ขาดคำจากเสียงของหยางเฉิน ทั้งบริเวณสะดุ้งกันไปทั่ว
ทุกคนที่อยู่นั้นมองไปที่หยางเฉินด้วยสีหน้าแบบไม่อยากเชื่อ เหมือนว่าคิดไม่ถึง คิดไม่ถึงว่าหยางเฉินจะกล้าใช้วาจาโอหังขนาดนี้กับไป๋หลี่ฉางคง
ไป๋หลี่ฉางคงเป็นถึงผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นสุดยอดจากตระกูลบู๊โบราณเชียวนะ!
มีก็แต่ตู้จ้ง ถึงแม้บนใบหน้ายังดูมีกังวลอยู่ แต่ในแววกังวลนั้น ก็ยังมีความหวังรอแฝงอยู่
ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาประมือกับไป๋หลี่ฉางคงถล่มไป๋หลี่ฉางคงแพ้ไปได้อย่างง่ายดาย ก็มีคิดอยู่ว่าคงจะเป็นหยางเฉินแอบช่วยอยู่ ถึงตอนนี้ ความคิดนี้ยิ่งเหมือนจะชัดแจ้งยิ่งขึ้น
“หยางเฉิน นี่แกกำลังหาที่ตายแล้ว!”
ไป๋หลี่ฉางคงยังไม่ทันพูด ติงเหวินจัวถลันออกมาก่อน พูดด้วยสีหน้ากราดเกรี้ยวว่า “แกมันตัวอะไรกัน?เอาฐานะอะไรมาขู่บังคับท่านไป๋หลี่ฉางคง?”
“หรือแกยังไม่รู้อีกว่า ท่านนี้มาจากราชวงค์ไป๋หลี่แห่งตระกูลบู๊โบราณ?แกรู้หรือเปล่าว่า ตระกูลบู๊โบราณนั้น มีความหมายอย่างไรในจิ่วโจว?”
หยางเฉินไม่ได้ไปใส่ใจกับติงเหวินจัว กลับใช้สีหน้าที่สงบนิ่ง มองไปที่เวลาในนาฬิกาข้อมือ เอ่ยปากพูด “ผ่านไปสี่สิบห้าวิ.แล้ว เจ้ายังเหลือโอกาสอีกสิบห้าวิ. ”
ไป๋หลี่ฉางคงโกรธสุดถึงกับหัวเราะ ตาทั้งคู่จ้องเขม็งที่หยางเฉิน พูดเสียงหนาวเยือก “ข้าก็อยากจะขอดูว่าไอ้มดปลวกในโลกสามัญนี้ มันจะทำอะไรข้าได้?”
ตู้จ้งรู้สึกห่วงกังวลขึ้นมาพูดว่า “หยางเฉิน หรือไม่ ให้ข้าจัดดีกว่า?”
หยางเฉินส่ายหน้าเล็กน้อย มองไปที่ไป๋หลี่ฉางคงพูดว่า “หนึ่งนาทีที่กำหนดให้คุณ หมดแล้ว!คุณไปตายได้แล้ว”
ไป๋หลี่ฉางคงหัวเราะลั่นขึ้นมาในทันที พูดด้วยสีหน้าท้าทาย “ไอ้เจ้ามดปลวกสามานย์ ช่างโง่เง่าจริง ๆ สงสัยยังไม่เคยรู้จักผู้แข็งแกร่งขั้นแปดชั้นสุดยอด ว่ามีความเก่งกาจขนาดไหนมั้ง?”
ติงเหวินจัวก็อวยตามไปว่า “คุณท่านไป๋หลี่ ในเมื่อไอ้เด็กน้อยนี่มันกล้าท้าทายท่าน ท่านก็อย่าไปออมมือให้มันเลย ให้ดีก็จัดการหักแขนขาทั้งสี่ชิ้นของมันทิ้งก่อนเลย!”
“สำหรับผู้แข็งแกร่งในวงการบูโดนั้น ถ้าต้องอยู่ในสภาพแขนขาทั้งสี่ใช้การไม่ได้ น่าจะเป็นเรื่องที่ทารุณร้ายที่สุดมัง?”
ใบหน้าติงเหวินจัวเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม แค้นเคียดอยากหักแขนหักขาหยางเฉินด้วยมือตัวเอง
ตู้จ้งตวาดใส่ด้วยความโกรธ “ติงเหวินจัว แกหุบปากเสีย!แกขืนพูดอย่างคนปากเสียอีก ข้าจะจัดการหักแขนขาแกก่อนเสียเดี๋ยวนี้แหละ!”
ผู้แข็งแกร่งของสมาพันธ์บูโดคนอื่น ๆ ต่างพากันมองติงเหวินจัวอย่างโกรธเคือง
ไป๋หลี่ฉางคงพูดแต่ละคำมีแต่คำว่าเศษขยะโลกสามัญ มันไม่ได้เหยียดหยามหยางเฉินเท่านั้น แต่โดนรวมไปหมดทั้งผู้แข็งแกร่งในโลกสามัญที่อยู่ในที่นี้ ถูกเขาดูถูกไปหมด
หยางเฉินไม่ได้ใส่ใจกับทุกคน ตาที่มองเห็นไป๋หลี่ฉางคงนั้น เหมือนมองคนที่ตายไปแล้ว
“โปรดจำไว้ใช้ในชาติหน้านะ ต้องรู้จักเป็นคน!”
หยางเฉินจู่ ๆ ก็พูดออกไป
พอเสียงพูดจบ พลังบูโดที่น่าสะพรึงกลัวกระแสหนึ่ง ระเบิดออกมาจากตัวของเขาในฉับพลัน
บรึม!
ในนาทีนั้น ห้องโถงงานเลี้ยงที่ใหญ่โต ถูกพลังบูโดที่กระจายออกมาจากตัวหยางเฉินครอบคลุมกดดันไปทั่ว คนที่อยู่ในนั้นทั้งหมดตาลุกโต สีหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
ใบหน้าเต็มไปด้วยความโอหังของไป๋หลี่ฉางคง ตอนนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
ระหว่างผู้แข็งแกร่งด้วยกัน ไม่จำเป็นว่าต้องลงมือ เพียงแค่กระแสพลังที่เปล่งออกมา ก็พอให้คาดเดาได้โดยประมาณแล้ว รู้ได้ขนาดว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นมีพลังฝีมืออยู่ในขั้นชั้นไหน
ไป๋หลี่ฉางคงเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นสุดยอด หยางเฉินถึงแม้ก็อยู่ที่แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นสุดยอด แต่เขาได้รับการฝึกฝนจากตำราลับที่ผู้แข็งแกร่งจากตี้ชุนมอบให้ และเขาเองก็มีสายเลือดคลั่งอยู่ในตัว อีกทั้งยังฝึกจนได้พลังแห่งธาตุด้วย
ให้แม้นว่าจะไม่เจาะจงไปกระตุ้นเอาระบบพวกนี้ออกมา แค่เพียงระเบิดพลังแท้ ๆ ในระดับแดนตัวเองออกมาใช้ ก็แกร่งกล้ามากแล้ว อย่างน้อยก็อยู่ถึงกึ่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นแล้ว
“เจ้า นี่เจ้าเป็นผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นนี่!”
ไป๋หลี่ฉางคงพูดเสียงสั่นออกมาในทันใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...