บทที่ 1885 – ตอนที่ต้องอ่านของ The king of War
ตอนนี้ของ The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1885 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ไอ้สารเลว
ดวงตาของอ้ายหลินเปลี่ยนเป็นสีแดง แม้เธอจะไม่รู้ว่าหม่าชาวและหยางเฉินกำลังจะไปทำภารกิจอะไร แต่เธอกลับรู้ว่าภารกิจที่ต้องให้หยางเฉินลงมือด้วยตัวเองจะต้องยากมากแน่
เธอมองไปที่หม่าชาวด้วยดวงตาสีแดงและถามว่า “ตอนนี้คุณได้รับบาดเจ็บ ยังทำงานได้หรือ?”
หม่าชาวพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ต้องกังวล มีพี่เฉินอยู่ ฉันไม่เป็นอะไรแน่ ยิ่งไปกว่านั้น แผลเท่านี้ ไม่นับเป็นอะไร”
พูดจบ เขาก็ยิ้มและดึงเด็กออกจากมือของอ้ายหลิน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนและหยอกล้อกับเสี่ยวจิ้งอัน
หัวใจของหยางเฉินรู้สึกหนักอึ้งสุดขีด เขาไปภูเขาวมาร ก็เพื่อไปช่วยชีวิตคน แต่หม่าชาวไปที่ภูเขาวมารกลับเพื่อการฝึกฝน
อาจกล่าวได้ว่าภูเขาวมารเป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุดในโลกฆราวาส ต่อให้เป็นแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดก็มีอยู่มากมาย
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดมากมายที่ได้พบโอกาสทะลวงแดนจากภูเขาวมาร
ด้วยเหตุนี้ แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดจึงถูกเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่นำไปสู่สวรรค์โดยตรง
ในภูเขาวมารทุกวันล้วนผู้แข็งแกร่งชั้นยอดที่ต้องสังเวยชีวิต และแม้กระทั่งผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดก็ยังอาจไม่รอดเช่นกัน
ในที่ที่อันตรายเช่นนี้ หม่าชาวกลับต้องการไปฝึกฝนสักระยะหนึ่ง
ในฐานะพี่ชาย หยางเฉินไม่สามารถห้ามเขาได้ แต่หากหม่าชาวเป็นอะไรไป เขาก็ไม่รู้จะเผชิญหน้ากับอ้ายหลินยังไงดี
เฝิงเสียวหว่านจู่ๆ ก็พูดขึ้นทันที “พี่หยาง คุณมากับฉันหน่อย ก่อนหน้านี้ฉันกลั่นยาเอาไว้บ้าง นี่มีประโยชน์กับคุณและพี่หม่ามาก”
หยางเฉินเข้าใจความหมายของเฝิงเสียวหว่านทันทีและตามเธอไปที่ห้องบนชั้นสอง
เมื่อไม่มีคนอื่น เฝิงเสียวหว่านก็ตาแดงก่ำและพูดอย่างเคร่งขรึม “พี่หยาง พี่หม่าอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายมาก!”
หยางเฉินคาดเดาคำตอบนี้เอาไว้แล้วและถามว่า "เลวร้ายขนาดไหน?"
เฝิงเสียวหว่านเอ่ย "ผนึกของลูกแก้วดูดเลือดในตัวพี่หม่ากำลังจะถูกทำลาย เมื่อผนึกแตกออก เกรงว่าพี่หม่าจะระเบิดทันทีด้วยพลังอันยิ่งใหญ่นั้น"
หยางเฉินรู้ดีว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องร้ายแรง แต่กลับไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องร้ายแรงขนาดนี้
เขารีบถาม “มีวิธีใดบ้างที่จะผนึกลูกแก้วดูดเลือดได้?”
เฝิงเสียวหว่านเอ่ย “เว้นแต่จะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับท็อปเหมือนกับครั้งก่อนหน้านี้เท่านั้น ถึงจะผนึกลูกแก้วดูดเลือดให้พี่หม่าได้”
ใบหน้าของหยางเฉินดูปั้นยากไปเล็กน้อย ครั้งสุดท้ายอยู่ในราชวงศ์เฝิง หม่าชาวได้ระเบิดพลังของลูกแก้วดูดเลือดในร่างกายของเขาจนหมดและต่อสู้กับไป๋หลี่เยี่ยน
และเป็นครั้งนั้นเองที่จู่ๆ ก็มีผู้แข็งแกร่งในชุดคลุมสีดำมาถึง เขาขอให้หยางเฉินรับปากข้อหนึ่ง ก่อนจะตกลงที่จะผนึกลูกแก้วดูดเลือดในร่างกายของหม่าชาว
แต่หยางเฉินไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายหน้าตาเป็นอย่างไร ชื่ออะไร และเป็นใครกันแน่ แล้วตนจะไปหาเขามาปิดผนึกลูกแก้วดูดเลือดให้หม่าชาวได้อย่างไร?
