The king of War นิยาย บท 1813

หยางเฉินเห็นหนังสือเชิญที่ส่งมาจากสมาพันธ์บูโด คิ้วขมวดขึ้นมาย่น

เขามองไปที่หวยหลานถามว่า “สมาพันธ์บูโดกับสมาคมบูโด มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกัน?”

หวยหลานส่ายหน้า “น่าจะไม่ได้เกี่ยวอะไรกันเลย สมาคมบูโดในปัจจุบัน มีอิทธิพลที่ต่ำต้อยมาก เห็นเขาว่าตัวหัวหน้าสมาคมเอง ยังไปไม่ถึงแดนเหนือมนุษย์ด้วยซ้ำ”

“กลุ่มอิทธิพลสมาพันธ์บูโดนี้ ฉันก็เพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรก น่าจะเป็นการตอบรับการมีตัวตนของพวกผู้แข็งแกร่งประเทศซัน เลยจัดตั้งเป็นกลุ่มอิทธิพลกลุ่มหนึ่งขึ้นมา”

“แน่นอนว่า เป้าหมายแท้จริงของฝ่ายนั้น เป็นไปได้ว่าต้องการดึงผู้แข็งแกร่ง สร้างเป็นกลุ่มอิทธิพลระดับสุดยอดของบูโดกลุ่มใหม่”

หยางเฉินผงกหัว เอ่ยปากพูดว่า “ในเมื่อเป็นกลุ่มจัดตั้งเฉพาะกาล ก็เข้าไปร่วมด้วย ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร”

ชาติตระกูลบูโดของพวกแชโบลชาติวาโกกุ นัดประลองยุทธผู้แข็งแกร่งชาวจิ่วโจวที่มี ผู้แข็งแกร่งชาวจิ่วโจวทั้งหมด ล้วนมีคุณสมบัติเข้าร่วมงานนี้

เที่ยง11.30 น. หยางเฉินกำลังจะออกไป พี่น้องตระกูลซ่งก็เข้ามา

ซ่งจั่วพูดขึ้นว่า “คุณหยาง พวกเราตามท่านไปด้วยนะครับ!”

หยางเฉินส่ายหน้า “ระยะนี้ ในเยี่ยนตูมีเหล่าผู้แข็งแกร่งนอกพื้นที่เข้ามามากหลาย พวกเจ้าอยู่ที่นี่ ถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้น มีพวกเจ้าอยู่ ข้าก็ยังวางใจ”

ได้ยินที่หยางเฉินพูด สองคนพี่น้องต่างก็ผงกหัวรับ

หยางเฉินตัวคนเดียว ขับรถมุ่งตรงไปโรงแรมเยี่ยนตู

เวลา 11.55 น. หยางเฉินมาถึงโรงแรมเยี่ยนตู

ในขณะนั้น บริเวณหน้าโรงแรม มีรถหรูราคาแพงจอดกันเต็ม ข้างนอกยังมีคนมุงดูกันอยู่เป็นจำนวนมาก

หยางเฉินเพิ่งลงมาจากรถ ก็ถูกเหล่าบรรดานักข่าวล้อมอยู่ตรงกลาง

“คุณหยาง สวัสดีครับ ผมเป็นนักข่าวจากสำนักงานข่าวจาวหยาง ขอเรียนถามท่านในเรื่องการนัดประลองยุทธของกลุ่มแชโบลประเทศซันกับผู้แข็งแกร่งจิ่วโจว ไม่ทราบท่านมีความคิดเห็นอย่างไรครับ?”

“คุณหยาง สวัสดีครับ ผมเป็นนักข่าวจากสำนักงานข่าวซินสื้อจี้ เห็นว่าผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอดของกลุ่มแชโบลประเทศซัน ได้ทยอยกันเข้ามาในเยี่ยนตู ท่านเป็นคิงแห่งเยี่ยนตู ท่านมีความมั่นใจในชัยชนะแค่ไหนครับ?”

……

หยางเฉินก็คิดไม่ถึงว่า ตัวเองจะมีชื่อเสียงมากขนาดนี้ในเยี่ยนตู แค่เพิ่งลงจากรถ ก็ถูกเหล่าบรรดานักข่าว ล้อมกรอบซะแล้ว

หยางเฉินกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ทั้งบริเวณ เอ่ยปากขึ้นว่า “ผมมีคำพูดอยู่ประโยคเดียว ‘มิตรสหายมามีเหล้าต้อนรับ หากเสือสางหมาป่ามา เจอลูกซอง!’ ”

เหล่าบรรดานักข่าวยังไม่ทันตั้งสติ หยางเฉินก็ได้ฝ่าฝูงคน เข้าไปในโรงแรมเยี่ยนตู

“คุณหยาง สวัสดีครับ ท่านมาในงานประชุมสมาพันธ์บูโดนะครับ?เชิญทางนี้ครับ!”

พอหยางเฉินก้าวเข้าไปในโรงแรม ชายวัยกลางคนในชุดสากล เร่งรุดเดินเข้ามา พูดด้วยความนอบน้อม

เดินตามชายวัยกลางคนนั้นไป มาถึงโถงจัดเลี้ยงชั้นบนสุด

ในเวลานั้น ภายในห้องโถงอันใหญ่โต ได้มีคนเข้ามาแล้วเป็นจำนวนมาก แต่ละคนมีกระแสพลังบูโดแดนเหนือมนุษย์ให้สัมผัสได้

หลายคนจับกลุ่มคุยกันอยู่ พอหยางเฉินปรากฏตัว ทันทีนั้นก็ชักดึงเอาสายตามองเข้ามามากมาย

“นั่นคิงแห่งเยี่ยนตู หยางเฉินมาแล้ว!”

