The king of War นิยาย บท 1980

สรุปบท บทที่ 1980 สังหารเทพมาร: The king of War

อ่านสรุป บทที่ 1980 สังหารเทพมาร จาก The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง

บทที่ บทที่ 1980 สังหารเทพมาร คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต The king of War ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เวลานี้ ทุกคนล้วนมองยังทิศทางของหยางเฉินด้วยท่าทางตกใจ วิญญาณเทพมารสิงอยู่ในร่างของหยางเฉินแล้ว ไม่ใช่หมายความว่า วันหลังหยางเฉินก็เป็นเทพมารแล้วเหรอ?

หม่าชาวมองทางลี่เฉินแบบหน้าอ้อนวอนแล้วพูดว่า “อาจารย์ครับ ขอร้องท่านรีบช่วยพี่เฉินด้วยเถอะครับ ถ้าร่างกายของเขาโดนเทพมารยึดครอง วิญญาณของพี่เฉินจะไม่สูญสิ้นแล้วเหรอครับ?”

หน้าลี่เฉินเผยความขมขื่น พูดอย่างขึงขังไร้ที่เปรียบ “ตอนนี้ ฉันไม่มีความสามารถพอแล้ว! ยิ่งคนที่เข้าร่วมต่อสู้มากขึ้น วิญญาณของเทพมารยิ่งปรับร่างกายของหยางเฉินได้เพิ่ม พอยิ่งปรับ ความสามารถก็ยิ่งแกร่ง”

“ลือกันว่า ช่วงสภาพสูงสุดของเทพมาร ก็คือผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นเก้าชั้นยอด ต่อให้เป็นหยางเฉินในตอนนี้ ซึ่งเป็นแค่ร่างกายที่ฝ่าฟันภัยพิบัติส่วนเนื้อหนังเท่านั้น ความสามารถก็ยังคงยิ่งใหญ่สุดขีดอยู่ดี”

ฟังคำพูดของลี่เฉินแล้ว ชั่วขณะนั้นหม่าชาวหน้าตาหมดอาลัยตายอยาก พูดด้วยท่าทางหมดหวัง “งั้นควรทำยังไงครับ?”

หลังลี่เฉินลังเลนิดหน่อย ทันใดนั้นก้าวไปด้านหน้าก้าวหนึ่ง มองทางของหยางเฉิน พูดเสียงดังไปว่า “ขอให้ท่านผู้อาวุโสปล่อยหยางเฉินไปสักครั้งด้วยเถอะครับ ตอนนี้ถือว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของสำนักมาร ขอให้ท่านผู้อาวุโสเห็นแก่ที่เขาเป็นส่วนหนึ่งของสำนักมาร ปล่อยเขาไปเถอะครับ”

หยางเฉินหัวเราะเยาะ หรี่ตาจ้องลี่เฉินแล้วพูดว่า “ไอ้หนุ่ม นายคือผู้นำของสำนักมารสินะ? เจอบรรพบุรุษแล้ว ไม่คุกเข่าเคารพก็แล้วไป คาดไม่ถึงยังอยากสอนฉันทำงาน?”

ลี่เฉินรีบพูดทันที “ศิษย์ไม่กล้าครับ!”

หยางเฉินพูดด้วยเสียงเย็นชา “ในเมื่อไม่กล้า งั้นก็หุบปากให้ฉันซะ! ขืนพูดมากอีก อย่าโทษว่าฉันไม่เกรงใจกับนายแล้วกัน!”

พูดจบ หยางเฉินพุ่งเข้าไปทางของเจียงหยวนหลงอีกที

มุมปากเจียงหยวนหลงกระตุกนิดหน่อย สีหน้าซีดเผือดอย่างยิ่ง สู้กับเทพมารในตำนาน ไม่ใช่ตนเองรนหาที่ตายเหรอ?

