The king of War นิยาย บท 1921

สรุปบท บทที่ 1921 ของอาถรรพ์ออกจากฝัก: The king of War

ตอน บทที่ 1921 ของอาถรรพ์ออกจากฝัก จาก The king of War – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1921 ของอาถรรพ์ออกจากฝัก คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต The king of War ที่เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

สำนักมารลานประลอง

ในตอนนี้ ที่ลานประลองได้มีผู้แข็งแกร่งแดนต่างๆ ของสำนักมารล้อมรอบเต็มไปหมด

ในนั้น ยังมีผู้แข็งแกร่งอายุยี่สิบสามสิบปีอยู่มาก

“พ่อครับ ผมได้ยินว่าคนที่ท้าทายเนี่ยชิวเป็นชายหนุ่มที่อายุแค่ยี่สิบแปดใช่มั้ยครับ?” 

ในกลุ่มคน นักสู้อายุน้อยที่อายุราวยี่สิบต้นๆ ได้ถามชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ

ชายวัยกลางคนพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมว่า “เป็นนักสู้อายุน้อยแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลางคนหนึ่งได้ยินว่าฝีมือในการต่อสู้เทียบเท่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดยอดเลย” 

“เป็นไปได้ยังไงครับ?” 

นักสู้อายุน้อยทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ ยิ้มเยาะแล้วพูดออกมาว่า “มันไม่เวอร์ไปหน่อยเหรอครับ? คนที่อายุยังไม่ถึงสามสิบ ต่อให้แข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่มีทางบรรลุถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าหรอกมั้ง?” 

“ยิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายยังเป็นนักสู้ที่บรรลุถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง แถมยังมีฝีมือเทียบเท่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดยอดเนี่ยนะ?” 

ชายวัยกลางคนยิ้มแล้วส่ายหน้า “ความจริง ฉันเองก็ไม่เชื่อ แม้แต่ในโลกบู๊โบราณ ก็คงไม่มีผู้มีพรสวรรค์แบบนี้หรอกมั้ง?” 

บทสนทนาประมาณนี้ยังมีอีกมาก นอกจากพวกระดับสูงของ สำนักมารที่พอรู้อะไรมาบ้าง คนอื่นๆ ก็ไม่รู้ความจริงอะไรเกี่ยวกับหยางเฉินเลย

ทันใดนั้นเอง เนี่ยชิวก็ได้ปรากฏตัวขึ้นกลางลานประลอง รังสีวิถีบู๊อันแข็งแกร่งเอ่อล้นออกมาจากตัวเขา พริบตาเดียวก็พุ่งไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขันเก้าชั้นสุดยอดแล้ว

“ซี๊ด!” 

มีคนไม่น้อยสูดลมเย็นเข้าปอด โดยเฉพาะผู้แข็งแกร่งระดับสูงของสำนักมารพวกนั้น ต่างจ้องมองเนี่ยชิวด้วยสีหน้าที่ตกใจ

“ฝีมือของเนี่ยชิว น่าจะไปถึง กึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นแล้ว!” 

“ลำพังแค่รังสีวิถีบู๊ที่เขาปลดปล่อยออกมา ก็ยืนยันได้แล้วว่า วิถีบู๊ของเขา เข้าใกล้แดนนภาขันหนึ่งมากแล้ว มีโอกาสก้าวสู่แดนนภาได้ทุกเมื่อ!” 

“นักสู้ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ กลับรับคำท้าของนักสู้ที่อายุยังไม่ถึงสามสิบ? นี่ต้องบอกว่าเนี่ยชิวหน้าไม่อาย? หรือบอกว่าหยางเฉินไม่เจียมตัวดี?” 

“ไม่ว่ายังไง อีกเดี๋ยวการประลองก็จะเริ่มแล้ว พวกเราแค่รอดูก็พอ ฉันเองก็ชักสนใจแล้วว่าพ่อหนุ่มนั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหน” 

……

ผู้แข็งแกร่งของสำนักมารต่างพากันซุบซิบ หยางคนต่างทำหน้าอยากรู้อยากเห็น

สรุปคือ แทบไม่มีคนเชื่อว่าหยางเฉินจะมีดีพอที่จะท้าทายเนี่ยชิว

และในตอนนั้นเอง ลี่เฉินก็พาหยางเฉินกับหม่าชาวออกมาที่ลานประลอง

“ทำไมถึงมาชายหนุ่มสองคน? คนไหนที่เป็นหยางเฉิน?” 