“คิงแห่งเยี่ยนตู วัยละอ่อนขนาดนี้เลยหรือ?”

“แกอย่าไปมองด้อยค่าเขานะ เห็นว่าระดับขั้นบูโดของเขา ไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าแล้วนะ”

“เป็นไปได้ยังไง?ดูหน้าตาแล้วอายุเขาไม่น่าจะถึงสามสิบเลยมั้ง?ข้ายังไม่เคยได้ยินว่า มีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าที่ไหนอายุไม่ถึงสามสิบ”

……

“เขาคือติงเหวินจัวตระกูลติงตอนเหนือหรือนี่ ตระกูลติงในตอนเหนือ กับอีกสี่ตระกูล ถูกรวมเรียกว่าห้าตระกูลตอนเหนือ และติงเหวินจัวนี้ เป็นผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งในตระกูลติง ในภูมิภาคตอนเหนือก็จัดว่าเป็นคนดังคนหนึ่ง”

“ไม่คิดเลยนะ ตระกูลติงถึงขนาดส่งติงเหวินจัวมา ดูท่า คงกะว่าการนัดประลองยุทธพรุ่งนี้ จะเอาชนะกลับไปพร้อมชื่อเสียงได้แน่!”

“เห็นว่ากันว่า ผู้นำบ้านตระกูลติง ให้ความสำคัญกับติงเหวินจัวเป็นอย่างมาก และมีการประกาศแล้วว่า เตรียมเลือกวันมงคลชัยเพื่อมอบตำแหน่งผู้นำให้กับติงเหวินจัวแล้ว”

……

พอติงเหวินจัวได้ทำการแนะนำตัวเองแล้ว ก็สร้างเสียงฮือฮาขึ้นมาในบริเวณงาน หลายคนมองไปที่ติงเหวินจัว ต่างก็มีสีหน้ายำเกรง

หยางเฉินมองฝ่ายตรงข้ามด้วยสายตาชืด ๆ กวาดตามองไปรอบบริเวณ และแล้วภายใต้สายตาของทุกคน เขาเดินตรงไปที่โต๊ะว่างที่อยู่ข้างหน้าสุด นั่งลงตรงตำแหน่งประธานของโต๊ะนั้น

เห็นภาพนี้ ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างหน้าตื่นตะลึง

“หยางเฉิน ใครอนุญาตให้เจ้านั่งที่ตรงนั้น?”

เห็นหยางเฉินเข้าไปนั่งในตำแหน่งประธานของโต๊ะที่ว่างนั้น ติงเหวินจัวสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ตวาดใส่ไปว่า “นั่นเป็นส่วนที่รอการเลือกหัวหน้าสมาพันธ์บูโดแล้ว เป็นที่นั่งของหัวหน้า เจ้ามันเด็กรุ่นหลัง ไม่มีคุณสมบัตินั่งที่นั่น”

คิ้วของหยางเฉินย่นเข้าหากัน เขาไม่ยักรู้ว่ายังมีการเลือกตั้งอะไรของสมาพันธ์บูโด และก็ไม่รู้ว่าที่ตรงนี้ จะเตรียมไว้เป็นที่นั่งของผู้ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าสมาพันธ์บูโด

ถ้าหากว่าฝ่ายตรงข้ามพูดกับเขาดี ๆ ก็คงจะไม่มีอะไร แต่เจ้าติงเหวินจัวคนนี้ ตั้งแต่เขาเดินเข้ามาถึงในโถงงานเลี้ยงนี้ ก็เห็นวางมาดเหมือนคนอยู่ระดับสูง พูดจาก็ไม่เข้าหู

คนที่นั่งอยู่กับเขา ผู้เฒ่าที่นั่งอยู่ตำแหน่งประธานในโต๊ะ ก็มองหยางเฉินด้วยสายตาเหยียด ๆ ถึงแม้ไม่ได้เอ่ยปากพูดอะไรเลย แต่หยางเฉินก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันจากกระแสพลังบูโดที่ฝ่ายตรงข้ามปล่อยออกมา

คนอื่น ๆ ต่างก็มองมาที่ตัวหยางเฉิน หลายคนแสดงสีหน้าเย้ยหยัน เหมือนกับกำลังรอ รอดูเหตุที่กำลังจะเกิด

หยางเฉินไม่ไปใส่ใจกับติงเหวินจัว ยังคงนั่งอยู่ตรงตำแหน่งประธานของโต๊ะนั่น รินน้ำชาใส่ถ้วยให้ตัวเอง ค่อย ๆ จิบเข้าไปคำหนึ่ง แล้ววางถ้วยชาลง ไม่มีทีท่าจะใส่ใจกับสายตาของใคร

ติงเหวินจัวเห็นอย่างนั้น อารมณ์ยิ่งโกรธเกรี้ยว เดินตรงเข้าไปหาหยางเฉิน เดินพลางพูดอย่างเกรี้ยวกราดไปว่า “ข้าบอกให้แกลุกออกไป ไม่ได้ยินที่ข้าสั่งหรือยังไง?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War