ผู้หญิงคนนี้เหยียดหยามฉินซีครั้งแล้วครั้งเล่า หยางเฉินเกิดแรงอาฆาตแค้นมาตั้งนานแล้ว
บนโลกใบนี้ ฉินซีและเสี้ยวเสี้ยวคือคนที่สำคัญที่สุดของเขา
สำหรับเฝิงเจียผู้หญิงประเภทนี้ ถ้าอดกลั้นมาโดยตลอด หล่อนคงจะได้คืบจะเอาศอก แม้กระทั่งทำเรื่องที่ยิ่งเกินกว่าเหตุออกมาอีก
หยางเฉินตบหน้าลงไปทีหนึ่ง ทุกคนต่างตกใจค้างแล้ว
ถึงแม้ในใจฉินซีจะรู้สึกตื้นตัน แต่กลับเป็นกังวลอย่างมาก โดยเฉพาะหยางเฉินลงมือตบเฝิงเจียไปแล้ว ถ้าเรื่องราวปลายบาน งั้นคงไม่ดีแน่
“แก แกกล้าตบฉัน!”
เฝิงเจียถลึงดวงตาโต ในลูกตาเต็มไปด้วยความโกรธเคือง
หยางเฉินรู้ว่าฉินซีกังวล จึงไม่ได้ถือสาหาความกับเฝิงเจียต่อ หยิบบัตรธนาคารใบหนึ่งออกมายื่นให้พนักงานที่รับผิดชอบบริการพวกเขาคนนั้น “เสื้อโค้ตตัวนั้น พวกเราซื้อแล้วกัน!”
เดิมทีฉินซีคิดจะซื้อให้หยางเฉิน แต่ก่อนหน้านี้เธอไม่รู้ว่าเสื้อโค้ตกันลมตัวนี้แพงขนาดนี้ ที่ตัวเธอรวบรวมขึ้นมาทั้งหมดก็ซื้อเสื้อโค้ตกันลมตัวนั้นไม่ไหว จึงได้แต่ให้หยางเฉินจ่ายเงิน
ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้จัดการใหญ่ของซานเหอกรุ๊ป แต่ขึ้นมารับตำแหน่งได้ไม่ทันไร และพูดถึงเมื่อก่อน เงินเดือนของเธอส่วนมากถูกโจวยู่ชุ่ยรีดไถไปเกลี้ยง เดิมทีจึงมีเงินเก็บไม่มากนัก
ตอนที่ผู้จัดการร้านมองเห็นหยางเฉินหยิบบัตรทองดำใบหนึ่งออกมา หน้าตาตื่นตกใจเต็มที่
เขาในฐานะผู้จัดการร้านของแบรนด์Versaceที่Wanda สายตาแหลมคมจุดนี้ยังพอใช้ได้ ชายหนุ่มที่สามารถหยิบบัตรทองดำออกมาได้ เป็นไปได้หรือที่จะเหมือนเฝิงเจียบอกว่าไร้ความสามารถ?
“คุณผู้ชายครับ นี่คือบัตรสมาชิกทั่วโลกระดับสูงสุดของแบรนด์Versaceของพวกเรา ใช้บัตรสมาชิกใบนี้ซื้อสินค้าใดของแบรนด์Versace ลดได้สิบเปอร์เซ็นต์ครับ”
ทันใดนั้นผู้จัดการร้านหยิบบัตรสมาชิกสีทองอร่ามใบหนึ่งออกมา ยื่นให้หยางเฉินด้วยสองมืออย่างเคารพนอบน้อม
และไม่ใช่เพราะหยางเฉินซื้อเสื้อโค้ตที่ราคาเกือบสี่แสนตัวหนึ่ง แต่เป็นเพราะบัตรทองดำใบนั้นในมือของหยางเฉิน
หยางเฉินหัวเราะเล็กน้อย เก็บบัตรสมาชิกเอาไว้แล้ว “ขอบคุณครับ!”
