The king of War นิยาย บท 1896

สรุปบท บทที่ 1896 แล้วเจ้าจะต้องเสียใจ: The king of War

สรุปตอน บทที่ 1896 แล้วเจ้าจะต้องเสียใจ – จากเรื่อง The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง

ตอน บทที่ 1896 แล้วเจ้าจะต้องเสียใจ ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง The king of War โดยนักเขียน เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

หลังจากหยางเฉินก้าวเข้าไปในสำนักบู๊ ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร ลึก ๆ ก็คอยสัมผัสดูพลังฝีมือผู้แข็งแกร่งในสำนักบู๊ ทำให้พบกับความน่าสะทกสะท้านมาก ที่นี่ ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์มีให้เห็นได้ทั่วไป

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีผู้แข็งแกร่งหลายนายที่มีพลังบางกระแสที่น่าสะพรึงกลัวมาก แม้ตัวเขาเองก็ไม่สามารถบ่งบอกถึงพลังฝีมือที่แท้จริงนั้นได้

“ท่านเจ้าสำนัก คุณหยางมาถึงแล้ว!”

ในไม่ช้านั้น ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้นที่นำพาหยางเฉิน ก็ได้พาหยางเฉินมาถึงอาคารรูปแบบโบราณนั้น ยืนรายงานเข้าไปจากหน้าประตู

ภายในห้องแว่วเสียงคนวัยชราดังออกมา “เชิญคุณหยางเข้ามาสิ!”

“คุณหยาง เชิญ!”

ผู้นำพา ค่อย ๆ ผลักประตูห้องเปิดออก ผายมือในท่าเชื้อเชิญหยางเฉินอย่างนอบน้อม

รอจนหยางเฉินก้าวเข้าในห้องไปเรียบร้อยแล้ว ผู้นำพาจึงค่อย ๆ ปิดประตูอย่างเรียบร้อย แล้วค่อยเดินกลับออกไป

ภายในห้อง มีตู้ป๋อนั่งอยู่กับเก้าอี้หวาย ข้างตัวของเขา ยังมีชายวัยกลางคนอายุในราวห้าสิบบวกลบยืนอยู่อีกคน

ตั้งแต่นาทีแรกที่หยางเฉินก้าวเข้ามาในห้อง ตู้ป๋อกับตู้หมิงเหวี่ยนก็จ้องอยู่ที่หยางเฉิน แววตาของตู้หมิงเหวี่ยนยังดูออกท่าทีเย่อหยิ่งอยู่ การที่มีตู้จ้งให้ความสำคัญกับหยางเฉินมาก เขามีความรู้สึกยอมรับไม่ได้

คิดอยู่ถ้ามีโอกาส เขาใคร่จะต่อสู้กับหยางเฉินสักตั้ง ให้เห็นแพ้ชนะกัน

หยางเฉินมองไปที่ตู้ป๋อ ถามด้วยสีหน้าสงบเรียบ “แล้วตู้จ้งหละ?”

จากที่สัมผัสได้ในตัวของตู้ป๋อ หยางเฉินได้รับถึงแรงกดดันที่แข็งแกร่งมาก ความกดดันที่แข็งแกร่งอย่างมากนี้ แข็งแกร่งยิ่งกว่าที่หยางเฉินเคยรับมาจากเจ้าเมืองหวยเฉิงไม่ใช่น้อย

เจ้าเมืองหวยเฉิงเป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด แต่พลังกดดันที่แผ่กระจายออกมาจากผู้เฒ่าที่เผชิญหน้าด้วยอยู่นี้ จะหนักหน่วงยิ่งกว่าที่ได้รับจากเจ้าเมืองหวยเฉิงอีก นี่ก็พูดได้ว่า พลังฝีมือของผู้เฒ่าที่อยู่ข้างหน้านี้ ยังเหนือขึ้นไปกว่าเจ้าเมืองหวยเฉิงอีก

หยางเฉินรู้อยู่ สำนักบู๊ไม่ใช่กลุ่มอิทธิพลนักบู๊โบราณ หรือพูดได้ว่า ผู้แข็งแกร่งที่มีพลังฝีมือที่เก่งกาจที่สุดของสำนักบู๊ ระดับขั้นบูโดจะไปไม่ถึงแดนนภา ฉะนั้นพลังฝีมือของผู้เฒ่าที่อยู่ข้างหน้าท่านนี้ ดูแล้วสูงกว่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดขึ้นไปอีก ก็คือต้องบอกว่า ผู้เฒ่าท่านนี้อยู่ระดับขั้นระหว่างแดนนภาขั้นต้นกับแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย พูดง่าย ๆ คือ กึ่งแดนนภาขั้นหนึ่ง

ส่วนชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างตัวผู้เฒ่านั้น เวลามองไปที่หยางเฉิง บนใบหน้า จะเห็นถึงความก้าวร้าวรุนแรง ในแดนบูโดมีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดแบบนี้ด้วย

ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดที่อายุน้อยขนาดนี้ หยางเฉินก็เพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก

ตู้ป๋อใช้สีหน้าที่ราบเรียบพูดไปว่า “วางใจเถอะ ตู้จ้งอยู่ที่สำนักบู๊นี่สุขสบายเป็นอย่างดี”

คิ้วของหยางเฉินย่นเข้าเล็กน้อย เขาทำไมรู้สึกเหมือนว่า การที่สำนักบู๊ควบคุมตัวตู้จ้งไว้ที่นี่ สาเหตุนั้นมาจากตัวเขา?

