หยางเฉินไม่ได้พูดอะไร เดิมทีออกมาเดินเล่นกับฉินซี อย่างไรเสียก็มีเวลาอยู่แล้ว
ผู้ที่มุงดูก่อนหน้านี้ ไม่มีคนใดออกไป ล้วนอยากดูหน่อยว่าจะมีบทสรุปอย่างไรกันแน่
ผู้จัดการร้านมองหยางเฉินอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง ตั้งแต่หยางเฉินหยิบบัตรทองดำออกมา พออธิบายได้แล้วว่าสถานะของเขาสูงมาก
เขาย่อมเชื่อเป็นธรรมดา หยางเฉินคงรู้จักผู้นำตระกูลกวนหนึ่งในสี่พรรคแห่งเมืองเจียงโจวจริง
“ฉินซี นึกไม่ถึงว่าเธอจะแต่งงานกันคนโง่ขนาดนี้ การแสดงยังดีจริงๆ พูดเหมือนว่าเขารู้จักกับเจ้าบ้านกวนจริงๆ” เฝิงเจียหัวเราะเยาะ
ฉินซีเพียงแค่มองเฝิงเจียแบบเย็นชาแวบหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้น เธอเชื่อแน่นอนว่าหยางเฉินรู้จักกับกวนเจิ้งซาน
เพียงแต่เธอสงสัยอยู่บ้าง หยางเฉินไปรู้จักกับกวนเจิ้งซานได้อย่างไรกัน
“ไอ้หนุ่ม นายอย่าแสดงเลย ฉันไม่มีเวลามาสิ้นเปลืองกับนายที่นี่อีกต่อไปแล้ว นายรีบคุกเข่าลงขอโทษคู่หมั้นของฉันซะ ไม่อย่างนั้นฉันจะไปหาคนตระกูลกวนให้จัดการตระกูลฉินในตอนนี้ ผ่านคืนนี้ไป เมืองเจียงโจวจะไม่มีตระกูลฉินอีก!”
เฉาเจี้ยนเอ่ยปากพูดกะทันหัน เวลานี้เขากลับมีท่าทางไม่กลัวเนื่องจากมีคนหนุนหลัง
โดยเฉพาะเห็นคนโดยรอบ ในสายตาเป็นลักษณะตื่นตกใจ เขายิ่งดื่มด่ำความรู้สึกสุขสมที่แกล้งแสดงแบบนี้มาก
แต่ในเวลานี้เอง เสียงที่เย็นชาไร้ที่เปรียบดังขึ้นฉับพลัน “ใจกล้าหน้าด้านมากนะ นึกไม่ถึงจะกล้าเอาชื่อตระกูลกวนของฉันมาข่มขู่คุณหยาง!”
ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้เข้า เฉาเจี้ยนรู้สึกขนตั้งชันขึ้นมาไปทั้งตัว
เพราะเขารู้ว่าคนที่พูดนี่คือใคร
เสียงนี้เขาคุ้นเคยมาก คือกวนเสว่ซงหนึ่งในสี่คุณชายแห่งเมืองเจียงโจว คุณชายรุ่นที่สามของตระกูลกวนที่โดดเด่นที่สุด
ตำแหน่งของกวนเสว่ซงที่ตระกูลกวน ยังสูงกว่าคุณลุงคุณอาของเขาด้วย ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้สืบทอดผู้นำตระกูลข้ามรุ่น
นั่นคือขอเพียงกวนเจิ้งซานลงจากตำแหน่ง อย่างนั้นก็มีเพียงกวนเสว่ซงที่อายุสามสิบปี ถึงสามารถสืบทอดผู้นำตระกูลกวนได้
ก่อนหน้านี้ไม่นานนัก ตระกูลกวนเพิ่งแต่งตั้งให้กวนเสว่ซงเป็นผู้จัดการใหญ่ของกวนเจิ้งกรุ๊ป
“คุณชายซง ท่าน ท่านมาได้อย่างไรครับ?”
เฉาเจี้ยนมองเห็นกวนเสว่ซง ตกใจจนพูดติดๆ ขัดๆ รีบเข้ามาทันที
กวนเสว่ซงมองเขาด้วยหน้าตานิ่งเฉยแวบหนึ่ง ตวาดใส่ “ไสหัวไป!”
อยู่ภายในสายตาของทุกคน เขาเดินมาด้านหน้าหยางเฉินโดยตรง โค้งตัวเล็กน้อยแล้วบอกว่า “คุณหยางครับ ขอโทษจริงๆ ครับ ทำให้ท่านรอนานแล้ว!”
สำหรับการปรากฏตัวของกวนเสว่ซง หยางเฉินแปลกใจอยู่บ้าง เพราะเขาเพิ่งโทรศัพท์ไปหากวนเจิ้งซานเมื่อสักครู่ ยังไม่ทันได้รับการตอบกลับ กวนเสว่ซงก็มาแล้ว
“ผมมาตรวจงานที่Wandaพอดีครับ พอได้รับโทรศัพท์ของคุณปู่ เลยไม่กล้าชักช้าครับ”
กวนเสว่ซงอธิบายสักหน่อย จากนั้นมองเฉาเจี้ยนด้วยสายตาเย็นชาแวบหนึ่ง บอกกับหยางเฉินว่า “พ่อของเขาเป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมฝ่ายโครงการของกวนเจิ้งกรุ๊ปครับ ส่วนเขาไม่เกี่ยวข้องกับกวนเจิ้งกรุ๊ปสักนิดเดียวครับ”
หยางเฉินเพียงแค่พยักหน้านิ่งๆ เอ่ยปากบอก “ในเมื่อนายมาแล้ว งั้นเรื่องที่เหลือให้นายจัดการแล้วกัน!”
“ครับ คุณหยาง เดินทางปลอดภัยครับ!”
ท่าทีกวนเสว่ซงเคารพนอบน้อมมาก มองตามหยางเฉินที่จูงมือฉินซีเดินออกไป
คนที่มุงดูอยู่โดยรอบเหล่านั้น ตกใจค้างไปตั้งแต่แรกแล้ว
ไม่นานพวกเขาจึงได้รู้สถานะของกวนเสว่ซง เขาเป็นผู้สืบทอดในอนาคตของตระกูลชั้นนำแห่งเมืองเจียงโจว สิ่งสำคัญคือเขายังอายุน้อยขนาดนี้
แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นหลัก ประเด็นสำคัญคือสำหรับผู้ชายเมื่อสักครู่นี้ที่อายุน้อยยิ่งกว่าคนนั้น เขากลับเคารพนอบน้อมเช่นนี้
เฉาเจี้ยนตกใจค้างเช่นกัน หน้าตาเต็มไปด้วยความตกใจกลัว
จนกระทั่งเวลานี้ เขาถึงสำนึกได้ว่าตนเองล่วงเกินบุคคลแบบไหนเข้าให้แล้ว
ชายหนุ่มที่แม้แต่กวนเสว่ซงยังเคารพเช่นนี้ จะเป็นคนที่เขาสามารถล่วงเกินได้เหรอ?
“แจ้งฝ่ายทรัพยากรบุคคล รีบร่างหนังสือเลิกจ้างของเฉาเจี้ยนทันที!”
ในเวลานี้ เฉาเจี้ยนได้ยินเสียงของกวนเสว่ซงทันใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...