หวงเหอบาธ ในห้องทำงานชั้นบนสุด
หยางเฉินนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน ชี้ไปยังโซฟาที่ตั้งอยู่ข้างใน “นั่งสิ!”
เว่ยเชินถึงได้กล้านั่งลงไป เมื่อคืนทุกอย่างที่เกิดขึ้นในไดนาสตี้ คลับ ประทับอยู่ในหัวสมองของเขาอย่างลึกซึ้ง
ชายหนุ่มตรงหน้าคนนี้เป็นผู้แข็งแกร่งที่เล่นหักปืนด้วยมือเปล่า ถ้าอยากฆ่าตนเองเข้าจริง ย่อมทำได้อย่างง่ายดายมาก ในใจของเขาแม้แต่ความคิดที่จะแก้แค้นสักนิดยังไม่กล้าคิดเลย
แน่นอนว่านี่คือก่อนหน้าที่ยังไม่ได้เจอคนมีฝีมือขั้นสุดยอดเทียบได้กับหยางเฉินแบบนี้
“ว่ามา!”
หยางเฉินมองเว่ยเชินพูดจาระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
“คุณหยางครับ ผมสามารถช่วยเป็นคนกลางให้ท่านพูดคุยกับพวกเขาได้ เพียงแค่จะสำเร็จหรือไม่ ไม่กล้ารับประกันกับท่านนะครับ” เว่ยเชินพูดขึ้น
“ทำไม? อยากจะเจอพวกเขายังยากขนาดนี้?” หยางเฉินถามอย่างหยอกล้อ
เว่ยเชินรีบบอกทันที “คุณหยางครับ ท่านก็ทราบ เรื่องแบบนี้มีผลกระทบใหญ่หลวง พอเปิดเผยออกมา จะนำความเดือดร้อนมากมายมาให้ผู้ร่วมงานทั้งคู่ ฝ่ายตรงข้ามจึงระมัดระวังหน่อย นี่เป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้”
หยางเฉินเข้าใจเหตุผลนี้เช่นกัน วันนั้นตอนที่รู้ว่าคนขับรถที่ส่งสาวสวยมายังไม่ชัดเจนว่าตนเองลากของอะไรมาเลย ก็พิสูจน์ความจริงในจุดนี้แล้ว
อีกฝ่ายระวังอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องในวันนั้น เกรงว่าจะดึงดูดความสนใจของพวกเขา ไม่แน่ว่าอีกฝ่ายอาจจะกำลังตรวจสอบอยู่
“ได้ งั้นนายช่วยแนะนำฉันสักหน่อย เวลาสถานที่ ให้ฝ่ายตรงข้ามกำหนด” หยางเฉินพูดอย่างเบิกบาน
ชั่วขณะนั้นเว่ยเชินดีใจขึ้นมา แบบนี้ดีที่สุดแล้ว
“บอกฉันมาหน่อยสิ คนพวกนั้นที่ร่วมงานกับตระกูลเว่ยของพวกนาย สรุปแล้วมีเบื้องหลังยังไง?” ทันใดนั้นหยางเฉินถามขึ้นอีก
เว่ยเชินหัวเราะขมขื่นส่ายหน้าแล้ว “พูดตามตรงนะครับ แม้แต่พวกเราที่ร่วมงานกันมาหลายปีขนาดนี้ ยังไม่รู้เบื้องหลังของอีกฝ่ายดีเลยครับ ทุกครั้งอีกฝ่ายจะจัดรถยนต์และคนขับที่ไม่เหมือนกันมาส่งคนครับ โดยเฉพาะคนที่ส่งมาแต่ละครั้งล้วนมีคนที่ตามรถมาด้วย พอเกิดเรื่องผิดปกติใดๆ เขาจะหลบหนีไปโดยทันที”
“งั้นพวกนายรู้จักกันได้ยังไง?” หยางเฉินถามอีก
“เรื่องนี้ต้องเล่าไปถึงยี่สิบปีก่อนครับ ตระกูลเว่ยในตอนนั้นยังเป็นแค่ตระกูลเล็กๆ แห่งหนึ่ง คุณพ่อของผมรู้จักเพื่อนคนหนึ่ง นั่นก็คือเขาที่แนะนำทั้งธุรกิจให้คุณพ่อของผมมา” เว่ยเชินบอกไป
ระหว่างคิ้วของหยางเฉินขมวดตึงนิดๆ คาดไม่ถึงก่อนหน้านานขนาดนั้นจะเริ่มร่วมงานกันแล้ว
พูดมาขนาดนี้ องค์กรแห่งนั้นคงเก่งกาจมากจริง ผ่านมายี่สิบกว่าปีแล้ว ธุรกิจของพวกเขายังยืนหยัดต่อมาได้
ดูแล้วเบื้องหลังคงต้องเป็นปลาใหญ่ตัวหนึ่งเป็นแน่
“ปัจจุบันตระกูลเว่ยของพวกนายยิ่งใหญ่ขนาดนี้ หรือว่ายังไม่รู้เบื้องหลังของอีกฝ่ายชัดเจนดี?” หยางเฉินหน้าตาอึมครึมสอบถามไป
มองเห็นหยางเฉินเหมือนไม่เชื่ออยู่บ้าง ในขณะนั้นเว่ยเชินตกใจจนสีหน้าเปลี่ยน รีบพูดรับรองทันที “คุณหยางครับ แต่ละคำที่ผมพูดเป็นความจริงนะครับ พวกเราเคยค้นหาแล้ว แต่ว่าหาอะไรไม่เจอเลยจริงๆ!”
ดูท่าทางตระกูลเว่ยคงไม่รู้จักเบื้องหลังของอีกฝ่ายชัดเจนจริงๆ แต่หยางเฉินยังสามารถเข้าใจได้ ถ้าง่ายดายขนาดนั้นจริงคงสามารถตรวจสอบเรื่องนี้ได้ชัดเจน องค์กรแห่งนั้นคงไม่สามารถอยู่รอดมาได้ยี่สิบกว่าปีหรอก
“นายรีบช่วยฉันติดต่อให้ไว จัดการเรียบร้อยแล้ว บอกฉันด้วย!”
หยางเฉินรู้ว่า ถึงถามต่อไปอีก เกรงว่าถามไม่ได้ความอะไร เลิกล้มความคิดทันที
“คุณหยางครับ บอกท่านตามตรงนะครับ เดิมทีพวกเราตระกูลเว่ยไม่มีช่องทางติดต่อของพวกเขาครับ ทุกครั้งล้วนเป็นพวกเขาติดต่อพวกเรามา อาจจะไม่มีทางช่วยเป็นตัวกลางให้ท่านได้ชั่วคราว รอให้อีกฝ่ายติดต่อมาแล้ว ผมจะพูดถึงเรื่องนี้กับพวกเขาทันทีเลยครับ” เว่ยเชินบอกไป
หยางเฉินตะลึง คาดไม่ถึงตระกูลเว่ยแม้แต่ช่องทางการติดต่อของอีกฝ่ายหนึ่งก็ยังไม่มีด้วย การรักษาความลับนี้ช่างแน่นหนาเกินไปมั้ง?
“ได้ งั้นรอจัดการเสร็จเมื่อไร แจ้งให้ฉันรู้ตอนนั้นแล้วกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...