The king of War นิยาย บท 1774

สรุปบท บทที่ 1774 นักฆ่าสำนักเซิ่งกง: The king of War

บทที่ 1774 นักฆ่าสำนักเซิ่งกง – ตอนที่ต้องอ่านของ The king of War

ตอนนี้ของ The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1774 นักฆ่าสำนักเซิ่งกง จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ชั่วขณะที่หยางเฉินเพิ่งเขวี้ยงมีดอาถรรพ์ออกไป นักฆ่าที่เดิมทีทำท่าอยากฆ่านักดาบเงาเพชฌฆาต กระโดดจากพื้นฉับพลัน ร่างกายเอียงออกจากตำแหน่งเดิมทันใด

“ปัง!”

ส่วนมีดอาถรรพ์ที่หยางเฉินเขวี้ยงออกไป ปักบนผังด้านข้างอย่างแรง

แทบจะในเวลาเดียวกันนั้นเอง นักฆ่ายกมีดพกอาถรรพ์เล่มหนึ่ง เข้าไปฆ่าทางหยางเฉินแล้ว

เดิมที เป้าหมายแท้จริงของนักฆ่า ยังเป็นหยางเฉิน อยากฆ่านักดาบเงาเพชฌฆาต ก็แค่แกล้งทำตบตา เพื่อบีบให้หยางเฉินทิ้งมีดอาถรรพ์ออกมา

จิตสำนึกการต่อสู้ของอีกฝ่ายแกร่งเหลือเกิน ใช้คำว่าอัจฉริยะมาบรรยาย ก็ไม่เกินจริงเลยสักนิด

นักฆ่ากล้าทำแบบนี้ เห็นได้ชัดวางแผนมาดี ตอนที่เขาอยากไปฆ่านักดาบเงาเพชฌฆาต เดิมทีหยางเฉินไม่มีทางขัดขวางได้ มีเพียงเขวี้ยงมีดอาถรรพ์โจมตีนักฆ่า

ไม่เพียงแค่นี้ แม้กระทั่งอีกฝ่ายยังคำนวณถึงเวลาที่หยางเฉินเขวี้ยงมีดอาถรรพ์ไว้แล้ว ตอนที่มีดอาถรรพ์ใกล้จะแทงเข้าร่างกายเขา ถึงสามารถหลบออกได้พอดี

พอต่อมาเข้าไปฆ่าหยางเฉิน ซึ่งทุกอย่างเกิดในช่วงเวลาพริบตาเดียว

ลูกตาของหยางเฉินหดตัว หลังจากเขวี้ยงมีดอาถรรพ์ออกไป ก็ไม่มีความสามารถของมีดอาถรรพ์เพิ่มเข้ามา ชั่วขณะนั้นความสามารถของเขาลดลงมาก

“สายเลือดคลั่ง!”

หยางเฉินตะโกนอย่างโมโห ลักษณะพลังอันบ้าคลั่งส่วนหนึ่ง ระเบิดออกจากบนตัวเขาโดยตรง

เดิมทีความสามารถอ่อนแอลงหลังจากสูญเสียมีดอาถรรพ์ไป และเพราะสายเลือดคลั่งถูกกระตุ้นขึ้น จึงระเบิดพลังออกมาได้อีกครั้ง

นักฆ่าถือมีดพกอาถรรพ์ไว้ในมือ แทงลงไปยังตำแหน่งหัวใจของหยางเฉินทันที

หยางเฉินกระโดดขึ้นฉับพลัน ฝืนร่างกายให้บิดหมุน ย้ายไปด้านข้างสิบเซนติเมตรพอดี ส่วนมือข้างหนึ่งของเขา กลับกลายเป็นหมัดฉับไว ใช้แรงควงออกมา

“ครื้น!”

“ตึง!”

มีดพกอาถรรพ์ในมือ แทงบนไหล่ของหยางเฉินแล้ว ส่วนหมัดสุดกำลังของหยางเฉิน ต่อยหน้าอกของอีกฝ่ายอย่างแรง

เห็นเพียงร่างกายของนักฆ่า ลอยออกไปกลางอากาศไกลเป็นสิบกว่าเมตร กระอักเลือดออกจากปาก

กลับมามองที่หยางเฉิน โดนมีดพกอาถรรพ์แทงตรงไหล่จนบาดเจ็บ ชั่วพริบตาเลือดไหลไม่หยุด

แต่ว่าเขาไม่ได้ตอบสนองกลับแต่อย่างใด ขยับเท้า พุ่งไปหานักฆ่าอีกครั้ง

นักฆ่าฝืนลุกขึ้นยืน เตรียมตัววิ่งหนี

“จะไปไหน?”

หยางเฉินตามเข้าไปทันที นักฆ่าเพิ่งเตรียมหนีลงไปจากทางหน้าต่าง กลับถูกหยางเฉินจับแขนของเขาเอาไว้แล้ว

“ตึง!”

หยางเฉินใช้แรงดึงไว้ ร่างกายของนักฆ่าล้มลงพื้นอย่างแรง

และในเวลานี้ หน้ากากบนหน้าของนักฆ่าหายไปเช่นกัน

หยางเฉินปล่อยหมัดลงไปอย่างหนัก ทันใดนั้นหยุดอยู่ตรงตำแหน่งที่ห่างจากหน้าของนักฆ่าแค่ไม่กี่เซนติเมตร

“เสี่ยวยี!”