ต่อให้คนตรงหน้านี้ เป็นเพียงร่างกายที่ถูกวิญญาณเทพมารยึดครอง ยังคงไม่ใช่การมีอยู่ที่เขาจะเอาชนะได้

หลังจากต่อสู้มาต่อเนื่อง เจียงหยวนหลงยิ่งรู้สึกได้เรื่อยๆ ว่าความสามารถของหยางเฉินแกร่งขึ้นไม่หยุด ช่วงเริ่มต้น ยังเพียงแค่ฝืนบังคับปราบปรามเขาไว้ได้ ปัจจุบันนี้ ปราบปรามเขาไว้โดยสมบูรณ์แบบแล้ว

เขาเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น ส่วนหยางเฉินเวลานี้ความสามารถที่แสดงออกมา บรรลุถึงแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นกลางแล้ว

ภายใต้ความต่างเช่นนี้ เขาจะเป็นคู่ต่อสู้ของหยางเฉินได้อย่างไร?

ผู้แข็งแกร่งสำนักมารกลุ่มหนึ่ง เห็นเจียงหยวนหลงที่เมื่อสักครู่ยังเผด็จการอย่างยิ่งอยู่ เวลานี้โดนหยางเฉินบดขยี้ ในใจรู้สึกสะใจสุดๆ

ตู้ป๋อมองทางสถานการณ์ที่หยางเฉินสู้รบกับเจียงหยวนหลง หน้าตาเฝ้าปรารถนา นี่คือความสามารถของผู้แข็งแกร่งแดนนภาเหรอ?

“ตึงๆๆ!”

ภาพของทั้งสองคนแฉลบผ่านไปไม่ขาดสาย ปรากฏตัวแต่ละครั้ง ล้วนเป็นตอนที่โจมตี

ผู้แข็งแกร่งสำนักมารกลุ่มหนึ่ง เพียงรู้สึกตาลายแยกไม่ออก นี่คืองานเลี้ยงตระการตางานหนึ่งชัดๆ ทำให้คนฮึกเหิมเหลือเกิน

มีคนดีใจ และมีคนเป็นกังวล

ผู้แข็งแกร่งตระกูลเจียงสี่คนที่เหลือ เห็นเจียงหยวนหลงโดนโจมตีแบบบดขยี้ แต่ละคนอกสั่นขวัญแขวน หวาดผวาจนถึงขีดสุดแล้ว

เจียงหยวนหลงก็คือบุคคลสำคัญของพวกเขาเหล่านี้ ถ้าเจียงหยวนหลงโดนฆ่าแล้ว พวกเขาควรทำอย่างไร?

“ตึง!”

ร่างกายของเจียงหยวนหลงโดนโจมตีลอยไปอีกครั้ง ถอยหลังต่อไปโดยไม่มีแนวโน้มว่าจะหยุดลงมา ก็โดนหยางเฉินตามเข้าไปแล้ว ทันใดนั้นก็โจมตีลงไปอย่างหนักทีหนึ่ง

“ตูม!”

ร่างกายของเจียงหยวนหลงโดนทุ่มลงบนพื้นอย่างหนักอึ้ง พื้นสั่นสะเทือนขึ้นมาหมดแล้ว รอยแยกที่ความหนาเท่าแขนหลายเส้น ราวกับใยแมงมุม โดยมีตำแหน่งที่เจียงหยวนหลงตกลงมาเป็นจุดศูนย์กลาง แผ่ขยายไปทั่วทุกสารทิศ

หลังจากที่เจียงหยวนหลงตกลง ก็พ่นเลือดสีดำออกมา น่าสังเวชอย่างยิ่ง

“แพ้แล้ว!”

ผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่ง ต่างตกตะลึงพรึงเพริดกันหมด แกร่งดุจเจียงหยวนหลง คาดไม่ถึงพ่ายแพ้แล้ว แถมยังแพ้แบบน่าสังเวชเช่นนี้อีก

เขาพูดด้วยเสียงต่ำ “นายคิดมากไปแล้ว!”

หม่าชาวตะลึงครู่หนึ่ง ถามว่า “หมายความว่าอะไรครับ?”

