The king of War นิยาย บท 1822

ดูไป๋หลี่ฉางคงพูดอย่างเอาเป็นเอาตาย ท่าทีของหยางเฉินเริ่มค่อย ๆ อึมครึมลง หยีตามองฝ่ายตรงข้ามพูดว่า “อยากได้ เข้ามาหยิบเอาเอง!”

พูดจบ เขาก็หยิบเอาขวดเคลือบขาวที่ใส่ยาเม็ดเลือดเดือดนั้นออกมา แล้วก็เอาขวดเคลือบขาวนั้นโยนขึ้นลงเล่น ทำหน้าทะเล้นใส่

สีหน้าไป๋หลี่ฉางคงหนาวเยือก สองตาจ้องเขม็งที่หยางเฉิน ใจนึกอยากใช้สายตาสับหยางเฉินเป็นพันหมื่นชิ้นให้สมใจแค้น

ตู้จ้งเห็นสภาพแล้ว รีบถลันเข้ามา ยืนข้าง ๆ หยางเฉิน จ้องมองไป๋หลี่ฉางคงอย่างกราดเกรี้ยวพูดว่า “ไป๋หลี่ฉางคง อย่าให้มันเกินไปนัก หยางเฉินเป็นส่วนหนึ่งของพวกเราสมาพันธ์บูโด พวกเราจะไม่ยอมให้ใครมารังแกคนในสมาพันธ์บูโดของเรา”

“ถ้าจะว่าไป ยาเม็ดเลือดเดือดเม็ดนี้ มันก็ไม่ใช่ของแกแล้ว แกจะถือสิทธิ์อะไรมาเอาไปจากมือหยางเฉิน?”

ไป๋หลี่ฉางคงโกรธจัดจนหัวเราะ “ไม่ใช่ของข้า?แล้วเป็นของเจ้าหรือ?”

ตู้จ้งหัวเราะเสียงเยือก “อย่าลืมนะ แกส่งมอบยาเม็ดนี้ออกไปจากมือแกเอง แม้ต่นักบู๊จากประเทศซันยังไม่มีความคิดจะเอายาเม็ดเลือดเดือดเม็ดนี้ไปเลย แล้วแกคิดจะเอาได้ยังไง?”

หยางเฉินมีความรู้สึกชื่นชมอย่างออกหน้า เดิมทีคิดว่าตู้จ้งจะขอให้เขาคืนยาเม็ดเลือดเดือดเม็ดนี้ไป ถึงยังไงก็เห็นพลังฝีมือแท้จริงของไป๋หลี่ฉางคงที่อยู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นสุดยอด ตู้จ้งถึงแม้ชนะได้เมื่อก่อนหน้านี้ เขาคงจะเข้าใจชัดเจน ว่าไม่ใช่ชนะด้วยพลังฝีมือของตัวเอง

การทำให้ไป๋หลี่ฉางคงโกรธขึ้นมาจริง ๆ คงจะไม่เป็นผลดีกับใครเลย

แต่ถึงแม้จะเป็นอย่างนี้ ตู้จ้งกลับยังคงยืนหยัดอยู่ข้างหยางเฉิน

ส่วนผู้แข็งแกร่งในสมาพันธ์บูโดคนอื่น ๆ ก็ล้วนแต่ยืนจ้องอย่างเอาเป็นเอาตายกับไป๋หลี่ฉางคง ดูเหมือนว่าถ้าไป๋หลี่ฉางคงกล้าเข้ามาแย่ง พวกเขาก็กล้าที่จะเข้ารุมสกรัม

ติงเหวินจัวร้อนใจขึ้นมาในทันที รีบถลันเข้ามาพูดว่า “ทุกคนล้วนคนกันเอง นี่จะให้เป็นเรื่องอะไรกัน?”

พูดจบ เขาก็มองไปที่ตู้จ้งพูดว่า “ตู้จ้ง สมาพันธ์บูโดเราก็เพิ่งตั้งขึ้นมา เวลานี้กำลังต้องการกำลังคน ไป๋หลี่ฉางคงจะว่าไปยังไง ก็เป็นผู้แข็งแกร่งตระกูลบู๊โบราณ มีเขาอยู่ในสมาพันธ์บูโด สำหรับสมาพันธ์บูโดแล้ว มีแต่ได้ไม่มีเสีย”

หลังจากนั้น เขาก็หันไปทางไป๋หลี่ฉางคงแล้วพูดว่า “คุณท่านไป๋หลี่ ขอท่านโปรดอย่าได้โกรธเคือง พรุ่งนี้พวกเรายังจำเป็นต้องพึ่งท่านมาช่วยพวกเรารับมือกับคนประเทศซัน ถ้าท่านไปจากสมาพันธ์บูโดในตอนนี้ แล้วจะให้พวกเราเอาอะไรไปรับมือกับพวกผู้แข็งแกร่งจากประเทศซันได้?”

