น้ำเสียงของเฝิงจื้อหย่วนไม่ใช่การประชด แต่เพียงแค่ต้องการเตือนหยางเฉินเท่านั้น
สักพักใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปจนแทบดูไม่ได้ เขาอุส่าตามหาคนทั้งสองแทบทั้งคืนกลับไม่พบอะไร สุดท้ายกลับเป็นเฝิงจื้อหย่วนที่โทรมาบอกเขาเอง
“ข้าก็สงสัยอยู่ว่าทำไมถึงหาพวกเขาไม่พบ ไม่ทราบว่าอ่านลุงเฝิงจะเห็นแก่หน้าสหายข้าหม่าชาว นำตัวคนทั้งสองมาให้ข้าได้หรือไม่ ?”
หยางเฉินพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง ราวกับว่ายังไงซะคนทั้งสองก็ต้องอยู่ฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว
เฝิงจื้อหย่วนแสยะยิ้มพูด “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ? เพียงแต่ตอนนี้ดึกมากแล้วคงไม่สะดวก รอหลังเสร็จราชพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณของหม่าชาวในวันพรุ่งนี้เสร็จสิ้น ข้าจะส่งคนทั้งสองให้ ว่ายังไง ?”
หยางเฉินตอบ “ถ้าอย่างนั้น ข้าต้องขอขอบคุณลุงเฝิงล่วงหน้าที่คอยดูแลสหายข้า”
เขาไม่พูดถึงเสี่ยวจิ้งอัน เพราะเสี่ยวจิ้งอันเป็นหลานชายของเขา
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก ! เจ้ารีบพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้อย่าลืมมาร่วมงานสหายเจ้าล่ะ ขาดใครขาดได้ แต่ขาดเจ้าไปคงไม่ได้หรอก ! ไม่แน่ว่าลุงเฝิงอาจจะมีเรื่องให้เจ้าช่วยอยู่ด้วย !”
เฝิงจื้อหย่วนหัวเราะฮา ๆ และถามว่า “ข้าเป็นพ่อของหม่าชาว ส่วนเจ้าก็เป็นถึงสหายของเขา หากมีเรื่องเกิดขึ้นในงานราชพิธี เจ้าจะต้องคอยช่วยเหลือข้าอยู่แล้วใช่ไหม ?”
หยางเฉินไม่เข้าใจสิ่งที่เฝิงจื้อหย่วนพูด เขาเก็บงำความโกรธเอาไว้ พูดด้วยเสียงราบเรียบว่า “ลุงเฝิง นั่นต้องแน่นอนอยู่แล้ว ข้าไม่รบกวนท่านแล้ว ท่านรีบพักผ่อนเถอะ !”
“เข้าใจแล้ว !”
เฝิงจื้อหย่วนวางสายไป
เฝิงเจียหยีที่อยู่ข้าง ๆ เขา เวลานี้สีหน้าเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด นางได้ยินสิ่งที่เฝิงจื้อหย่วนพูดเมื่อสักครู่หมดแล้ว
“เจ้าจะร่วมมือกับเขาจริง ๆ หรือ ?” เฝิงเจียหยีกัดฟันถามไปยังเขา
หยางเฉินมองไปยังเฝิงเจียหยีอย่างเฉยเลย และพูดว่า “ข้าร่วมมือกับพ่อเจ้าด้วยเงื่อไขว่าจะต้องช่วยเหลือคนที่หาตามหาอยู่ให้ได้ แต่ตอนนี้ดูแล้วพ่อเจ้าจะทำตามเงื่อนไขไม่ได้แล้ว พวกเราคงไม่จำเป็นต้องร่วมมือกันต่อไปอีก”
เฝิงเจียหยีมีสีหน้าลำบากใจ เมื่อสักครู่ในห้องลับ นางได้เห็นแล้วว่าพลังของหยางเฉินแข็งแกร่งมากขนาดไหน หากพลังระดับนี้ตกไปอยู่ฝั่งเดียวกับเฝิงจื้อหย่วนล่ะก็ พ่อของนางต้องตกอยู่ในอันตรายแน่
“แม้ว่าจะตามหาไม่พบ แต่ก็พยายามช่วยหา เจ้าคงจะไม่เปลี่ยนไปร่วมมือกับศัตรูของพ่อข้าเร็วขนาดนี้ใช่ไหม ?”
เฝิงเจียหยีถามด้วยสีหน้าไม่เต็มใจนัก
หยางเฉินตอบ “ข้ารู้จักกับพ่อเจ้าแค่ครั้งเดียว เขาเป็นคนอย่างไรข้าไม่อาจจะทราบได้ ระหว่างเราก็ไม่ได้เป็นมิตรอะไรต่อกัน”
“ที่เขายอมช่วยเหลือข้าตามหาคน ก็เป็นเพราะผลประโยชน์ต่อกัน และที่ข้ายอมร่วมมือด้วย ก็เป็นเพราะเรามีเป้าหมายที่เหมือนกัน”
“แต่ตอนนี้ เขาไม่สามารถนำตัวคนที่ข้าตามหามาให้ได้ และถ้าข้ายังจะร่วมมือกับพ่อเจ้าอีก คนพวกนั้นจะปลอดภัยอีกหรือ ?”
หลังจากพูดออกมา เฝิงเจียหยีก็เงียบไปสักพักหนึ่ง นางรู้ดีว่าที่หยางเฉินพูดมานั้นมีเหตุผล
จากความเข้าใจของนางต่อเฝิงจื้อหย่วน หากหยางเฉินกล้าทำอะไรเขาล่ะก็ เขาก็มีบางสิ่งที่ต้องจ่ายแทน
เสี่ยวจิ้งอันคือหลานของเขา เขาอาจจะไม่ทำอะไร แต่สำหรับเฝิงเสี่ยวหว่านนั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกันกับเขา ถ้าอย่างนั้นต้องเกิดอันตรายแน่
“เข้าใจแล้ว ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว งั้นไว้เจอกันพรุ่งนี้ !”
การแสดงออกของเฝิงเจียหยีเย็นชาลงทันที นางทิ้งหยางเฉินไว้ที่นี่และขับรถออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...