The king of War นิยาย บท 1930

ทั่วทั้งสำนักมาร ถูกสะกดด้วยเขตแดนวิถีมารที่น่าสะพรึงกลัวนี้ นักบูโดสำนักมาร ภายใต้เขตแดนวิถีมารที่แข็งกล้านี้ ถึงกับผวาจนอยากจะลงกลิ้งไปกับพื้น

อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงสีหน้าหมองเครียดลงไปสุด ๆ เขารู้อยู่แก่ใจว่าผู้แข็งแกร่งในสำนักมารมีเป็นจำนวนมาก เช่นอย่างมารแดงซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ยอดขุนพลมารที่อยู่ข้างหน้านี้ พลังฝีมือก็ไปถึงกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นแล้ว หากตัวเขาเองไม่ได้อยู่ในแดนนี้ก่อนมาหลายปี เห็นทีจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมารแดงเป็นแน่

เวลานี้ ในสำนักมารยังปรากฏมีผู้แข็งแกร่งที่สามารถแผ่กระจายเขตแดนวิถีมารได้

สำหรับนักบูโดที่สามารถแผ่เขตแดนวิถีมารออกมาได้ เห็นว่ามีแต่ผู้แข็งแกร่งที่ได้ฝึกพลังวิชาสายมารมาจึงจะแผ่กระจายออกมาได้

นี่ไม่ใช่หมายความว่า ผู้แข็งแกร่งที่แผ่กระจายกระแสพลังเขตแดนวิถีมารในขณะนี้ ได้ก้าวขึ้นไปถึงแดนนภาแล้วหรือ?

“ไม่ใช่ละ!”

มารแดงเอ่ยปากขึ้นมาในทันใดนั้น ขมวดคิ้วย่นขึ้นมา พูดเสียงทุ้มหนัก “เขตแดนวิถีมารนี้ไม่ใช่แผ่ออกมาจากผู้แข็งแกร่งแดนนภา กระแสเขตแดนวิถีมารนี้เห็นชัดได้ว่าอ่อนกว่าที่แผ่จากผู้แข็งแกร่งแดนนภาอยู่หลายเท่า”

ดูว่าใช่จะเป็นเขตแดนวิถีมารจริง แต่ที่ให้ความรู้สึกนั้นไม่เหมือนกัน

มารแดงก็เป็นผู้แข็งแกร่งที่ก้าวเข้าเขตแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นไปแล้ว เขาย่อมต้องรู้ชัดเจนว่าพลังเขตแดนวิถีมารที่นักบูโดแดนนภาสายมารแผ่กระจายออกมานั้นแข็งแกร่งขนาดไหน

“บรึม!”

ในขณะนั้นเอง นักบูโดที่เพิ่งเข้าถึงแดนเหนือมนุษย์คนหนึ่ง พลังปราณบูโดในตัวจู่ ๆ ก็ระเบิดขึ้น จากแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่งชั้นต้น พุ่งทะยานขึ้นไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่งชั้นกลาง แล้วต่อไปถึงชั้นปลายอย่างรวดเร็ว สุดท้ายยังไปถึงระดับแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่งชั้นยอด

“ข้า ข้าทะลุขึ้นไปแล้ว!”

ผู้แข็งแกร่งนายนั้น พูดด้วยสีหน้าตื่นใจ “ข้าเพียงแต่อาศัยพลังอานุภาพพมารนี้ ทดลองฝึกฝนวิชาดู ไม่รู้ทำไมฝ่าทะลุไปได้อย่างง่ายดาย?อีกทั้งยังจากแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่งชั้นต้น ฝ่าทะลุอย่างต่อเนื่องไปได้จนถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่งชั้นยอด!”

ได้ยินที่คำพูดของเขา ทุกคนที่อยู่นั่นต่างตื่นใจกันเต็มหน้า นักบูโดอื่น ๆ ต่างก็เริ่มขับเคลื่อนขบวนการฝึกขึ้นมา

“บรึม!”

“บรึม!”

……

เวลาเดียวกันนั้น ภายในสำนักมาร มีแต่นักบูโดที่ฝ่าทะลุขั้นกันทั่วไปหมด

ผู้แข็งแกร่งที่เพิ่งเข้าถึงแดนเหนือมนุษย์ ล้วนได้ใช้เวลาอันสั้น ฝ่าทะลุต่อเนื่องจนถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นหนึ่งชั้นยอด

ส่วนนักบูโดแดนเหนือมนุษย์ขั้นสองชั้นต้นและชั้นกลาง ก็ได้ทะลุสูงขึ้นไปในขั้นอีกหน่อย

