ไม่นาน คนจากตระกูลต่างๆที่มายังจวนมู่ ต่างก็กลับกันไปหมด แล้วจวนมู่ก็กลับสู่ความสงบอีกครั้ง
จวนมู่ ภายในคฤหาสน์หรูหลังหนึ่ง
มู่ฮว๋ายืนอยู่ตรงหน้าของเจ้าเมืองมู่ พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “ท่านเจ้าเมืองครับ จวนเมืองหวยเฉิงคงจะไม่หยุดง่ายๆแน่นอนเลยครับ!”
เจ้าเมืองมู่ยิ้มเยาะ “ถ้าหากจวนเมืองหวยเฉิงคิดว่าจวนมู่ของเรารังแกได้ง่าย อย่างนั้นก็เชิญมาได้เต็มที่ ฉันจะให้พวกมันได้รู้ ว่ากล้ามาทำตัวเหิมเกริมที่จวนมู่ มีผลลัพธ์ร้ายแรงแค่ไหน!”
มู่ฮว๋าสีหน้าขมขื่น เมื่อเห็นเจ้าเมืองมู่พูดเช่นนี้แล้ว ก็ไม่กล้าพูดอะไรมากอีก
จู่ๆเจ้าเมืองมู่ก็พูดว่า “นายออกไปก่อน!”
“ครับ!”
มู่ฮว๋าจากไปอย่างรวดเร็ว
ภายในห้อง เหลือเพียงแค่เจ้าเมืองมู่ สายตาของเขาคมเข้ม จู่ๆก็พูดว่า “นายไปด้วยตัวเอง ไปฆ่าติงชางทิ้งซะ!”
“ครับ!”
หลังจากเสียงเขาสิ้นสุดลง ผู้แข็งแกร่งเพ้าดำคนหนึ่งเดินออกมาจากมุมมืด รับคำสั่งแล้วจากไป
ในเวลานี้ ติงอู่ได้พาคนกลับถึงบ้านตระกูลติงแล้ว
ติงอู่พูดด้วยสีหน้าโมโหว่า “ไอ้แก่คนนี้ เก็บเงียบได้ดีจริงๆ มีพลังแข็งแกร่งมากถึงเพียงนี้”
ติงชางที่อยู่ด้านข้าง เอ่ยปากถามว่า “พี่ว่า เขาแค่กำลังวางมาดตบตาผู้คนอยู่หรือเปล่าครับ?”
ติงอู่ถามว่า “วางมาดตบตาผู้คน? ทำไมคิดเช่นนั้น?”
ติงชางพูดว่า “เจ้าเมืองมู่เป็นถึงคนที่มีฉายาว่า ‘เจ้าเมืองโหดเหี้ยม’ ตอนนั้นที่ขาของเขายังไม่พิการ โหดร้ายมากเพียงใด? ในมืองซ่านเฉิง เรียกได้ว่า ฆ่าทุกคนที่ขวางทาง แต่วันนี้ พวกเราตระกูลเศรษฐีเมืองซ่านเฉิงมากมายบุกเข้าจวนมู่ เขากลับไม่ฆ่าใครเลย”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ติงอู่ขมวดคิ้ว มองไปทางติงชาง พูดว่า “นายหมายความว่า เขาเองก็ไม่กล้าลงมือกับพวกเรา?”
ติงชางพยักหน้า “ผมสงสัยว่า เขาน่าจะแอบกินยาลับบางอย่าง หรืออาจจะใช้วิธีลับบางอย่าง เพื่อสามารถระเบิดพลังอำนาจเทียบเท่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดได้ ยาลับและวิธีลับพวกนี้ ในเวลาปกติแล้ว ทำได้แค่ช่วยให้ระเบิดพลังอำนาจเท่านั้น พลังอำนาจนี้ มิใช่พลังที่แท้จริงของอีกฝ่าย”
เมื่อฟังคำพูดของติงชางแล้ว ติงอู่ก็ประหลาดใจขึ้นมา “หมายความว่า เจ้าเมืองมู่ในตอนนี้ อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันด้วยซ้ำ แต่ที่วันนี้ปรากฏตัว และแสดงอำนาจแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดออกมา ที่จริงแล้วก็เพื่อวางมาดตบตาผู้คน เพื่อสร้างแรงกดดันให้กับเรา? ทำให้พวกเราเข้าใจผิดว่าพลังของเขาก็ยังอยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดอยู่เหมือนเดิม เพื่อข่มขู่ให้เราถอย?”
ติงชางพยักหน้า “แน่นอนว่า นี่เป็นเพียงแค่การคาดเดาของผมเท่านั้น ส่วนพลังของเจ้าเมืองมู่ได้ฟื้นคืนกลับมาหรือยัง ไม่ได้มีหลักฐาน”
สีหน้าของติงอู่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง พูดด้วยความแค้นว่า “ในเมื่อมีความเป็นไปได้อย่างนี้ งั้นก็หมายความว่า พวกเรามีโอกาสฆ่าเจ้าเมืองมู่ทิ้งได้ เพียงแค่เขาตายไป หลังจากนี้เมืองซ่านเฉิงก็จะกลายเป็นของตระกูลติง!”
“แล้วถ้าหาก ได้มีดพกอาถรรพ์ในมือของหยางเฉินมาอีก แม้จะเป็นเจ้าเมืองหวยเฉิง ฉันก็ไม่กลัว!”
ในสายตาของติงชางมีความโหดร้ายปรากฏ มองไปทางติงอู่และพูดว่า “พี่ใหญ่ครับ ตอนนี้ก็ดูแค่พี่แล้วว่าจะพนันสักตั้งมั้ย!ถ้าหากว่าชนะ ก็จะได้ทุกอย่างมา แต่ถ้าหากแพ้พี่ นั่นก็คือวันสิ้นสุด!”
ติงอู่ไม่ได้พูดอะไร เหมือนกับว่ากำลังวิเคราะห์ความเป็นไปได้ที่จะลงมือจัดการกับเจ้าเมืองมู่
นิ่งเงียบไปสักพัก ติงอู่มองไปทางติงชาง พูดว่า “เรื่องนี้ เกี่ยวข้องกับการอยู่รอดของตระกูลติง ให้ฉันคิดวิเคราะห์ก่อน นายไปฝึกฝนก่อนแล้วกัน!”
ติงชางพยักหน้า “ครับ พี่ใหญ่!ไม่ว่าสุดท้ายพี่จะเลือกยังไง ผมก็สนับสนุนพี่!”
พูดจบ ติงชางก็หันหลังจากไป
ติงอู่ยืนอยู่กับที่คนเดียว และยังวิเคราะห์ว่าจะลงมือจัดการกับเจ้าเมืองมู่ดีหรือไม่
แต่ในเวลานี้ พลังอำนาจที่น่าหวาดกลัวสิ่งหนึ่ง ได้มาลงมาจุติที่บ้านตระกูลติง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...