พอได้ยินผู้แข็งแกร่งคนนั้นของจิ่วโจวถามมา สีหน้าของตู้จ้งก็ดูบึ้งตึงขึ้นมาทันที เพราะการประลองได้เริ่มขึ้นมานานแล้ว แต่หยางเฉินก็ยังไม่มาสักที การที่คนอื่นจะเดาไปเรื่อยก็เป็นเรื่องปกติ
“ใช่ครับ เมื่อกี้ท่านตู้ยังคุยโวอยู่เลยว่า เด็กหนุ่มที่ชื่อหยางเฉินนั่นเก่งมาก แข็งแกร่งยิ่งกว่าท่านตู้? แล้วทำไมตอนนี้ถึงไม่ปรากฏตัวออกมาเหรอครับ?”
“ท่านตู้ ไม่ใช่ว่าหยางเฉินมีตระกูลบู๊โบราณที่ยิ่งใหญ่อะไรหนุนหลังอยู่ คุณเลยตั้งใจยกยอเขาหรอกนะ?”
……
ทันใดนั้น ผู้แข็งแกร่งของจิ่วโจว ต่างพากันซักถามตู้จ้ง
ในกลุ่มคนเหล่านั้น ติงเหวินจัวก็อยู่ด้วย สีหน้าของเขายิ้มแย้ม สิ่งที่เขาต้งการก็คือแบบนี้
ตู้จงพูดแล้วไม่ใช่เหรอว่าหยางเฉินแกร่งมาก? งั้นก็ให้นักสู้ของจิ่วโจวแสดงความข้องใจออกมา
“หุบปากให้หมด!”
ตู้จ้งตะคอกเสียงดัง แล้วพูดด้วยความโมโหว่า “ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในการประลอง ถ้าใครยังพูดเรื่องไร้สาระอีกก็อย่าหาว่าตู้จ้งคนนี้ไม่เตือนแล้วกัน!”
พูดจบ เขาก็มองไปที่ไช่เจิ้งหยาง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ไช่เจิ้งหยาง รอบต่อไป คุณออกไปสู้ เป็นไง?”
ไช่เจิ้งหยางเป็นผู้แข็งแกร่งจากตระกูลไช่ ที่เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ของทางตะวันตก เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นต้นอย่างแท้จริง
หลังจากนั้น ก็คือไช่เจิ้งหยางกับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดอีกสองคน
แต่ ไช่เจิ้งหยางอยู่ระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นต้น ส่วนอีกสองคนต่างก็อยู่ในระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นสุดยอดทั้งนั้น
นักสู้ของประเทศซันที่เฝ้าสังเวียนตอนนี้อยู่แค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลายเท่านั้น ถ้าทางจิ่วโจวส่งผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นสุดยอดออกไปมันจะดูไม่ค่อยเหมาะสมจริงๆ
ถ้าไม่ใช่เพราะผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นสุดยอดต่างก็แพ้ให้กับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลายของประเทศซันละก็ ตู้จ้งก็ไม่มีทางทนความอับอายจนส่งผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นต้นอย่างไช่เจิ้งหยางออกไปหรอก
ไช่เจิ้งหยางสีหน้าบึ้งตึงขึ้นมาทันที แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชอบใจว่า “ท่านตู้ นี่คุณไม่ดูถูกผมไปหน่อยเหรอ? ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นกลางคนหนึ่ง คู่ควรให้ผมลงมือด้วยเหรอ?”
เขาก็มีความภาคภูมิใจของเขา เขารู้ว่านักสู้ของประเทศซันที่เฝ้าสังเวียนนั้นแข็งแกร่งมาก แต่เขาเป็นถึงผู้แข็งแกร่งจากตระกูลไช่แห่งหนึ่งในสามตระกูลใหญ่แห่งทางตะวันตก ถ้าให้เขาออกโรงจริง ต่อให้จะสามารถเอาชนะอีกฝ่ายได้มันก็ไม่มีอะไรให้ดีใจเลย
การที่เขาใช้ฝีมือระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นต้นเอาชนะนักสู้แดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลายของประเทศซันได้ จะมีอะไรให้ภูมิใจ?
ตู้จ้งพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “ไม่ใช่ว่าผมไม่ให้เกียรติคุณ แต่ในค่ายของจิ่วโจว ผู้แข็งแกร่งที่สูงกว่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นต้นก็เหลือไม่กี่คนแล้ว เราจะปล่อยให้ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นสุดยอดออกไปสู้กับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลายของประเทศซันก็คงไม่ได้จริงมั้ย?”
