The king of War นิยาย บท 1890

สรุปบท บทที่ 1890 เถ้าแก่ใจป้ำ: The king of War

สรุปเนื้อหา บทที่ 1890 เถ้าแก่ใจป้ำ – The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง

บท บทที่ 1890 เถ้าแก่ใจป้ำ ของ The king of War ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

เมื่อแน่ใจแล้ว ว่าศัตรูจะไม่อาศัยแพลตฟอร์มของสำนักเทพเหินมาลอบสังหารคนในครอบครัวและเพื่อนของเขาแล้วนั้น หัวใจที่เหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้ายของหยางเฉิน ในที่สุดก็ถูกวางลง

“การเดินทางต่อจากนี้ คุณต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการถูกลอบสังหารตลอดเวลา ”

ทันใดนั้นโชว์เฟอร์ก็พูดเตือนสติขึ้น และพูดต่อว่า “นักฆ่าที่ถูกคุณฆ่าตายเมื่อกี้ สามารถพูดได้ว่า เมื่อฆ่าคุณแล้ว เพียงครั้งเดียวก็จะได้ยาชั้นเลิศถึงห้าเม็ด นี่มันเป็นภารกิจระดับเอสอย่างเห็นได้ชัด และยังได้ผลตอบแทนเกือบห้าเท่าของระดับเอส”

แววตาของหยางเฉินมืดมนยิ่งขึ้น เขารู้ว่าโชว์เฟอร์นั้นพูดถูก ยาชั้นเลิศห้าเม็ด อย่าว่าแต่นักบูโดที่ต่ำว่าแดนนภาเลย ต่อให้เป็นนักบูโดแดนนภาเอง มันก็คงเป็นแรงจูงใจที่สูงมากแหละ?

ในภูเขาวมารไม่มีผู้แข็งแกร่งแดนนภา แต่ว่ามีแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดอยู่ ถ้าหากผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดลงมือสังหารเขา แล้วเขาจะรับมืออย่างไร?

ด้วยความสามารถของเขาในตอนนี้ ต่อให้สู้สุดฝีมือ เขามีพลังที่สามารถต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดเพียงศึกเดียว ถ้ามีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดแค่หนึ่งถึงสองคนยังพอไหว หากเจอกับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดหลายๆคนอย่างต่อเนื่องล่ะ?

เขายังจะรับมือไหวมั้ย?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ในหัวของเขา จู่ๆก็มีความคิดหนึ่งโผล่ขึ้นมา

เขาถามขึ้น “ถ้าหากว่า มีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดรับภารกิจลอบสังหารผม ตอนที่พวกเขามาลอบสังหารผอมนั้น ผมจะจ่ายค่าตอบแทนที่มากกว่า เพื่อให้พวกเขาละทิ้งภารกิจได้หรือไม่?”

โชว์เฟอร์ส่ายหัว “หากทำแบบนั้นได้ สำนักเทพเหินคงเจ๋งไปนานแล้ว ขอเพียงนักฆ่ารับภารกิจ เริ่มตั้งแต่ที่พวกเขารับภารกิจ ก็ต้อง นำMission Passของแพลตฟอร์มติดตัวไปทุกที่ Mission Passเป็นอุปกรณ์ที่สามารถตรวจจับสัญญาณชีพของนักฆ่าได้ตลอดเวลา และยังสามารถตรวจจับภาพหน้างานได้อีกด้วย”

“ภารกิจบนแพลตฟอร์ม เมื่อมีคนรับแล้ว คนที่เหลือก็ต้องรอจนกว่านักฆ่าที่รับงานเสียชีวิต ถึงจะรับภารกิจได้อีกครั้ง นั่นก็หมายความว่า ก่อนที่คุณจะฆ่านักฆ่าสี่คนนั้น คนอื่นจะไม่สามารถตรวจดูข้อมูลของแพลตฟอร์มได้เลย เพียงแต่รางวัลการลอบสังหารของคุณมันเยอะมาก ภารกิจนี้ได้รับสนใจไปนานแล้ว คุณเพิ่งจะฆ่านักฆ่าพวกนั้นไป ต้องมีคนมารับภารกิจต่ออย่างแน่นอน”

เมื่อฟังคำพูดของโชว์เฟอร์แล้ว หยางเฉินถึงได้โล่งอก

เมื่อเป็นเช่นนี้ ต่อให้มีคนให้ความสนใจภารกิจการลอบสังหารเขา แต่ก่อนที่จะแย่งภารกิจมาไม่ได้ พวกเขาก็จะไม่ลงมือสังหารเขาอย่างแน่นอน

เขาในตอนนี้ ก็เป็นเหมือนยาชั้นเลิศที่เคลื่อนที่ได้ห้าเม็ด มีเพียงแต่นักฆ่าที่รับภารกิจแล้ว ถึงจะมาฆ่าเขา คนอื่นต้องรอจนกว่าได้รับภารกิจมาแล้ว ถึงจะลงมือสังหารเขา หากนักฆ่าสังหารเขาโดยยังไม่ได้รับภารกิจจากแพลตฟอร์ม ก็เท่ากับว่านักฆ่าจะไม่ได้อะไรเลย

โชว์เฟอร์ตอนนี้เพิ่งจะตอบคำถามของหยางเฉิน “เพราะมีMission Pass ต่อให้คุณยอมให้มากสองเท่า ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่สามารถละทิ้งภารกิจของแพลตฟอร์มได้ นอกเสียว่า พวกเขาไม่คิดที่จะทำมาหากินในภูเขาวมารอีก ไม่เช่นนั้นไม่มีทางเพียงเพราะรางวัลที่เพิ่มขึ้น ก็จะทำลายกฎกติกาของสำนักเทพเหิน”

หยางเฉินพยักหน้า แล้วถามต่อ “ผมอยากสั่งการภารกิจระดับเอส แต่ว่าผมไม่ใช่สมาชิก มีวิธีการอะไรบ้าง ที่สามารถสั่งการภารกิจได้เร็วที่สุด?”