ตู้ป๋อพูดขึ้นมาในตอนนี้ว่า “เจ้ารู้ไหม เพราะตู้จ้งตั้งใจหายาเม็ดที่เรียกว่ายาคืนชีพให้เจ้า ถึงขนาดยอมทิ้งพลังฝีมือที่ฝึกมาทั้งชีวิต?”

“คุณพูดยังไงนะ?”

สีหน้าหยางเฉินเปลี่ยนไปในทันที พูดอย่างเกรี้ยวกราด “ตู้จ้งอยู่ที่ไหนกันแน่?พวกคุณไปทำอะไรกับเขา?”

เขาจู่ ๆ ก็เกิดสังหรณ์ใจในสิ่งที่เลวร้ายที่สุดขึ้นมา หรือจะว่า พลังฝีมือที่ตู้จ้งฝึกมา ถูกทำลายไปหมดสิ้น?

ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เขาจะไม่ปล่อยสำนักบู๊นี้เด็ดขาด

“บังอาจ!”

ตู้หมิงเหวี่ยนตวาดขึ้นมาด้วยความโมโห พูดไปด้วยความโกรธว่า “อย่าลืมถึงผลสุดท้ายที่เจ้ามาที่สำนักบู๊นี่ ในที่นี้ พวกเราจะให้เจ้ามีชีวิตอยู่ เจ้าก็มีชีวิตอยู่ได้ พวกเราจะให้เจ้าตาย เจ้าก็ต้องตาย!”

“ถ้ากล้าดีมาพูดกับพ่อข้าอย่างไร้มารยาทอีก ก็อย่าหาว่าพวกเราไม่มีมารยาทกับแกแล้ว!”

นัยน์ตาของหยางเฉินฉายประกายฆ่าออกไปทั้งสองข้าง หยีตามองไปที่ตู้หมิงเหวี่ยน แล้วกลับมองไปที่ตู้ป๋อ พูดเสียงหนาวเยือก “แล้วจะเอายังไง คุณถึงจะปล่อยตัวตู้จ้ง?”

เขาถึงแม้ใจคิดอยากจะลงมือในทันที แต่ก็รู้จักการชั่งตวงวัดดี ตัวตู้ป๋อนั้นยังไม่ทันได้ปล่อยกระแสพลังบูโดของตัวเขาเองเลย ก็ยังทำให้เกิดกระแสกดดันอย่างรุนแรงต่อหยางเฉิน

ถ้ามีการปะทะกัน หยางเฉินในมือของตู้ป๋อ ไม่มีเรื่องที่จะชนะได้แม้แต่น้อย

อีกอย่าง เขาเพิ่งต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดมาก่อนหน้านี้ไม่นาน ถึงแม้ในระหว่างทางที่มาสำนักบู๊ ก็ได้มีการฝึกฝนจนฟื้นฟูได้ถึงกว่าครึ่ง แต่ก็ยังอยู่ในสภาพบาดเจ็บ

หยางเฉินมองหน้าตู้หมิงเหวี่ยนด้วยสายตาชืด ๆ “รับมือกับคุณ พลังที่มีของข้าในขณะนี้เกินพอ!”

“แกมันรนหาที่ตาย!”

ตู้หมิงเหวี่ยนโกรธระเบิดขึ้นมาในทันที กลั้นอารมณ์โกรธไว้แล้วพูดว่า “แกมันอยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง ข้าก็จะกักพลังของข้าให้อยู่ที่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง ข้าอยากจะรู้นัก แกมันจะเก่งกาจไปสักแค่ไหน”

ตู้ป๋อก็ไม่ได้ห้ามปราม

หยางเฉินแค่นหัวเราะ “เดี๋ยวเจ้าจะเสียใจ!”

หลังจากได้กินยาเม็ดที่ตู้ป๋อให้มาแล้ว หยางเฉินให้รู้สึกได้เลยว่าการบาดเจ็บของตัวเองบรรเทาลงได้ดีมาก พูดได้ว่า หลังจากกินยาเม็ดนี้แล้ว ส่วนที่บาดเจ็บได้หายแวบไป

ให้ถึงแม้เขาจะไม่สามารถสำแดงพลังฝีมือได้ถึงเต็มร้อย อย่างน้อยก็ต้องได้สักร้อยเอาแปดสิบขึ้นไป

อย่างน้อยการปะทะกับผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย จะมีความมั่นใจชนะได้อยู่มาก

ตู้หมิงเหวี่ยนถึงขนาดบอกว่าจะบังคับพลังตัวเองให้อยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง นั่นมันหาเรื่องเจ็บตัวให้ตัวเองเสียแล้ว

“หยุดพล่ามไร้สาระได้แล้ว ลงมือเถอะ!”

ตู้หมิงเหวี่ยนตวาดเสียงลั่น ตามด้วยเสียง “ปัง” ขอของเขาขยับ พลันก็พุ่งเข้าใส่หยางเฉิน

หยางเฉินรู้สึกได้เลยว่า ตู้หมิงเหวี่ยนคงใช้พลังที่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางจริง ๆ

เขายังคงยืนอยู่กับที่ ดูไม่ใส่ใจกับการจู่โจมของฝ่ายตรงข้ามเอาเสียเลย

ตู้หมิงเหวี่ยนเห็นดังนั้น พลันไฟโกรธยิ่งลุกแรง พูดอย่างเกรี้ยวกราดไปว่า “แกมันรนหาที่ตาย!”

ตามมาหลังจากคำพูดจบลง เขาก็ระเบิดเอาพลังแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางออกมาถล่มใส่ไปทั้งหมด พุ่งหมัดใส่ไปที่หยางเฉินอย่างสุดโหด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War