พอได้ยินที่ตู้จ้งพูด ไช่เจิ้งหยางก็กวาดตามองไปยังค่ายนักสู้ของจิ่วโจว เขาถึงได้รับรู้ว่า ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดกับแปดก็เหลือไม่กี่คนแล้ว และในคนเหล่านี้ แดนของเขาก็ต่ำที่สุด และเขาก็เป็นคนที่เหมาะที่สุดด้วย
ผู้แข็งแกร่งที่ต่ำจากแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ด ต่างก็แพ้ให้ผู้นักสู้ชาวซันที่ครองสังเวียนไปหมดแล้ว
แต่เขาเป็นถึงนักสู้ระดับสูงสุดของตระกูลใหญ่ เขามีความภาคภูมิใจในตัวเอง จึงรับไม่ได้ที่ต้องใช้ฝีมือระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดไปสู้กับนักสู้ชาวซันที่อยู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลายได้
แต่ว่า ถ้าเขาไม่ไป แล้วใครจะไป?
ในที่สุด ไช่เจิ้งหยางก็ตัดสินใจ พูดพร้อมกัดฟันว่า “ท่านตู้ ผมจะถือว่าให้เกียรติคุณ หวังว่าคุณจะไม่ทำให้ผมผิดหวังนะ!”
ตู้จ้งรู้ดีว่าไช่เจิ้งหยางหมายถึงอะไร ในค่ายนักสู้ของจิ่วโจว ตอนนี้คนที่แข็งแกร่งที่สุดก็คือตู้จ้ง และเมื่อกี้ในค่ายของจิ่วโจวต่างเถียงกันว่าใครจะได้เป็นหัวหน้าสมาพันธ์บูโด
ตอนแรกไช่เจิ้งหยางที่ยังดูถูกนักสู้ชาวซันที่เฝ้าเวที ในตอนนี้ เขาก็ได้รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายแล้ว
ที่แท้ ก่อนหน้านี้ที่สู้กัน อีกฝ่ายยังไม่ได้เอาจริงด้วยซ้ำ
ไม่อย่างนั้น อีกฝั่งที่อยู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลาย จะมีพลังเทียบเท่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นต้นได้ยังไง?
การต่อสู้ยิ่งดำเนินต่อไป ไช่เจิ้งหยางก็ยิ่งตกใจมากขึ้น
เมื่อเวลาผ่านไป เขาก็เริ่มรู้สึกว่าพลังของตัวเองไม่พอ ฝีมือในการต่อสู้ของอีกฝ่ายแข็งแกร่งเกินไป มันไม่ใช่พลังที่แดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลายจะสามารถปลดปล่อยออกมาได้
“ตุบ!”
เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง ทั้งสองแยกไปยืนคนละฝั่ง ต่างหายใจหอบ การต่อสู้อันดุเดือดเมื่อกี้ ทำให้ทั้งคู่ใช้พลังงานไปเยอะมาก
นักสู้ชาวซันที่เฝ้าเวที แววตามีแต่ความเคร่งขรึม ไช่เจิ้งหยางที่พลังมีไม่มากพอ ก็ไม่ได้รู้สึกดีสักเท่าไหร่
ไช่เจิ้งหยางจ้องเขม็งไปที่อีกฝ่าย กัดฟันแล้วพูดว่า “ฝีมือของแก ไม่มีทางเป็นแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลายอย่างแน่นอน!”
อีกฝ่ายถึงกับช็อก แต่ไม่นานก็กลับมาสงบเหมือนเดิม แล้วขำออกมาอย่างไม่ให้เกียรติ “ทำไม? ยอมรับความพ่ายไม่ได้ เลยคิดว่าฉันอยู่เหนือกว่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลาย?”
ไช่เจิ้งหยางพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ชอบใจ “ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลาย ไม่มีทางระเบิดพลังที่เทียบเท่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นต้นได้ ฉันสามารถรับรู้ได้ถึงรังสีที่แข็งแกร่งจากตัวแก รังสีนี้ ไม่มีทางเป็นของแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลายแน่นอน แต่เป็นรังสีของแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นกลาง”
พอพูดอย่างนั้นออกมา บรรยากาศก็วุ่นวายขึ้นมาทันที!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...