โชว์เฟอร์หัวเราะพร้อมกับส่ายหัว “กฎก็คือกฎ ถ้าคุณอยากจะสั่งการภารกิจระดับเอส ก็ต้องเป็นสมาชิกในระดับที่สอดคล้องกัน ไม่เช่นนั้นก็ต้องสำเร็จภารกิจระดับเอส หรือไม่ก็เริ่มจากการสั่งการภารกิจระดับเริ่มต้น สั่งภารกิจไปเรื่อยๆ จนถึงระดับเอส”

“นอกจากทำแบบนี้แล้ว ไม่มีวิธีอื่น เพียงแต่ ถ้าคุณต้องการสั่งการภารกิจระดับเอส ผมสามารถช่วยคุณได้”

หยางเฉินอึ้งไปชั่วขณะ “หืม?”

ทั้งๆที่เมื่อกี้โชว์เฟอร์เพิ่งพูดไปเอง ไม่มีวิธีอื่น แต่แล้วกลับบอกว่าสามารถช่วยเขาได้

อีกฝ่ายยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วพูดขึ้น “ในเมื่อคุณมีปัญญาให้ค่าตอบแทนที่สูงกว่าเพื่อให้นักฆ่าปล่อยคุณ งั้นคุณต้องเป็นคนที่ไม่ขาดแคลนทรัพยากรในการฝึกฝนพลังอย่างแน่นอน”

“แต่ตอนนี้ถ้าคุณต้องการสั่งภารกิจระดับเอส ก็ต้องเป็นสมาชิกระดับเอสก่อน การที่จะเป็นสมาชิกระดับเอสได้ มีเพียงสองวิธี หนึ่งคือสมัครสมาชิกระดับต้น แล้วทำภารกิจไปอย่างต่อเนื่อง สะสมจำนวนภารกิจจนเพียงพอแล้ว ก็จะได้เป็นสมาชิกระดับเอส อีกวิธีหนึ่งก็คือ สั่งจ่ายภารกิจอย่างต่อเนื่อง”

หลังจากที่หยางเฉินครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง จึงได้เอ่ยขึ้น “ห้าชิ้น!”

“ตกลง!”

สิ่งที่ทำให้หยางเฉินคิดไม่ถึงคือ เขาเพิ่งจะพูดคำว่าห้าชิ้น โชว์เฟอร์ก็ตอบตกลงในทันที

ใบหน้าของหยางเฉินเต็มไปด้วยความตะลึง จู่ๆก็รู้สึกเหมือนกำลังเสียเปรียบ ตัวเองนั้นโง่หรือเปล่า ถึงได้ตกลงให้ของพิเศษกับอีกฝ่ายถึงห้าชิ้น

โชว์เฟอร์หัวเราะแฮ่ๆ แล้วพูดกับหยางเฉิน “เถ้าแก่ใจป้ำมาก!”

หยางเฉินไม่ได้พูดพร่ำ ก็หยิบยาห้าเม็ดกับบัตรแบล็กโกลด์ระดับโลกหนึ่งใบออกมา พูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม “เงินสดกับของพิเศษล้วนอยู่ที่นี่ ตอนนี้สามารถทำให้ผมกลายเป็นสมาชิกระดับเอสแล้วใช่มั้ย?”

เมื่อเห็นหยางเฉินสามารถเอายาห้าเม็ดออกมาได้ในทันที โชว์เฟอร์ก็เหลือเชื่ออย่างมาก แต่ก็เก็บอาการในเวลาอันรวดเร็ว อยู่ภูเขาวมารมาตั้งนาน อะไรก็เคยเห็นมาบ้างแล้ว

หลังจากที่โชว์เฟอร์รับยาเม็ดกับบัตรแบล็กโกลด์มาแล้ว ก็หยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมา เริ่มจัดการเรื่องที่ให้หยางเฉินเข้าสู่การเป็นสมาชิก

ใช้เวลาไปไม่นาน โชว์เฟอร์ก็จัดการทุกอย่างเรียบร้อย และได้ยื่นบัตรคืนให้กับหยางเฉิน สำหรับยาห้าเม็ดนั้น ได้ถูกเขาเก็บเรียบร้อยแล้ว และพูดอย่างมีความสุข “เถ้าแก่ เรียบร้อยแล้ว หมายเลขบัตรประชาชนของคุณก็คือรหัสล็อกอิน คุณสามารถดาวน์โหลดแอพของสำนักเทพเหิน แล้วก็ล็อกอินได้เลย รหัสผ่านมีเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือใบหน้าของคุณ”

“บัตรแบล็กโกลด์นี้คืนให้คุณ สำหรับยาห้าเม็ดนี้ ผมก็จะเก็บเอาไว้ เถ้าแก่ใจป้ำมาก ขอบคุณมากครับ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War