ติงเหวินจัวเป็นคนในตระกูลติงจากหนึ่งในห้าตระกูลตอนเหนือ และบ้านตระกูลไป๋หลี่ก็เป็นตระกูลที่อยู่เบื้องหลังของตระกูลติง พูดได้ว่า ตระกูลติงก็คือตระกูลกระบอกเสียงที่อยู่ในโลกสามัญของบ้านตระกูลไป๋หลี่

แน่นอนว่าติงเหวินจัวจะไม่ยอมทิ้งโอกาสที่จะรั้งไป๋หลี่ฉางคงให้อยู่ในสมาพันธ์บูโด ขอเพียงให้มีไป๋หลี่ฉางคงอยู่ ฐานะของเขาในสมาพันธ์บูโดก็ย่อมต้องสูงขึ้น

หากแม้นไม่มีไป๋หลี่ฉางคง การอยู่ในสมาพันธ์บูโดของเขา ก็จะเทียบอะไรไม่ได้เลยแม้แต่ลมตด

ไป๋หลี่ฉางคงเป็นถึงคนในตระกูลบู๊โบราณ ยังจะมาเข้าร่วมกับสมาพันธ์บูโด แน่นอนว่าก็เพื่อหวังเป็นหัวหน้าสมาพันธ์บูโด เพื่อจัดการให้สมาพันธ์บูโดให้อยู่ในการควบคุมของตัวเอง

คำพูดของติงเหวินจัว ก็พอดีเข้าทางให้เขามีที่ลง แน่นอนว่าเขาไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว วางมาดเชิดหยิ่ง หวังรอให้คนในสมาพันธ์บูโดมาขอให้เขาอยู่

หัวคิ้วของตู้จ้งย่นเข้าหากันในทันที ก่อนหน้านี้แม้เขาจะมองพฤติกรรมที่ไป๋หลี่ฉางคงแสดงออกตอนอยู่ต่อหน้านักบู๊ประเทศซันนั้น ให้รู้สึกรับไม่ได้ แต่ต้องเข้าใจไว้ว่า ถ้าหากมีผู้แข็งแกร่งตระกูลบู๊โบราณอยู่ในสมาพันธ์บูโด สำหรับสมาพันธ์บูโดแล้ว มันเป็นเรื่องที่ได้ผลในทางดีแน่นอน

หลายคนในสมาพันธ์บูโดต่างขรึมเงียบลง แน่นอนว่าทุกคนต่างคิดกันถึงประเด็นนี้

และในขณะนั้นเอง หยางเฉินจู่ ๆ ก็แค่นเสียงหัวเราะออกมาทีหนึ่ง เอ่ยปากพูดออกมาว่า “คน ๆ ที่เป็นผู้แข็งแกร่งที่พอเห็นนักบู๊จากประเทศซันก็รู้จักแต่คุกเข่าให้ ต่อให้เอาไว้ในสมาพันธ์บูโดได้ แล้วจะเอาอะไรที่ว่าเป็นผลดีมาให้กับสมาพันธ์บูโดได้?”

“ไป๋หลี่ฉางคงแม้ขนาดผู้แข็งแกร่งจากประเทศซันคนตะกี้นี้ยังเอาชนะไม่ได้เลย หรือจะว่า ยังจะให้เขาไปรับมือกับนักบู๊ประเทศซันที่เก่งกาจมากขึ้นในวันพรุ่งนี้?”

“พวกท่านไม่กลัวหรือว่า ถึงเวลานั้นเขาสู้ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ ก็เลยคุกเข่าลงกลางเวที ขอให้นักบู๊ประเทศซันช่วยเปิดทางรอดให้ชีวิตของเขา?”

พูดเรื่องนี้ออกไป หวั่นไหวกันทั่วทั้งบริเวณ

หยางเฉินได้ชิงเอายาเม็ดเลือดเดือดของไป๋หลี่ฉางคง ก็เป็นเรื่องที่ทำให้คนที่อยู่นี้สะท้านใจไปอย่างมากแล้ว หยางเฉินยังกล้าสบประมาทไป๋หลี่ฉางคงต่อหน้าผู้คนมากมายนี้

ที่เขาพูดมานั้นถึงแม้จะเป็นเรื่องจริง แต่ฟังเข้าหูของไป๋หลี่ฉางคงแล้ว มันแสนจะแดกดันมาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War