“ฉันว่านะ ไอ้กล้ามโตที่อยู่ทางขวาท่านประมุขนั่นแหละ ร่างกายของเขากำยำมาก ฝีมือต้องไม่ธรรมดาแน่นอน” 

“คนที่อยู่ทางซ้ายดูเป็นคนเจ้าสำอาง ต้องเป็นพวกไม่เอาไหนแน่ แดนวิถีบู๊ของเขาอยู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่งก็ปาฏิหาริย์แล้วนักกล้ามที่อยู่ทางขวายังดูเป็นผู้แข็งแกร่งมากกว่าเลย” 

“ฉันพนันยาเม็ดหนึ่งว่านักกล้ามที่อยู่ทางขวาของประมุขคือหยางเฉิน” 

……

เหล่านักสู้รุ่นเยาว์ของสำนักมารต่างพากันเปิดปาก ทุกคนต่างคิดว่าชายหนุ่มที่อยู่ทางขวาของลี่เฉินคือหยางเฉินที่จะมาท้าทายเนี่ยชิว

แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตกใจคือ ชายหนุ่มร่างกายสมส่วนที่อยู่ทางซ้ายของลี่เฉินได้เดินขึ้นลานประลอง

สองตาของหยางเฉินจับจ้องไปที่อีกฝ่าย ไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว เขารู้ดีว่าต่อให้ปลุกสายเลือดคลั่งขึ้นมาแล้ว ถ้าคิดจะเอาชนะเนี่ยชิว มันไม่มีหวังอะไรเลย

ถ้าคิดจะเอาชนะเนี่ยชิว มีเพียงทางเดียว นั่นก็คือใช้มีดโลหิต

มีดโลหิตเป็นมีดอาถรรพ์ ฝีมือของเขาตอนนี้ บวกกับมีดโลหิตอีกเล่ม พลังในการต่อสู้ก็จะเข้าใกล้ กึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น

พอคิดได้อย่างนั้น เขาก็ไม่ลังเลอะไรอีกต่อไป แล้วชักมีดโลหิตออกจากฝักสีทองที่อยู่ตรงเอว

“ตัง!” 

มีดโลหิตออกจากฝัก เกิดเสียงกระทบกันของโลหะดังขึ้น

ทันใดนั้น ทั่วลานประลอง ได้ถูกแรงกดดันอันแข็งแกร่งเข้าปกคลุม

“ของอาถรรพ์!” 

เนี่ยชิวขมวดคิ้ว หยางเฉินได้ปลดปล่อยรังสีวิถีบู๊ของแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดยอดออกมาแล้ว ตอนนี้เอาของอาถรรพ์ออกมา อาจจะมีฝีมือมากพอที่จะสู้กับเขาแล้วก็ได้

ตามคาด หลังจากที่เอามีดโลหิตออกมา รังสีวิถีบู๊ในตัวหยางเฉินได้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง ใกล้ แดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นเข้าไปทุกที

ตอนนี้ผู้แข็งแกร่งของสำนักมารต่างพากันทำหน้าตกใจอย่างถึงที่สุด การที่หยางเฉินอยู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นกลาง มันก็ทำให้พวกเขารู้สึกตกใจแล้ว สามารถปลดปล่อยรังสีวิถีบู๊ของแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นสุดยอดก็ทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนอยู่ในฝัน

ตอนนี้ อาศัยของอาถรรพ์ชิ้นหนึ่ง รังสีวิถีบู๊ยังเพิ่มขึ้นได้อีก แบบนี้รองจากแดนนภา ยังจะมีใครเอาชนะเขาได้อีก?

ถ้าเขาเป็นชายวัยกลางคนอายุครึ่งร้อยยังพอว่า แต่เขาดันอายุแค่ยี่สิบแปดนี่สิ

นักสู้รุ่นเยาว์ที่อายุยี่สิบต้นๆ คนหนึ่ง จ้องมองหยางเฉินด้วยความช็อก แล้วพูดพึมพำว่า “เขาคงไม่ใช่เฒ่าปีศาจคนหนึ่งที่ใส่หน้ากากของชายหนุ่มไว้หรอกนะ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War