The king of War นิยาย บท 1932

สรุปบท บทที่ 1932 สบประมาทอย่างที่สุด: The king of War

สรุปเนื้อหา บทที่ 1932 สบประมาทอย่างที่สุด – The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง

บท บทที่ 1932 สบประมาทอย่างที่สุด ของ The king of War ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ไม่มีใครตอบคำที่อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงถาม แต่อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงเห็นท่าทีของแต่ละคน ก็ได้รับรู้คำตอบแล้ว

เขามองไปที่เตียงขนาดใหญ่นั่น เด็กหนุ่มที่กำลังสลบไสลอยู่คนนั้น ทำให้ใจของเขารู้สึกสะทกสะท้าน

นี้เป็นครั้งแรกที่เขาเคยเห็นคนหนุ่มขนาดนี้ มีพลังฝีมือได้ถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย และก็เป็นครั้งแรกที่เห็นคนหนุ่มขนาดนี้ สามารถเปล่งกระแสเขตแดนวิถีมารออกมาได้

ถึงแม้จะยังไม่แน่ใจได้ชัดถึงพลังฝีมือจริงของหยางเฉิน แต่เขาก็รู้ คนหนุ่มในแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายที่สามารถเปล่งกระแสเขตแดนวิถีมารออกมาได้ พลังฝีมือต้องเก่งกาจมากทีเดียว

ในขณะนั้นเอง หยางเฉินที่นอนสลบไสลอยู่ตั้งแต่เดิม จู่ ๆ ตาก็เบิกโพลงขึ้น

พอตาลืมขึ้นได้ ก็พบเห็นคนเต็มไปทั้งห้อง ทั้งล้วนแต่เป็นผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด

ยิ่งกว่านั้นยังมีผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งอยู่อีกนายหนึ่ง แต่ละคนต่างมองมาที่ตัวเขาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

เขาถึงกับสะดุ้ง รีบกระโดดลุกจากเตียงลงมา มองคนที่อยู่รอบ ๆ ด้วยความหวาดระแวง

หยางเฉินถามไปว่า “พวกคุณจะทำอะไรหรือ?”

ที่แม้แต่ตัวเขาเองยังไม่รู้สึกก็คือ แดนขั้นบูโดของเขาเองได้ก้าวขึ้นไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายแล้ว อีกทั้งมองปราดเดียวก็รู้ได้เลยว่าอิงเทียนสิงอิงเทียนสิงนั้นอยู่ถึงกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น

“คุณหยาง คนๆ นี้คิดจะฆ่าท่าน!”

ขณะนั้นเอง ผู้แข็งแกร่งขั้นเก้าชั้นยอดนายหนึ่ง ก้าวขึ้นหน้ามาในทันใด ยื่นมือชี้ไปที่อิงเทียนสิงอิงเทียนสิง เอ่ยปากขึ้นพูด

ได้ยินที่พูดมา หยางเฉินหันไปมองหน้าอิงเทียนสิงอิงเทียนสิงอย่างฉับพลัน สีหน้าหนาวเยือก

เขายังไม่รู้สถานะของฝ่ายตรงข้าม แต่รู้สึกได้ว่า ฝ่ายตรงข้ามมีพลังฝีมือแข็งแกร่งมาก

ในขณะที่หยางเฉินมองไปที่อิงเทียนสิงอิงเทียนสิง อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงถึงกับสะอึก ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ทันทีที่สายตาหยางเฉินจ้องใส่เขา ความรู้สึกบอกเขาเลยว่ามีอันตรายอย่างมหันตร์

ความรู้สึกบอกเขาว่านักบูโดที่เขาเผชิญหน้าอยู่นี้ไม่ใช่เพิ่งทะลุขึ้นไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย แต่เป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นของจริงเลยทีเดียว

นี่มันเป็นไปได้ยังไง?

ตามสภาพปกติทั่วไป ก็มีแต่ผู้อ่อนด้อยกว่าจะรู้สึกสังหรณ์กับอันตรายจากผู้ที่แข็งแกร่งกว่า

แท้ที่จริงตัวเขาเองจึงใช่ผู้แข็งแกร่งที่กำลังจะทะลุขึ้นถึงแดนนภา แต่ทำไมกลับรู้สึกมีอันตรายที่กดดันมาจากผู้แข็งแกร่งแค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายนี้ได้?

“คุณหยาง เขาคืออิงเทียนสิงอิงเทียนสิง เจ้าสำนักกามิ กาโสะ!”

ขณะนั้นเอง ก็มีผู้แข็งแกร่งสำนักมารอีกนายหนึ่งเอ่ยปาก พูดขึ้นอย่างเหยียด ๆ ว่า “ก่อนหน้านี้เนี่ยชิวที่คิดจะฆ่าหม่าชาวพี่น้องของคุณ ก็คือสมาชิกระดับเอสในขบวนการสำนักกามิ กาโสะของพวกเขา”

“ข้าสงสัยมากกว่านั้นอีกว่า เนี่ยชิวก็คือนักฆ่าที่สำนักกามิ กาโสะตั้งใจจัดมาตามล่าสังหารหม่าชาว”

อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงระเบิดความโกรธขึ้นมาในพลัน “ผายลม!ข้าเจ้าสำนักแห่งสำนักกามิ กาโสะ ไหนเลยจะใช้พฤติกรรมต่ำทรามน่าละอายแบบนี้?”

ตะคอกต่อว่าใส่ผู้แข็งแกร่งสำนักมารคนนั้นไปแล้ว เขาก็หันมองไปที่หยางเฉินพูดว่า “ถ้าข้าทายไม่ผิด น้องท่านนี้คงจะเป็นหยางเฉิน คุณหยางใช่นะ?”

