The king of War นิยาย บท 1840

บรรยากาศเกิดวุ่นวายขึ้นมา เพราะคำพูดของไช่เจิ้งหยาง

นาคัตสึ เรียวสุเกะหรือผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลายที่กำลังสู้กับไช่เจิ้งหยางบนสังเวียน ไม่ได้แสดงสีหน้าที่แตกตื่นออกมาแต่อย่างใด ขำออกมาอย่างดูถูก มองหน้าไช่เจิ้งหยางแล้วพูดว่า “ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ต้องมีหลักฐาน ในเมื่อแกบอกว่าฉันไม่ใช่แดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลาย ไหนล่ะหลักฐาน?” 

“ถ้าไม่มีหลักฐาน แล้วเรื่องไร้สาระที่แกพูดมามันจะไปมีประโยชน์อะไร? อีกอย่าง การท้าประลองของประเทศซันของเรา ก็ไม่เคยพูดนี่ว่าต้องสู้กับคนที่อยู่แดนเดียวกันเท่านั้น แต่ผู้แข็งแกร่งที่ยืนหยัดเป็นคนสุดท้ายต่างหากที่เป็นผู้ชนะ” 

ไช่เจิ้งหยางถึงกับพูดไม่ออก เขาแค่รับรู้ได้ว่าฝีมือของนาคัตสึ เรียวสุเกะ ไม่มีทางเป็นแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลายแน่นอน แต่ก็ไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยัน

และยังมีเรื่องที่สำคัญที่สุด คือการตกลงของทั้งสองฝ่าย ไม่ได้กำหนดว่าต้องสู้กับผู้แข็งแกร่งในแดนเดียวกัน แต่เป็นการเลือกผู้ชนะคนสุดท้าย ถ้าผู้ชนะคนสุดท้ายเป็นฝั่งไหน ฝั่งนั้นก็จะเป็นฝ่ายชนะไป

“นักสู้จิ่วโจว พวกแกสู้ไม่ได้เหรอ? ถ้าสู้ไม่ได้ ก็ให้คนที่แข็งแกร่งกว่าขึ้นสังเวียนมาซะ” 

“เป็นถึงผู้แข็งแกร่งแห่งจิ่วโจวผู้สู้ศักดิ์ แต่กลับไร้ยางอายได้ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่พวกแกเป็นฝ่ายส่งผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดมาสู้กับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นหกเอง แต่กลับมาแว้งกัด บอกว่านักสู้ของประเทศซันจงใจปิดบังฝีมือซะได้” 

“ฉันว่านะ นักสู้จิ่วโจวยอมแพ้ไปเลยดีกว่า เพื่อไม่ต้องทำเรื่องขายหน้าต่อไป” 

……

ทันใดนั้น สถานการณ์ก็วุ่นวายขึ้นมา แม้แต่ผู้ชมที่เข้ามาดูการประลองก็เริ่มตำหนินักสู้ของจิ่วโจวขึ้นมา

เหล่านักสู้ที่อยู่ในค่ายจิ่วโจว แต่ละคนสีหน้าก็ดูไม่ได้เลย

ติงเหวินจัวขำออกมาอย่างไม่ชอบใจ มองหน้าตู้จ้งแล้วพูดไปว่า “ท่านตู้ การประลองในวันนี้ ถูกพวกคุณทำเละไปหมดแล้วหลังจากนี้ นักสู้จิ่วโจวของเรา ชื่อเสียงคงป่นปี้หมดแล้ว” 

“ในเมื่อคุณยอมรับให้หยางเฉินขึ้นเป็นหัวหน้าสมาพันธ์บูโดแล้ว งั้นเรื่องนี้ ก็ต้องให้เขาเป็นคนรับผิดชอบจริงมั้ย?” 

ตู้จ้งขมวดคิ้ว รังสีที่เยือกเย็นแผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา เขาจ้องเขม็งไปที่ติงเหวินจัว แล้วพูดขึ้นว่า “ถ้าคุณยังกล้าพูดอะไรแม้แต่คำเดียว ผมจะฆ่าคุณทิ้งเดี๋ยวนี้!” 

ติงเหวินจัวถึงกับสะดุ้ง ตอนมองไปที่ตู้จ้ง แววตาก็มีแต่ความหวาดกลัว

เขารับรู้ได้ ตู้จ้งมีใจที่จะฆ่าแล้วจริงๆ

เขาจึงรีบหุบปาก และไม่กล้าพูดอะไรเกี่ยวกับหยางเฉินอีก

ไช่เจิ้งหยางที่อยู่บนสังเวียน ก็ทำหน้าโมโหไม่ต่างกัน ทั้งๆ ที่รู้ว่าอีกฝ่ายปิดบังแดนวิถีบู๊ แต่กลับไม่มีหลักฐาน แถมยังต้องปล่อยให้อีกฝ่ายที่อ้างว่าอยู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นหกชั้นปลาย มาสู้กับเขาที่เป็นแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นต้นอย่างสูสีอีก

“ไอ้บัดซบ ฉันขอสู้ตายกับแกแล้ว!” 

ไช่เจิ้งหยางเดือดดาลขึ้นมาทันที แล้วกระโจนเข้าใส่ นาคัตสึ เรียวสุเกะ

นาคัตสึ เรียวสุเกะทำหน้าดูถูก มองดู ไช่เจิ้งหยางที่พุ่งมาหาตน จึงยิ้มอย่างมีเลศนัยออกมาที่มุมปาก

ระหว่างการต่อสู้ที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ เขาได้รู้ถึงความห่างระหว่างตัวเขากับไช่เจิ้งหยางแล้ว ถ้าขืนสู้กันต่อไป เขาต้องแพ้อย่างแน่นอน

แต่ถ้าทำให้จิตใจของไช่เจิ้งหยางวุ่นวาย เขาจึงจะมีโอกาสในการคว้าชัยได้

ตามคาด ไช่เจิ้งหยางที่เดือดดาลสภาพจิตใจก็วุ่นวาย การโจมตีก็เริ่มมั่ว

นาคัตสึ เรียวสุเกะมองเห็นปัญหาในการโจมตีของไช่เจิ้งหยางออกทันที มุมปากของเขาแย้มขึ้น ยิ้มออกมาอย่างขบขัน วินาทีต่อมา ขาของเขาก็เคลื่อนไหวอย่ากะทันหัน ร่างกายขยับเล็กน้อย และหลบการโจมตีที่ใช้สุดแรงของไช่เจิ้งหยางออกไปได้พอดี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War