โจวยู่ชุ่ยถลึงตาโต มองภาพด้านหลังของหยางเฉินที่ออกไปด้วยท่าทางที่คาดไม่ถึง
ไม่นานการแสดงออกบนใบหน้าของหล่อนบิดเบี้ยวขึ้นมาถึงที่สุด กัดฟันแน่นแล้วพูดว่า “ฉันจะทำให้แกเสียใจเป็นแน่!”
นี่คือครั้งแรกที่หยางเฉินพูดจาด้วยน้ำเสียงแบบนี้ต่อโจวยู่ชุ่ย เห็นได้ชัดว่าเป็นความโกรธแค้นของจริง
ภายในห้อง ฉินซีเช็ดน้ำตาแล้ว มองหยางเฉินพลางพูดว่า “หยางเฉิน ขอโทษนะ!”
หยางเฉินส่ายหน้า เดินเข้าไปกอดเสี้ยวเสี้ยวเอาไว้ มองฉินซีแล้วบอกว่า “คุณคือภรรยาของผม ไม่มีช่วงไหนที่จำเป็นต้องพูดคำนี้กับผมทั้งนั้น”
ในใจฉินซีรู้สึกอบอุ่น นึกถึงทุกอย่างที่หยางเฉินทำเพื่อเธอ ในใจมีเพียงความรู้สึกตื้นตัน อย่างไรก็ควบคุมน้ำตาไว้ไม่อยู่ หมุนตัววิ่งเข้าไปในห้องน้ำ
หยางเฉินถอนหายใจเบาๆ มีมารดาแบบโจวยู่ชุ่ยอย่างนี้ เธอกับฉินยีช่างเศร้าสลดเสียจริง
“ปะป๊า หม่าม้าร้องไห้แล้ว ปะป๊าต้องปลอบหม่าม้านะ หม่าม้าก็จะไม่ร้องไห้แล้ว!”
เสี้ยวเสี้ยวขลุกอยู่ในอ้อมอกของหยางเฉิน กะพริบดวงตากลมโตที่หลักแหลม
หยางเฉินยื่นมือไปบีบใบหน้าน้อยๆ ของเธอด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “หนูอยากให้ปะป๊าปลอบหม่าม้ายังไงดีล่ะ?”
เสี้ยวเสี้ยวตอบ “ปะป๊าต้องเรียกหม่าม้าว่าที่รัก ต้องบอกว่ารักหม่าม้ารักเสี้ยวเสี้ยว ต้องอยู่กับหม่าม้าและเสี้ยวเสี้ยวไปตลอดชีวิตด้วย”
หยางเฉินถามแบบรู้สึกตลก “หนูไม่ใช่ให้ปะป๊าปลอบหม่าม้าเหรอ? ทำไมต้องปลอบหนูด้วย?”
“เพราะหม่าม้าไม่สบายใจ เสี้ยวเสี้ยวก็ไม่สบายใจด้วย ปะป๊าปลอบใจ หนูก็มีความสุขแล้วค่ะ!” ดวงตาของเสี้ยวเสี้ยวดูดีมาก กำลังเปล่งประกาย
เวลานี้ฉินซีล้างหน้าเดินออกมาแล้ว น้ำตาหยุดไหลเช่นกัน แต่ดวงตากลับแดงๆ
“ที่รัก!”
หยางเฉินเรียกขึ้นฉับพลัน
หยางเฉินเรียกเธอว่าเสี่ยวซีมาโดยตลอด พอเรียกว่าที่รักขึ้นมากะทันหัน จึงทำให้ฉินซีหน้าตาตกตะลึง
หยางเฉินกระแอม บนหน้ามีรอยยิ้มที่ละมุน มองฉินซีแล้วพูดว่า “ที่รัก ผมรักคุณ และรักเสี้ยวเสี้ยวด้วย ผมจะอยู่เคียงข้างคุณกับเสี้ยวเสี้ยวไปตลอดชีวิต!”
เมื่อสักครู่ฉินซียังทำหน้าเศร้าใจ ชั่วพริบตาเดียวเผยสีแดงระเรื่อขึ้น ดวงตาที่ชุ่มชื่นมองค้อนหยางเฉินทีหนึ่ง พูดแบบเขินอายอยู่บ้าง “คุณทำอะไรกัน! พูดจาน่าขนลุกขนาดนี้ เสี้ยวเสี้ยวอยู่ด้วยนะ!”
เสี้ยวเสี้ยวหัวเราะคิกคักขึ้นมาแล้ว พูดจาด้วยท่าทางภาคภูมิใจ “ปะป๊าคะ ปะป๊าทำดีมาก แบบนี้แหละ ปะป๊าดูสิ หม่าม้าไม่ร้องไห้แล้ว!”
มองท่าทางภาคภูมิใจของเสี้ยวเสี้ยวอยู่ หยางเฉินไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะดี
ฉินซีตอบสนองกลับมาเช่นกัน มิน่าหยางเฉินถึงพูดจาน่าขนลุกขนาดนั้นกับตนเองขึ้นมากะทันหัน ที่แท้เป็นเสี้ยวเสี้ยวบงการ
“หม่าม้าคะ หม่าม้ารีบเข้ามา!”
เสี้ยวเสี้ยวกวักมือไปยังฉินซีแล้ว
ฉินซีรู้สึกเขินอยู่บ้างที่ใกล้กับหยางเฉินเกินไป นั่งอยู่ตำแหน่งที่ห่างจากหยางเฉินประมาณครึ่งเมตร
“หม่าม้าคะ หม่าม้าเข้ามาใกล้ๆ หน่อย!”
เสี้ยวเสี้ยวพูดแบบไม่พอใจ
“ลูกยัยเด็กคนนี้ อยากทำอะไรกัน?”
ฉินซีหัวเราะพลางพูดขึ้น แต่ยังทำตามที่เสี้ยวเสี้ยวบอก นั่งใกล้เข้ามาอีกหน่อย
“หม่าม้า ใกล้อีกหน่อย!”
เสี้ยวเสี้ยวพูดจบ ดึงมือของหยางเฉินและฉินซีมาวางไว้ด้วยกัน
“ปะป๊าคะ ปะป๊าต้องจับมือของหม่าม้าเอาไว้ด้วย แบบนี้หม่าม้าถึงจะมีความสุข!”
เสี้ยวเสี้ยวยืนอยู่ตรงหน้าของสองสามีภรรยา เอามือเท้าสะเอว มองมือของสองคนที่วางอยู่ด้วยกัน พยักหน้าด้วยความพึงพอใจมาก
หยางเฉินและฉินซีไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้ดี
ฉินซีไม่ดิ้นรนอะไร เพียงแค่บนหน้าขวยอายอยู่บ้าง แต่มีเสี้ยวเสี้ยวที่คอยจัดแจงแบบนี้ ความเศร้าใจก่อนหน้าของฉินซีจึงหายไปหมดเกลี้ยง
“ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...