ลี่เฉินเอ่ยปากบอก “เริ่มตั้งแต่ที่ภัยพิบัติส่วนเนื้อหนังของหยางเฉินถูกกำหนดลงมา ผู้แข็งแกร่งของพันธมิตรพิทักษ์ก็มาถึงแล้ว แต่พวกเขารีรอไม่ออกหน้าสักที แม้กระทั่งตอนที่ฉันกับหยางเฉินปะทะฝีมือกัน พวกเขาล้วนไม่ได้ปรากฏตัว เดิมทีฉันยังสงสัยอยู่ว่าทำไม แต่ตอนนี้ ฉันเข้าใจแล้ว”

นิ่งไปครู่หนึ่ง ลี่เฉินพูดต่อไปว่า “นี่เดิมคือแผนการที่พันธมิตรพิทักษ์จัดวางไว้ พวกเขาหลอกใช้หยางเฉินให้ฝ่าฟันภัยพิบัติส่วนเนื้อหนัง จากนั้นล่อวิญญาณเทพมารออกมา

หม่าชาวเบิกดวงตาโต หน้าตาไม่อยากเชื่อ

ในสายตาเขา พันธมิตรพิทักษ์เป็นเทพผู้พิทักษ์เที่ยงตรงที่คุ้มครองไม่ให้ผู้แข็งแกร่งโลกบู๊โบราณมารังแกผู้แข็งแกร่งโลกทั่วไป แต่ว่าตอนนี้ ลี่เฉินกลับบอกเขาว่า พันธมิตรพิทักษ์จัดฉาก เพื่อล่อวิญญาณเทพมารให้ออกมา และหลอกใช้หยางเฉินให้ฝ่าฟันภัยพิบัติ

ลี่เฉินมองทางหม่าชาวที่อยู่ในความตกใจเอ่ยถามว่า “ยังจำก่อนหน้านี้ที่สำนักบู๊ เรื่องที่หยางเฉินทำให้เกิดภัยพิบัติส่วนเนื้อหนังขึ้นแล้วถูกขัดจังหวะได้ไหม?”

หม่าชาวพยักหน้า “ท่านบอกว่า มีผู้แข็งแกร่งลึกลับบอกกับท่าน ให้ท่านช่วยพี่เฉินฝ่าฟันภัยพิบัติส่วนเนื้อหนัง จากนั้นท่านจะดึงพี่เฉินมาที่สำนักมาร แม้กระทั่งให้พี่เฉินฝ่าฟันภัยพิบัติที่นี่”

ลี่เฉินพยักหน้า “ตอนนี้ดูแล้ว ผู้แข็งแกร่งลึกลับคนนั้นที่สำนักบู๊ ก็คือผู้แข็งแกร่งชั้นยอดของพันธมิตรพิทักษ์ เขารู้แต่แรกว่า วิญญาณเทพมาร ซ่อนอยู่ที่สำนักมาร ส่วนวิธีการทะลุขั้นของหยางเฉิน เหมือนกับเทพมาร นั่นคือฝ่าฟันภัยพิบัติส่วนเนื้อหนังก่อน”

“ขอเพียงหยางเฉินฝ่าฟันภัยพิบัติส่วนเนื้อหนังมาได้สำเร็จ เทพมารจะต้องไม่ปล่อยโอกาสยอดเยี่ยมอันนี้หลุดไป จะต้องยึดครองร่างกายของหยางเฉินแน่นอน”

ฟังการวิเคราะห์ของลี่เฉิน และตอนนี้มองผู้แข็งแกร่งแดนนภาหกคนที่มาจากพันธมิตรพิทักษ์ ชั่วขณะหนึ่งหม่าชาวโมโหเดือดดาล

พันธมิตรพิทักษ์ คาดไม่ถึงหลอกใช้หยางเฉินให้ฝ่าฟันภัยพิบัติ จากนั้นล่อวิญญาณของเทพมารไปที่ร่างของหยางเฉินแล้ว

หม่าชาวกุมหมัดทั้งสองเอาไว้แน่น กัดฟันพูดว่า “พันธมิตรพิทักษ์ สรุปอยากทำอะไรกัน?”

ลี่เฉินมองทางหยางเฉินอย่างลึกซึ้งแล้ว จากนั้นมองทางหม่าชาว เอ่ยปากบอก “สังหารเทพมาร!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War