หยางเฉินมีสีหน้าขมขื่น เขากัดฟันและถามว่า “มีวิธีอื่นนอกเหนือจากนี้ไหม?”
เฝิงเสียวหว่านส่ายหัว “ตอนนี้ไม่มีทางอื่นแล้ว ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายมากเกินไป ผนึกที่ประทับให้เขามีเพียงเขาหรือผู้ที่แข็งแกร่งเท่ากับเขาหรือเป็นนักบู๊ที่แข็งแกร่งกว่าเขา และจะต้องมีเป็นผู้แข็งแกร่งที่ครอบครองพลังแห่งการผนึกด้วย ถึงจะสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับผนึกในตัวพี่หม่าได้”
หยางเฉินสูดลมหายใจเข้าลึกและพยายามควบคุมอารมณ์ของเขา
หลังจากผ่านไปนาน เขาก็ถามว่า “สถานการณ์ของเขาในตอนนี้ ยังยืนหยัดอยู่ได้นานแค่ไหน?”
เฝิงเสียวหว่านเอ่ย "ผนึกมีรอยร้าวแล้ว พลังของลูกแก้วดูดเลือดกำลังกัดเซาะร่างกายของพี่หม่าผ่านรอยร้าวอย่างต่อเนื่อง รอยร้าวจะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลาจนกระทั่งผนึกแตกออกอย่างสมบูรณ์"
“จากสถานการณ์ปัจจุบัน เกรงว่าพี่หม่าจะอยู่ได้อีกไม่เกินหนึ่งเดือน อีกทั้งยังตั้งอยู่บนสมมติฐานว่าเขาไม่ได้ใช้พลังของลูกแก้วดูดเลือดด้วย หากเขาใช้พลังของลูกแก้วดูดเลือด ผนึกก็จะยิ่งแตกเร็วขึ้น”
ในเวลานี้หม่าชาวและอ้ายหลินต่างก็มีดวงตาแดงก่ำ อ้ายหลินยังคงมีน้ำตาบนใบหน้าของเธอ และดวงตาของหม่าชาวก็ตัดใจไม่ลง
หยางเฉินพยักหน้า เขาเหลือบมองฝูงชนและพูดเสียวเข้ม “พวกเราไม่อยู่กี่วันนี้ ทุกคนรักษาตัวด้วย”
“พวกคุณอย่ากังวลไปเลย เราจะดูแลบ้านหลังนี้ไว้”
ฝูงชนเริ่มพูดขึ้น
พวกเขาทั้งหมดรู้ว่าหยางเฉินมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำและไม่ได้หยุดเขา
ในไม่ช้าหยางเฉินก็ออกจากยอดเมฆาไปกับหม่าชาว
หม่าชาวถาม “พี่เฉิน เสียวหว่านบอกอะไรคุณ?”
หยางเฉินไม่ได้ปิดบังอะไรและบอกหม่าชาวทุกอย่างที่เฝิงเสียวหว่านเอ่ยเมื่อครู่
หลังจากพูดจบ หยางเฉินก็เอ่ยว่า “ตอนนี้กลับไปก็ยังทัน ฉันหวังว่านายจะสามารถกลับไปกับอยู่กับพี่อ้ายหลินและเสี่ยวจิ้งอัน สำหรับเรื่องปิดผนึกในตัวนายปล่อยให้ฉันจัดการ ฉันจะต้องหาผู้แข็งแกร่งระดับท็อปที่มีพลังแห่งการผนึกได้แน่”
ครั้งนี้ที่ต้องไปยังภูเขาวมาร ที่นั่นเดิมก็มีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดอยู่มากมาย หยางเฉินไม่เชื่อว่าตัวเองจะไม่สามารถหาผู้แข็งแกร่งที่มีพลังแห่งการผนึกในภูเขาวมารได้
ในตอนแรก ผู้แข็งแกร่งที่ผนึกลูกแก้วดูดเลือดในตัวของหม่าชาวจะต้องเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดแน่ ในเมื่อเป็นแบบนี้ หยางเฉินก็เพียงแค่ต้องหาผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดที่มีพลังแห่งการผนึกสักคนในภูเขาวมารมาเสริมความแข็งแกร่งให้กับผนึก
หม่าชาวส่ายหัวทันทีและพูดอย่างจริงจังว่า “พี่เฉิน ไม่ต้องกังวลไป ผมไม่เป็นไรแน่ ไม่แน่ว่าในภูเขาวมารผมอาจจะหาทางแก้ไขด้วยตนเองเจอก็เป็นได้”
หยางเฉินโกรธขึ้นมาและตะคอก "เจ้าคนสารเลว เป็นถุงแบบนี้แล้วยังอยากไปภูเขาวมาร? ไม่กลัวตายอยู่ในภูเขาวมาร หรือไง? ทำไมไม่อยู่เป็นเพื่อนพี่อ้ายหลินและเสี่ยวจิ้งอันดีๆ ซะ ถ้านายตายไป พวกเธอจะทำยังไง?”
“หม่าชาว นายทำให้ฉันผิดหวังมากๆ จริงๆ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...