ขนาดว่านักบูโดแดนเหนือมนุษย์ขั้นสาม ก็ทะลุขึ้นไปได้หน่อยในอีกระดับขั้น

นักบูโดที่มีระดับขั้นบูโดเกินกว่าแดนเหนือมนุษย์ขั้นสามแล้ว ผู้แข็งแกร่งที่จะมีการทะลุข้ามด้วยอานุภาพมารนั้น น้อยยิ่งกว่าน้อย จะอาศัยพลังนี้ทำให้ก้าวทะลุได้ ก็ล้วนแต่นักบูโดที่ใกล้จะทะลุผ่านอยู่

ทั้งนี้ทั้งนั้น การฝึกฝนภายใต้พลังอานุภาพมารนี้ นักบูโดทุกคนของสำนักมาร ล้วนได้รับผลประโยชน์กันอย่างมาก

หลายต่อหลายคน ได้เข้าใจถึงการฝึกวิชาสายมารลึกซึ้งมากขึ้น ให้แม้กระทั่งพวกนักบูโดแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด ก็ยังได้เข้าถึงการรู้แจ้ง

ถึงยังไงก็มีเพียงนักบูโดแดนนภา จึงสามารถแผ่กระจายอานุภาพมารได้ แต่เมื่อขั้นบูโดก้าวถึงขั้นแดนนภาแล้ว ก็จะต้องหลีกพ้นจากโลกสามัญ ฉะนั้นนักบูโดในโลกสามัญ จึงน้อยนักที่จะเคยสัมผัสกับอานุภาพมาร

ในสำนักมาร จะมีก็นักบูโดแก่เฒ่าส่วนหนึ่งที่ผ่านชีวิตมาหลายปี เคยอยู่กับผู้แข็งแกร่งในสำนักมารที่กำลังก้าวทะลุสู่แดนนภา พวกเขาก็จะได้เคยผ่านสัมผัสกับเขตแดนวิถีมาร

“สำนักมารนี้เป็นแหล่งซุกพยัคฆ์ซ่อนมังกรจริง ๆ หนอ!หนึ่งคนที่ยังไม่ทันได้ฝึกถึงขั้นแดนนภา แต่กลับเป็นผู้แข็งแกร่งที่สามารถแผ่กระจายเขตแดนวิถีมารได้ มันช่างเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ใจแท้”

อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงพูดขึ้นมาด้วยเสียงเยือกสยิว

มารแดงสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยในทันทีนั้น อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงเป็นเจ้าสำนักสำนักกามิ กาโสะ และการข่าวของสำนักกามิ กาโสะนั้นยอดเยี่ยมที่สุดในภูเขามาร จะมีสายรายงานของพวกเขากระจายอยู่ทั่ว

ถ้าหากอิงเทียนสิงอิงเทียนสิงนำเอาเรื่องนึ้กระจายข่าวออกไป ทั่วทั้งสำนักมาร จะต้องตกเป็นเป้าของคนทั่วไป

นี่ยังไม่ใช่ประเด็นใหญ่ ประเด็นสำคัญคือ สถานะของหยางเฉินจะวิกฤตมาก

นอกเสียจากว่า หยางเฉินจะอยู่ในสำนักมารตลอด มิฉะนั้น เพียงเขาก้าวออกจากที่นี่ไป ก็จะต้องมีคนตามล่าเอาชีวิตเขาแน่นอน

และก็ต้องมาเข้าเป็นพวก ถ้าไม่มาเป็นพวกเดียวกัน นั่นก็มีแต่ต้องฆ่าทิ้ง นี้เป็นความคิดแบบเดียวกันในกลุ่มอิทธิพลบูโดชั้นยอดทั้งหลาย ถึงยังไงก็ไม่ยอมให้ผู้แข็งแกร่งที่พลังฝีมือเก่งกาจสักคนหนึ่ง ไปเข้าในค่ายฝ่ายศัตรูของตัวเอง

มารแดงตวาดไปด้วยเสียงอันดังว่า “อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงยังกล้าจะสู้ต่อไหม?”

อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงสะบัดเสียงฮึออกจมูกเยือก ๆ มองหน้ามารแดงเหยียด ๆ พูดไปว่า “อย่างแกนี่ไม่มีฐานะพอที่จะมาสู้กับข้าแล้ว ไปให้ไอ้ผู้แข็งแกร่งที่ปล่อยเขตแดนวิถีมารออกมานั่นออกมาเถอะ!ข้าก็อยากขอดูสักหน่อย ว่ามันใครกันแน่ ถึงขนาดระดับอยู่ต่ำกว่าแดนนภา ก็ทำเป็นมาปล่อยเขตแดนวิถีมาร”

“บรึม!”

พลังบูโดในตัวของมารแดงพลันก็ได้ระเบิดขึ้น เขาคำรามอย่างเกรี้ยวกราด พุ่งตรงเข้าใส่อิงเทียนสิงอิงเทียนสิง

“ปึง!”

วินาทีต่อมานั้น กำปั้นขนาดเขื่อง อัดใส่ลงบนกลางฝ่ามือของเขาอย่างสุดโหด

“ตึง ตึง ตึง!”