“เชอะ!”
ในเวลานี้ เฉาเจี้ยนหัวเราะเยาะขึ้นทันที “หยิบบัตรใบหนึ่งออกมา คิดว่าแกจ่ายเสื้อเกือบสี่แสนได้จริงเหรอ?”
เขาไม่ได้มีตาแหลมคมขนาดนั้นเหมือนกับผู้จัดการร้าน อย่าพูดถึงเคยเห็นเลย แม้แต่ได้ยินยังไม่เคยได้ยินบัตรทองดำเลย ดังนั้นตอนมองเห็นหยางเฉินหยิบบัตรทองดำออกมา จึงคิดเอาเองว่าเดิมทีนั่นไม่ใช่บัตรธนาคาร
“ถ้าฉันเดาไม่ผิด เดี๋ยวรอตอนที่มาเตือนนายว่าวงเงินไม่พอ นายต้องพูดว่าขอโทษด้วยครับ ผมลืมบัตรเอาไว้ในบ้าน ครั้งหน้าค่อยมาซื้อ”
“หรือไม่ก็บอกว่าขอโทษจริงๆ ครับ ผมนึกขึ้นมาได้กะทันหัน เสื้อโค้ตตัวนี้ไม่ใช่แบบที่ผมชอบ พวกเราไปดูร้านอื่นดีกว่า”
“ฉันพูดไม่ผิดสินะ?”
เฉาเจี้ยนทำหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง เหมือนมองหยางเฉินทะลุปรุโปร่ง
ในใจเขาหงุดหงิดอย่างยิ่ง หยางเฉินมาเปิดโปงความจริงที่ทั้งตัวของเขาใส่เป็นของลอกเลียนแบบ แม้กระทั่งยังตบหน้าคู่หมั้นของเขาต่อหน้าสาธารณชนด้วย
ทุกอย่างนี้ เขาอยากให้หยางเฉินชดใช้คืนเป็นสองเท่า
เพียงแต่เดิมทีหยางเฉินไม่สนใจเขา ส่วนพนักงานในร้านเหมือนกำลังมองคนโง่อยู่ มองเขานิ่งๆ แวบหนึ่ง
เฉาเจี้ยนเพิ่งพูดจบ พนักงานขายที่รับผิดชอบบริการหยางเฉินและฉินซีเมื่อสักครู่นี้ก็ถือเสื้อโค้ตกันลมที่ห่อเรียบร้อยเดินเข้ามาแล้ว ยิ้มด้วยท่าทางเป็นมืออาชีพ มือทั้งคู่นำถุงใส่ของและบัตรทองดำยื่นให้หยางเฉิน
“คุณผู้ชายคะ จ่ายเงินสำเร็จแล้วค่ะ ภรรยาของคุณทั้งสวยทั้งสายตาเฉียบแหลม เสื้อโค้ตตัวนี้เหมาะสมกับคุณมากค่ะ เชื่อว่าคุณใส่ขึ้นมา ต้องหล่อมากแน่นอนค่ะ”
พนักงานขายพูดเป็นมาก หยางเฉินและฉินซีฟังขึ้นมา ในใจเบิกบานอย่างมาก
“นี่เป็นไปไม่ได้!”
ในเวลานี้เอง เฉาเจี้ยนร้องตะโกนด้วยหน้าตาโกรธเคือง “เขาเป็นแค่ลูกเขยสวะของตระกูลรั้งท้ายคนหนึ่ง จะซื้อเสื้อโค้ตราคาเกือบสี่แสนได้อย่างไรกัน?”
“ต้องเป็นนายแน่ พวกนายรู้จักกันมาก่อน เป็นพวกนายรวมหัวกันเอาไว้ จงใจแสดงละครต่อหน้าพวกฉัน ความจริงเดิมทีเขาไม่ได้จ่ายสักแดงเดียว ใช่หรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...