หนึ่งชั่วโมงต่อมา ในเมืองเยี่ยนตู ยอดเมฆา
หยางเฉินนั่งอยู่บนโซฟาเฉียนเปียวทีมผู้พิทักษ์เงาลับ และซาตานของหงเฉิน ทั้งสองยืนอยู่หน้าหยางเฉิน และทั้งคู่ก็รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย
เฉียนเปียวพูดด้วยเสียงที่เคร่งขรึม ทีมผู้พิทักษ์เงาลับแดนเทพที่แข็งแกร่ง ได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว พร้อมที่จะรับฟังคำสั่งของคุณตลอดเวลา!”
ซาตานยังพูดด้วยความเคารพ “คุณหยาง หงเฉินเตรียมพร้อมที่จะลงมือทุกเมื่อ ผู้แข็งแกร่งแดนเทพทุกคน ถูกเรียกคืนกลับมายังเมืองเยี่ยนตูแล้ว”
พลังทั้งสองนี้ เป็นพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของหยางเฉิน หลังจากที่หยางเฉินได้ถ่ายทอดคัมภีร์ต้าเต้าเทียนหยานให้กับทีมผู้พิทักษ์เงาลับกับ หงเฉินผู้แข็งแกร่งแดนเทพก็มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น
เพียงแต่ว่า นอกจากหยางเฉินแล้ว ไม่มีใครเข้าสู่ระดับแดนเหนือมนุษย์
สักวันหนึ่ง ถ้าต้องการทำสงครามกับตระกูลบู๊โบราณจริงๆ แค่ทีมผู้พิทักษ์เงาลับกับหงเฉินมันไม่ค่อยสะใจ
ไม่ต้องพูดถึงการทำสงครามกับตระกูลบู๊โบราณ แม้ว่าจะเป็นการทำสงครามกับราชวงศ์ก็ตาม ผู้แข็งแกร่งของทีมผู้พิทักษ์เงาลับกับหงเฉินก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้
หยางเฉินมองไปที่เฉียนเปียวกับซาตาน และพูดขึ้นมาทันที “ศึกชิงเจ้าแห่งราชาในวันนี้ที่เมืองเยี่ยนตู เป็นของผู้แข็งแกร่งในแดนเหนือมนุษย์ ทีมผู้พิทักษ์เงาลับกับหงเฉินไม่มีคุณสมบัติที่จะเข้าไปแทรกแซง และให้พี่น้องทุกคนออกจากเมืองเยี่ยนตู”
หลังจากได้ยินคำพูดของหยางเฉิน สีหน้าของทั้งคู่ก็เปลี่ยนไปอย่างมาก
เฉียนเปียวพูดว่า “พี่เฉิน แม้ว่าพวกเราจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ ถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น อย่างน้อยก็สามารถช่วยคุณได้เล็กน้อย ให้พวกเราอยู่ในเมืองเยี่ยนตูเถอะ!”
ซาตานก็รีบแสดงจุดยืนของเขา “คุณหยาง ยังไงหงเฉินก็เป็นนักฆ่า และสิ่งที่ชำนาญที่สุดคือการลอบสังหาร ทำไมไม่ให้แดนเทพขั้นปลายและผู้แข็งแกร่งขั้นสูงสุดอยู่ที่นี่ต่อล่ะ?”
หยางเฉินส่ายหัว “รวมทั้งพวกนายสองคน ก็กลับไปด้วย!”
ถึงเวลานี้ ทั้งสองจึงตระหนักได้ว่า ศึกชิงเจ้าแห่งราชาเมืองเยี่ยนตูในวันนี้ คงจะอันตรายมาก
มิเช่นนั้น หยางเฉินคงจะบอกให้พวกเขาทั้งหมดออกจากเมืองเยี่ยนตูได้อย่างไร?
ดูเหมือนว่า แม้แต่หยางเฉิน ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่า ศึกชิงเจ้าแห่งราชาเมืองเยี่ยนตูในวันนี้ จะจบลงอย่างราบรื่น
หลังจากเฉียนเปียวเงียบไปครู่หนึ่ง ก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด “ครับ พี่เฉิน!”
เขารู้ว่า ถ้าไม่ใช่เพราะหมดหนทางจริงๆ หยางเฉินจะไม่ปล่อยให้พวกเขาจากไป
ซาตานก็พูดว่า “ครับ เจ้านาย!”
หยางเฉินเหลือบมองดูเวลา ใกล้ถึงเวลาการประลองแล้ว เขาโบกมือ “พวกนายไปกันเถอะ!”
“ครับ!”
ทั้งสองรีบออกจากยอดเมฆา
ทันใดนั้น ในห้องก็เหลือเพียงหยางเฉินกับเฝิงเจียหยี ยังมีหม่าชาวที่ยังหมดสติอยู่
เฝิงเจียหยีมองไปที่หยางเฉินและพูดว่า “แม้แต่คุณ ก็ยังไม่มีความมั่นใจว่าจะชนะเหรอ?”
หยางเฉินเข้าใจดีว่าความมั่นใจที่เฝิงเจียหยีพูดนั้นหมายถึงอะไร เห็นเพียงความแน่วแน่ในดวงตาของเขา และพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม “ฉันต้องเป็นราชาแห่งเมืองเยี่ยนตูให้ได้ และจะต้องสืบทอดตี้ชุน!”
หม่าชาวเป็นพี่ชายที่ดีที่สุดของเขา และตอนนี้เขาต้องได้ไม้เท้าตี้เท่านั้น จึงจะสามารถเอาลูกแก้วดูดเลือดที่อยู่ในร่างกายของหม่าชาวออกมาได้ มิฉะนั้น มีทางเดียวคือหม่าชาวคงต้องตาย
เป็นวันที่สามแล้วที่ลูกแก้วดูดเลือดปิดผนึกอยู่ในร่างกายของหม่าชาว และในช่วงสามวันที่ผ่านมา ทุกวัน หยางเฉินรู้สึกได้ชัดเจน ออร่าคลุ้มคลั่งในร่างกายของหม่าชาวมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเป็นเพราะลูกแก้วดูดเลือดที่ปิดผนึกอยู่ในร่างกาย กำลังต้องการทำลายผนึกอยู่ตลอดเวลา
แม้ว่าคนแข็งแกร่งลึกลับที่ใส่ชุดดำคนนั้นจะบอกว่าเขาสามารถปิดผนึกไว้ได้เจ็ดวัน แต่หยางเฉินยังคงกังวลอยู่ กลัวว่าจะอยู่ไม่ถึงเจ็ดวัน ลูกแก้วดูดเลือดก็จะทำลายที่ปิดผนึกได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...