ครั้งนี้ อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงไม่สามารถยืนติดกับที่โดยไม่ขยับได้ ต้องเซถอยไปสามก้าว

มารแดงก็รับแรงจากการปะทะในครั้งนี้ โดนกระแทกถอยไปเจ็ดกาว

จากการปะทะกัน ก็เห็นได้ถึงความเหลื่อมล้ำต่างกันของทั้งสอง

แน่นอนว่า ตอนนี้พลังฝีมือของมารแดงแข็งกล้าขึ้นอย่างเห็นชัด ที่พวกเขาปะทะกันเมื่อก่อนหน้านี้ มารแดงได้ใช้พลังของเขาเต็มที่ ก็ยังไม่สามารถทำให้อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงถอยไปแม้แต่ครึ่งก้าว

มาคราวนี้ กลับทำให้อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงเซถอยไปถึงสามก้าว

ถึงแม้แค่เพียงสามก้าว แต่ฝ่ายตรงข้ามนั้นยืนอยู่ในฐานะตัวจริงของหนึ่งในห้าสุดยอดฝีมือระดับอาวุโส แต่มารแดงนั้นยังเป็นแค่เด็กรุ่นหลัง

มารแดงเองยังรู้สึกเหนือความคาดคิด เขาในขณะที่ได้เห็นบรรดานักบูโดสำนักมารที่อยู่ภายใต้กระแสอานุภาพมาร มีหลายคนได้ก้าวทะลุไปอย่างต่อเนื่อง ก็เกิดความคิดอาศัยกระแสอานุภาพมารนี้มาใช้ต่อสู้

และแล้ว เขาก็ใช้ความคิดที่ว่าลองดู คิดไม่ถึงว่า การต่อสู้ภายใต้อานุภาพมารนี้ พลังฝีมือของเขาก้าวรุดขึ้นไปไม่น้อยเลยจริง ๆ

อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงก็แน่นอนว่าได้มีคิดถึงจุดนี้ ความหนาวใจขึ้นมาในตัวเข้มข้นขึ้น หยีตามองไปในทิศทางที่อานุภาพมารปล่อยพลังมา พูดเสียงเหยียด ๆ ไปว่า “ภายใต้เขตแดนวิถีมาร สามารถทำให้การฝึกพลังวิชาของนักบูโดสายมารเร่งรุดเร็วขึ้น อีกยังหนุนเพิ่มพลังฝีมือของนักบูโดสายมารด้วย ช่างร้ายกาจจริง ๆ!”

แววฆ่าที่เข้มข้นสาดประกายขึ้นในแววตา

เขารู้เห็นอย่างชัดแจ้ง สำนักมารปรากฏมีผู้แข็งแกร่งแบบนี้เพิ่มขึ้นมา สำหรับสำนักมารแล้ว กองกำลังย่อมจะต้องยิ่งใหญ่ขึ้นอย่างมาก

คิดดู ในขณะที่สำนักมารกำลังทำศึกกับกลุ่มอิทธิพลสุดยอดกลุ่มอื่น ๆ มีนักบูโดสุดยอดสายมารปล่อยเขตแดนวิถีมาร ภายใต้เขตแดนวิถีมาร พลังฝีมือของนักบูโดสำนักมารระเบิดสูงขึ้นในทันทีนั้น มันก็คือการโหมกระพือให้พลังฝีมือของทั้งกลุ่มลุกโชนยิ่งขึ้น

มารแดงที่เดิมทีไม่สามารถโจมตีให้เขาเซถอยได้แม้แต่ครึ่งก้าว ภายใต้กระแสอานุภาพมารนี้ ก็ทำให้เขาต้องถูกกระแทกถอยไปถึงสามก้าว ถ้าให้เป็นลี่เฉินอยู่ภายใต้กระแสอานุภาพมารนี้มาต่อสู้กับตัวเขา แล้วตัวเขาจะมีทางชนะได้อีกหรือ?

ที่เขาไม่รู้คือ ลี่เฉินนั้นก้าวทะลุถึงแดนนภาไปก่อนนานแล้ว

ในขณะที่อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงกำลังเกิดความคิดที่จะฆ่าหยางเฉินอยู่นั้น หยางเฉินยังคงนอนอยู่บนเตียงขนาดใหญ่นั้น รอบตัวเป็นกระแสอานุภาพมารอันน่าสะพรึงกลัว แผ่กระจายออกมาเป็นระลอกจากตัวเขาอย่างไม่ขาดสาย

พลังปราณบูโดในตัวเขา ก็กำลังทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว

สองผู้แข็งแกร่งสำนักมารที่เฝ้าอยู่หน้าห้อง ยืนมองกันตาเซ่อไปแล้ว

หยางเฉินในขณะนี้ พลังปราณบูโดที่แผ่กระจายออกมาจากตัวนั้นแข็งกล้ามาก มีทีท่าว่าจะทะลุขึ้นแดนนภาอยู่ลางๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War