเทพของเมืองราชวงศ์เย่ ถ้าเป็นแบบนี้ ต่อให้ภายหลังราชวงศ์เย่จะรอดไปได้ ในเมืองราชวงศ์เย่ก็จะไม่มีตระกูลชั้นนำคอยสนับสนุนให้การช่วยเหลือราชวงศ์เย่อีกต่อไป"
เมื่อฟังคำพูดของหลี่จ้งแล้ว ผู้คนที่เฝ้าประตูทางใต้อยู่ ก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
เดิมทีพวกเขาก็เป็นกังวลอยู่แล้วว่า พวกเขาจะถูกส่งมาเป็นโล่ป้องกัน ไม่นึกว่าทันทีที่มาถึงราชวงศ์เย่ ยังไม่ทันได้เดินเข้าไปข้างใน ก็ถูกคนของราชวงศ์เย่สั่งให้มาอยู่ที่นี่
"พวกแกอย่าพูดเรื่องไร้สาระ!"
ผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดที่เป็นหัวหน้าพูดด้วยความโมโหว่า "ในฐานะที่พวกเราเป็นส่วนหนึ่งของเมืองราชวงศ์เย่ ถ้าคนนอกเข้ามาสร้างปัญหาเราจะนิ่งนอนใจได้อย่างไร และเราไม่ได้ต่อสู้เพื่อราชวงศ์เย่ แต่เราสู้เพื่อตัวของเราเอง"
หยางเฉินชำเลืองมองไปทางอีกฝ่าย หรี่ตาและพูดว่า "พูดอย่างนี้ หมายความว่าพวกคุณจะสู้กับพวกผมใช่ไหม?"
"พวกคุณคิดว่า แค่ผู้แข็งแกร่งแดนเทพสิบกว่าคน จะรับมือสี่จักรพรรดิแดนเหนือมนุษย์อย่างพวกเราได้งั้นเหรอ และยังมีผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดสิบกว่าคนกับผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์ จะสู้ไหมครับ?"
หยางเฉินกวาดสายตามองไปรอบๆ ทุกคนที่สบตากับหยางเฉิน ต่างพากันหลบสายตาและก้มหน้ามองลงกับพื้น
พวกเขารู้ดีว่า ตัวเองถูกส่งมาเป็นโล่ป้องกัน เลยถูกส่งมาดูแลประตูทางใต้นี้ แต่พวกเขาเองก็เกรงกลัวราชวงศ์เย่เหมือนกัน
แต่ทว่า อย่างที่หยางเฉินพูด พวกเขาจะเอาอะไรไปสู้กับสี่จักรพรรดิแดนเหนือมนุษย์?
"แม่งเอ๊ย กูไม่ทำแล้ว!"
ในตอนนั้นเอง มีผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นต้นคนหนึ่งยืนขึ้นมา พูดด้วยความโมโหว่า "กูสู้เพื่อราชวงศ์เย่ แต่ราชวงศ์เย่กลับเห็นกูเป็นแค่โล่ป้องกัน ไอ้สารเลวราชวงศ์เย่ รีบตายๆ ไปซะ!"
ขณะนั้นเอง ทุกคนก็มองไปที่คนคนนั้นด้วยความประหลาดใจ
คนคนนั้นมองไปรอบๆ แบบไม่เกรงกลัว พูดโดยใช้อารมณ์ว่า "พวกแกตาบอดงั้นเหรอ? ก็เห็นๆ อยู่ว่าที่ราชวงศ์เย่ต้องการการสนับสนุนความช่วยเหลือ ก็เพื่อลดกำลังของพวกเรา"
"พวกแกคิดว่า พวกเราจะต้านคนพวกนี้ได้จริงๆ น่ะเหรอ? อย่าฝันกลางวันไปหน่อยเลย! สู้ตัดสัมพันธ์กับราชวงศ์เย่ไม่ดีกว่าเหรอ!"
คำพูดนี้ของเขา ทำให้ผู้คนที่เกรงกลัวราชวงศ์เย่ตาสว่าง และปลุกความฮึกเหิมขึ้นมาทันที
"ใช่แล้ว ราชวงศ์เย่เอาพวกเรามาเป็นโล่ป้องกัน ฉันขอถอนตัว ถ้าราชวงศ์เย่ไม่ถูกทำลาย งั้นพวกเราก็ออกจากเมืองราชวงศ์เย่เอง"
"ใช่ ถ้าราชวงศ์เย่ไม่มีศีลธรรม แล้วเราจะมีไปทำไม พวกเราก็ขอถอนตัว!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...