ไม่คิดว่า อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงรู้จักชื่อของเขาด้วย แววตาหยางเฉินทอประกายฆ่าออกมาแวบหนึ่งอย่างไม่ทันให้ใครได้สังเกต แต่ก็ยังถูกสายตาของอิงเทียนสิงอิงเทียนสิงจับได้

อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงขมวดคิ้วย่น จะว่าไปเขาก็หนึ่งในห้าสุดยอดผู้แข็งแกร่งแห่งภูเขามาร กลับต้องมารับกระแสกดดันจากเด็กรุ่นหลังในแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย

เขาก็ให้เกิดความรู้สึกถูกหยามหน้าขึ้นมาในทันใด แต่ก็ได้แต่โกรธไม่กล้าออกเสียง

ที่ว่าไม่กล้า ไม่ใช่ว่าจะกลัวหยางเฉิน แต่กลัวผู้พิทักษ์ที่อยู่เบื้องหลังของหยางเฉิน

หากถ้าเขากล้าฆ่าหยางเฉิน ผู้พิทักษ์ที่อยู่เบื้องหลังหยางเฉินก็จะต้องจัดการกับเขาเป็นแน่

คิดมาถึงจุดนี้ เขาก็ได้แต่กดไฟโกรธในใจของตัวเองลงไป

“ที่ข้ามาสำนักมารในวันนี้ ก็เพราะได้ข่าวเจ้าหัวโจกที่จะตามล่าสังหารหม่าชาวที่ชื่อเนี่ยชิวคนนั้น เวลานี้มาอยู่ที่สำนักมาร”

ทันใดนั้นสายตาของอิงเทียนสิงอิงเทียนสิงก็มองไปที่หอหนังสือสำนักมาร พูดด้วยเสียงอันดังว่า “ขอท่านเจ้าสำนักลี่โปรดได้ส่งตัวเนี่ยชิวออกมาด้วย ข้าจะขอพากลับไปรับโทษที่สำนักกามิ กาโสะ”

ลี่เฉินในขณะนี้ ไม่มีกระแสพลังปราณหลุดกระจายออกมานอกกาย ยืนอยู่กับที่ตรงนั้น เหมือนผสมผสานกับฟ้าดินเป็นสถานภาพเดียวกัน

ตอนแรกที่สายตาหยางเฉินเห็นอิงเทียนสิงอิงเทียนสิง ก็รู้สึกได้ถึงระดับแดนบูโดของอิงเทียนสิงอิงเทียนสิงอยู่ที่กึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น มาตอนนี้ในตัวของลี่เฉิน ไม่สามารถสัมผัสรู้ถึงพลังฝีมือแท้จริงของลี่เฉินได้เลย

สมแล้วที่เป็นผู้แข็งแกร่งที่ก้าวขึ้นไปถึงแดนนภาแล้ว ช่างยิ่งใหญ่จริง ๆ

อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงก็รู้สึกจะไม่เข้าท่าเสียแล้ว การปรากฏตัวของลี่เฉิน เหมือนเป็นการมาอย่างทะลุมิติ แม้แต่ตัวเขาเอง ยังไม่รู้ตัวเลยว่าลี่เฉิน มาได้ยังไง

ลี่เฉินหรี่ตามองไปที่อิงเทียนสิงอิงเทียนสิง พูดเสียงหนาวเยือกว่า “ที่ท่านเจ้าสำนักอิงมาถึงสำนักมารของข้า ไม่ทราบด้วยเหตุอันใด?”

และแล้วอิงเทียนสิงอิงเทียนสิงจึงตั้งสติได้ ตอบไปอย่างเย็นชาว่า “ขอให้ส่งตัวเนี่ยชิวมา เหตุการณ์ในครั้งนี้ ข้าจะถือว่าไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น”

“ฮึ!”

ลี่เฉินสะบัดเสียงฮึออกจมูก กลิ่นอายฆ่าแผ่กระจายออกมาจากในตัว เขาจ้องอิงเทียนสิงอิงเทียนสิงพูดว่า “แกมันตัวอะไร?อยู่ในพื้นที่สำนักมารนี้ ยังกล้าบังคับข้าลี่เฉินมอบคนคืนให้?”

คำพูดออกไปนี้ เป็นกระแสกดดันที่น่าสะพรึงกลัว มุ่งเข้าไปหาอิงเทียนสิงอิงเทียนสิง

อิงเทียนสิงอิงเทียนสิงสีหน้าซีดลงไปวูบ คำพูดของลี่เฉิน สำหรับเขาแล้ว เป็นการสบประมาทกันอย่างที่สุด

เขาก็ได้สัมผัสถึงความกดดันที่ใหญ่หลวงจากตัวของลี่เฉินแล้ว แรงกดดันนี้ สูงล้ำกว่าเขาอย่างเด็ดขาด

หรือจะว่า ลี่เฉินก้าวขึ้นไปถึงขั้นนั้นแล้ว?

ถ้าเป็นจริงเช่นนั้นแล้ว การที่ลี่เฉินจะฆ่าเขา ง่ายแค่พลิกฝ่ามือ

ในใจอิงเทียนสิงอิงเทียนสิงอัดอั้นไปอย่างที่สุด ในแค่วันเดียวนี้ ก็โดนแรงกดดันบีบบังคับถึงสองครั้ง

จากลี่เฉินครั้งหนึ่ง อีกครั้งจากผู้แข็งแกร่งที่เพิ่งก้าวเข้าแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War