The king of War นิยาย บท 1966

ผู้แข็งแกร่งที่ลงมือกับมารแดงไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นเกาสงหนึ่งในสี่ยอดขุนพลมารองสำนักมาร ตอนนี้แดนบูโดของเขามาถึงกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นแล้ว

ในตอนเริ่มต้น เมื่อเกาสงอยู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด เขาก็ติดอันดับหนึ่งในสิบผู้แข็งแกร่งในภูเขามารแล้ว ตอนนี้ แดนบูโดของเขาได้บุกทะลวงไปถึงขั้นกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นแล้ว ความแข็งแกร่งของเขาจึงมากขึ้น

แม้แต่มารแดงในวันนี้ก็ไม่สามารถแข่งขันกับเกาสงได้

ในเวลานี้ ทุกคนในสำนักมารต่างจ้องเกาสงอย่างโกรธเคือง มารแดงพยายามลุกขึ้นจากพื้น เมื่อเขามองไปที่เกาสง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธรุนแรง

เขากัดฟันและพูดว่า "เกาสง ในที่สุดนายก็ะทรยศสำนักมารใช่ไหม?"

เกาสงมองมารแดงอย่างภาคภูมิใจและพูดอย่างดูถูกว่า "มารแดง ไม่ใช่ว่าฉันอยากทรยศสำนักมาร แต่ฉันต้องการเอาทุกอย่างที่เป็นของฉันคืน"

“ตอนนี้ เจ้าสำนักต้องฝ่าภัยพิบัติสวรรค์และออกจากสำนักมารไป ไม่หากเขาพ่ายแพ้ต่อภัยพิบัติสวรรค์ก็ต้องได้รับผลสะท้อนกลับ และตกต่ำลง ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความจริงที่ว่าสำนักมารก็จะต้องเลือกผู้นำคนใหม่"

“ถ้านายยอมจำนนต่อฉัน นายและฉันจะทำงานร่วมกันเพื่อทำให้สำนักมาร เป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดในภูเขามาร”

มารแดงเริ่มโกรธและคำรามทันที "ผายลม! แม้ว่าเจ้าสำนักต้องออกจากสำนักมารจริงๆ แต่ตำแหน่งของผู้นำคนใหม่ก็ไม่มีทางเกี่ยวข้องกับนายที่เป็นผู้ทรยศสำนักมาร"

“เจ้าสำนักได้เลือกผู้สืบทอดคนใหม่แล้ว เมื่อเจ้าสำนักจากไป หม่าชาวก็จะเป็นผู้นำคนใหม่ของสำนักมาร นายมีสิทธิ์อะไรมาเปลี่ยนคำสั่งของเจ้าสำนัก?”

เกาสงเยาะเย้ย "หม่าเฉาไม่มีแม้กระทั่งพลังในแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้า กลับยังคิดจะสืบทอดสำนักมาร? อาศัยอะไร? ฉันเกาสงทำงานอย่างหนักในสำนักมารมาหลายสิบปี มีส่วนสนับสนุนอย่างมากต่อสำนักมาร ตอนนี้ในสำนักมาร นอกเหนือจากเจ้าสำนัก ฉันก็คือคนที่มีพลังที่แข็งแกร่งที่สุด ฉันคือคนเดียวที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดที่จะสืบทอดสำนักมาร”

มารแดงโกรธจัด เขาเหลือบมองทุกคนและพูดเสียงดัง "เกาสงทรยศสำนักมาร พวกนายควรร่วมมือกันเพื่อปราบปรามเขา ฉันจะคิดหาทางหยุดเหรินจิงหลุนและ อิงเทียนสิง"

ในเวลานี้อิงเทียนสิง และเหรินจิงหลุนกำลังจะขัดขวางภัยพิบัติสวรรค์ ทั้งสองคนเป็นยอดผู้แข็งแกร่งรองจากแดนนภา หากคิดจะทำลายภัยพิบัติสวรรค์ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

หากไม่สามารถหยุดยั้งทั้งสองได้ เมื่อภัยพิบัติสวรรค์ถูกทำลายลง ผู้ฝ่าภัยพิบัติสวรรค์ก็จะต้องประสบกับการสะท้อนกลับครั้งใหญ่ ผลสถานเบาคือบาดเจ็บสาหัส อย่างหนักคือเสียชีวิต

“มู่ชิง และเหมิงคุนพวกนายสองคนต่อสู้กับเกาสง ฉันจะช่วยมารแดงหยุดอิงเทียนสิง และ เหรินจิงหลุน”

ในเวลานี้ ผู้แข็งแกร่งที่อยู่กึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นคนหนึ่งก็ก้าวมาข้างหน้า และมองดูยอดขุนพลมารอีกสองในสี่และกล่าวอย่างเคร่งขรึม

เงามาร คือหนึ่งในผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักมารเช่นเดียวกับเกาสงและมารแดง และเป็นหนึ่งในผู้แข็งแกร่งสิบอันดับแรกใน ภูเขามาร

มู่ชิง และเหมิงคุนมองหน้ากันและพยักหน้า

เกาสงยิ้มอย่างเหยียดหยาม "เมื่อเผชิญกับกำลังที่เด็ดขาด พวกนายก็แค่ขยะ! ใครกล้าขวางฉัน ฉันจะถูกมองว่าเป็นศัตรู ในเมื่อเป็นศัตรู ฉันไม่ยอมรั้งมือแน่!"

“เกาสง อย่าหยิ่งผยองนักเลย!”

มู่ชิงและรีบพุ่งไปที่เกาสง ส่วนเหมิงคุนก็ตามไปด้วยเช่นกัน

ในเวลานี้ สามในสี่ยอดขุนพลมารของสำนักมารกำลังเริ่มทำสงคราม

มารแดงดูวิตกกังวล และเงามารพูดอย่างเย็นชาว่า “ไม่มีเวลาให้สนใจอะไรมากแล้ว ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือตอนนี้หยุดอิงเทียนสิง และเหรินจิงหลุนเราไม่ควรซ่อนตัวอีกต่อไป เราควรทุ่มไปทั้งหมดเพื่อหยุดพวกเขาให้ได้มากที่สุด"

มารแดงพยักหน้า “ดี!”

เมื่อพูดจบ ก็มีเสียง "ปัง" ดังขึ้นและพื้นก็แตกทันที มารแดงพุ่งเข้าหาอิงเทียนสิง และ เหรินจิงหลุน

เงามารเองก็วิ่งขึ้นไป

อีกด้านหนึ่ง ตู้ป๋อกำลังต่อสู้กับเผยเชียนอิน

เกิดสงครามวุ่นวายขึ้นในที่นี้ทันที

ผู้ที่เข้าร่วมในสงครามล้วนเป็นยอดนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในภูเขามาร ยามปกติยากที่จะพบสักสองคนในนั้นระหว่างสงคราม อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้กลับมีผู้แข็งแกร่งมากมายต่อสู้กัน

"ปึง ปึง ปึง!"

ผู้แข็งแกร่งทุกคนไม่นั้งมือและโจมตีคู่ต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง

เหรินจิงหลุนและ อิงเทียนสิง ถูกมารแดงและเงามาร หยุดไว้ ทั้งคู่ต่างก็โกรธจัด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War