หยางเฉินเห็นเฝิงเจียหยีเข้าโจมตีก็ตะลึงงัน เอื้อมมือเข้าไปคว้าข้อมือของนาง และพูดด้วยความโมโหว่า “นี่เจ้าบ้าไปแล้วหรือไง ?”
แน่นอนว่า ในเวลานี้เฝิงเจียหยีตอนนี้ราวกับคนบ้า ไม่ฟังสิ่งที่หยางเฉินพูดแม้แต่นิดเดียว มืออีกข้างหนึ่งของนางแกว่งหมัดออกมา
“ผลัวะ !”
หยางเฉินยื่นมืออีกข้างหนึ่งเข้าไปจับไว้
ตอนนี้เขาเพิ่งจะรับรู้ได้ว่าเฝิงเจียหยีสูญเสียการควบคุมไปแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ลงมือกับเขาแบบนี้ ?
อีกทั้ง พลังของเฝิงเจียหยีเป็นเพียงผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ จะมาเป็นคู่มือกับเขาได้อย่างไร ?
หยางเฉินฟันมือลงเข้าที่ท้ายทอยของนางอย่างแรงจนหมดสติไป
“เกิดอะไรขึ้นกับเฝิงเจียหยีกัน ?”
หลังจากจัดการกับเฝิงเจียหยี หยางเฉินก็มีสีหน้าเคร่งขรึมพูดพึมพำกับตัวเอง
ในเวลาแบบนี้เขาต้องรีบตามหาเฝิงเสี่ยวหว่านและ เสี่ยวจิ้งอัน ไม่มีเวลามาคอยดูแลเฝิงเจียหยีอีก จึงได้เพียงปล่อยนางทิ้งไว้ข้าง ๆ เท่านั้น
ห้องลับแห่งนี้มีขนาดแค่ 100 ตารางเมตร รอบด้านเป็นหินเปลือย ราวกับหินก้อนใหญ่ที่ถูกเจาะเฉพาะตรงกลางไว้ ไม่อยากคิดเลยว่าจะต้องเสียกำลังคนไปเท่าไหร่จึงจะสร้างออกมาสำเร็จ ?
เรื่องพวกนี้ไม่ได้สำคัญอะไร ที่สำคัญคือทำไมลมปราณวิถีบู๊ในห้องลับแห่งนี้ถึงเข้มข้นนัก
หรือว่า ในห้องนี้จะมีทางเข้าอื่นอยู่อีกเหมือนกับข้างบนกัน ?
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านมานานแค่ไหน ในที่สุดหยางเฉินก็มั่นใจว่าห้องนี้ไม่มีช่องทางลับอื่นอยู่อีก
“เกิดอะไรขึ้นกับข้ากัน ?”
เสียงแผ่วเบาพูดขึ้น
เป็นเฝิงเจียหยีที่ได้สติกลับมา นางขมวดคิ้ว ใช้มือลูบบริเวณท้ายทอยที่รู้สึกไม่ค่อยสบาย
หยางเฉินมองไปที่นาง พลางขมวดคิ้ว “เจ้าไม่รู้ตัวหรือว่าเมื่อสักครู่เกิดอะไรขึ้น ?”
เฝิงเจียหยีชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เมื่อสักครู่ที่เข้ามาในห้องลับ ข้ารู้สึกว่าเลือดลมภายในร่างกายกำลังเดือดพล่าน จึงลองเดินลมปราณดู หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นข้าเองก็จำไม่ได้แล้ว”
หยางเฉินพูดขึ้นด้วยใบหน้าเคร่งเครียด “เมื่อสักครู่ตาของเจ้าแดงก่ำราวกับเสียการควบคุมตัวเอง เข้าจู่โจมข้า ข้าจึงต้องทำให้เจ้าหมดสติไป”
“อะไรนะ ?”
สีหน้าเฝิงเจียหยีเปลี่ยนไปฉับพลัน พูดด้วยความตกใจว่า “เจ้าบอกว่าข้าลงมือกับเจ้างั้นเหรอ ?”
หยางเฉินพยักหน้า พูดเสียงต่ำว่า “หากข้าทายไม่ผิด อาจเป็นเพราะลมปราณวิถีบู๊แปลก ๆ ที่นี่ ทำให้ตอนที่เจ้าเดินลมปราณเกิดความผิดปกติขึ้น และสูญเสียการควบคุมตัวเองในที่สุด”
พูดไปแล้ว ตอนที่เขาเริ่มฝึกคัมภีร์ต้าเต้าเทียนหยาน เขาก็รู้สึกว่าลมปราณภายในปั่นป่วนเช่นกัน ทั่วทั้งร่างเกิดแรงกระตุ้นให้ทำอะไรบางอย่าง ก่อนจะรีบหยุดเดินลมปราณทันที “ที่นี่มีบางอย่างแปลก ๆ แม้แต่ตอนที่ข้าเดินลมปราณยังได้รับผลกระทบเลย”
เมื่อได้ยินดังนั้นเฝงเจียอี้ก็หยุดเดินลมปราณลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...