หยางเฉินร้องตกใจเสียงหลง หน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ

อย่างไรเสียเขาก็นึกไม่ได้ว่า นักฆ่าที่มาสังหารเขาในคืนนี้ คาดไม่ถึงเป็นฉินยีน้องสาวภรรยาของเขา

เขามีความรู้สึกว่ากำลังฝันไป

“ตึง!”

ตอนที่หยางเฉินตื่นตกใจ ฉินยีถีบบนหน้าอกของหยางเฉินทีหนึ่ง หยางเฉินโดนถีบจนกระเด็นโดยตรง

รอตอนที่เขาลุกขึ้นมาเตรียมไล่ตามไป กลับพบว่าฉินยีหายลับไปในค่ำคืนมืดมิดแล้ว

ตอนที่เขาพยายามใช้พลังจิตรับรู้ว่าฉินยีอยู่ที่ไหน คาดไม่ถึงพบว่า ไม่มีทางรับรู้ได้ ฉินยีเหมือนหายลับไปกลางอากาศเลย

เขามองนักดาบเงาเพชฌฆาตที่อยู่บนเตียงคนไข้ และยังไม่ได้สติ หน้าเต็มไปด้วยความกังวล ตอนนี้เขาอยากไปตามหาฉินยี แต่สภาพเช่นนี้ของนักดาบเงาเพชฌฆาต ต่อให้เป็นเด็กน้อยที่อ่อนแอไร้เรี่ยวแรงคนหนึ่ง เกรงว่ายังฆ่านักดาบเงาเพชฌฆาตได้เลย

มู่เหลียงผิงคุกเข่าลงที่พื้นทันใด พูดแบบหน้าหวาดกลัวเต็มที่ “คุณชายมู่ครับ ผมจ้างนักฆ่าของสำนักเซิ่งกงมาแล้วจริงๆ! ส่วนทำไมหยางเฉินยังมีชีวิตอยู่ถึงตอนนี้ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ!”

“ไม่รู้?”

มู่ชงพูดอย่างโมโห “นึกไม่ถึงนายบอกฉันว่าไม่รู้? นายแม่งเป็นสวะหรือไง?”

มู่ชงถีบมู่เหลียงผิงล้มลงไปบนพื้น สอบถามด้วยเสียงดุ

ทุบตีอยู่สักพักหนึ่ง มู่ชงถึงรู้สึกหายหงุดหงิด

มู่เหลียงผิงถึงพูดว่า “คุณชายมู่ครับ ท่านวางใจได้เลยครับ ขอเพียงเป็นภารกิจที่สำนักเซิ่งกงรับไว้ จะต้องทำสำเร็จแน่นอน ส่วนทำไมหยางเฉินถึงมีชีวิตอยู่ น่าจะเป็นนักฆ่าของสำนักเซิ่งกงไม่อาจฆ่าเขาทิ้งได้ครับ”

“แต่ว่าไม่เป็นไร สำนักเซิ่งกงไม่เคยทำภารกิจล้มเหลวมาก่อน ครั้งนี้ภารกิจล้มเหลว ครั้งต่อไป สำนักเซิ่งกงคงได้แต่ส่งนักฆ่าที่ความสามารถแกร่งกว่ามาลอบฆ่าหยางเฉินครับ ท่านรอข่าวดีเถอะครับ!”

ในเวลานี้เอง มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นกะทันหัน

มู่ชงพูดเสียงเย็นชา “เข้ามา!”

คนรับใช้ของจวนมู่คนหนึ่ง เอ่ยปากบอกว่า “คุณชายมู่ครับ นักดาบเงาเพชฌฆาตฟื้นแล้วครับ!”

มู่ชงลุกขึ้นมาพรวดพราด หน้าตกใจเต็มที่แล้วพูดว่า “เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้น นึกไม่ถึงฟื้นไวขนาดนี้เลยเหรอ?”

คนรับใช้พยักหน้า รีบตอบว่า “นักดาบเงาเพชฌฆาตไม่เพียงฟื้นขึ้นมาครับ ตอนนี้ยังสามารถลงจากเตียงเดินเหินได้ด้วย ดูท่าทางแล้วฟื้นตัวได้ไม่เลวครับ”

ฟังคำพูดของคนรับใช้แล้ว มู่ชงสีหน้าดูแย่ถึงขีดสุด

ถ้าไม่มีนักดาบเงาเพชฌฆาตและหยางเฉิน เขาก็เป็นเจ้าเมืองคนใหม่ของจวนมู่ไปแล้ว แต่ว่าตอนนี้ กลับถูกนักดาบเงาเพชฌฆาตและหยางเฉินกดหัวเอาไว้มิด เดิมทีเขาไม่มีทางกลายเป็นผู้นำของจวนมู่ได้เลย

เวลานี้ ในห้องคนไข้ของนักดาบเงาเพชฌฆาต

นักดาบเงาเพชฌฆาตกำลังเดินอย่างเชื่องช้าอยู่ในห้อง เฝิงเสียวหว่านกับหวยหลันประคองเขาอยู่ข้างซ้ายและขวา

หยางเฉินก็อยู่ด้านข้าง เพียงแค่ เขาดูท่าทางคิดไม่ตกมาตลอด

หลังจากนักดาบเงาเพชฌฆาตเดินไปสองสามรอบ ให้เฝิงเสียวหว่านและหวยหลันประคองเขาไปนั่งด้านข้างหยางเฉินแล้ว จากนั้นมองทางหยางเฉินพลันถามว่า “หยางเฉิน เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ดูท่าทางนายกังวลใจอยู่”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War