บทที่ 20 กงกรรมกงเกวียน
ฉินยีกอดฉินซีแน่น เธอเองก็น้ำตาไหลจนเต็มใบหน้าเช่นเดียวกัน
“หยางเฉินเขามันเป็นไอ้สวะ นึกไม่ถึงว่าเธอจะยังเชื่อพูดของเขา อะไรมาเอาโลกทั้งใบให้เธอ ไร้สาระ!”
โจวยู่ชุ่ยกลับไม่มีความปวดใจเลยสักนิด เธอพูดอย่างไม่รับฟังใดใดทั้งสิ้น “พวกเราทั้งหมดกำลังจะโดนขับไล่ออกจากตระกูลอยู่แล้ว แม้แต่ที่จะซุกหัวนอนก็ไม่มี เขารู้ว่าอยู่บ้านนี้ไปก็ฉกฉวยอะไรไปไม่ได้ ดังนั้นก็เลยจากไปในตอนที่เธอลำบากที่สุดเหมือนกับเมื่อห้าปีก่อน และคงจะไม่กลับมาอีกแล้ว”
คำพูดเหล่านี้เป็นเหมือนกับหนามทิ่มแทงเข้าไปในใจของฉินซีอย่างโหดร้าย
“ถ้าหากว่าพวกเราโดนขับไล่ออกจากตระกูลจริง ๆ ก็ไม่มีอะไรเหลืออะไรเลย เสี่ยวซี เชื่อฟังแม่นะ ไปขอร้องปู่ของเธอเสียตอนนี้ ขอร้องให้เขาให้โอกาสเธออีกครั้ง ขอเพียงไม่โดนขับไล่ออกจากตระกูล ไม่ว่าจะมีเงื่อนไขอะไรก็ตอบตกลงเขาไป เธอรีบไป รีบไปสิ!” โจวยู่ชุ่ยร้องไห้ไปผลักฉินซีไป
หัวใจของฉินซีราวกับโดนทำลายจนแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เจ็บปวดจนไม่อยากจะมีชีวิต มองโจวยู่ชุ่ยด้วยใบหน้าสิ้นหวัง “ค่ะ หนูจะไปขอร้องเขา! ขอร้องให้พวกเขาปล่อยพวกคุณไป ต่อให้เขาจะให้หนูไปตาย ฉันก็จะรับปาก”
เธอพูดจบก็ลุกขึ้นมุ่งเข้าไปในสายฝนที่ตกกระหน่ำราวกับฟ้ารั่ว
“พี่คะ ฉินยีร้องตะโกนเสียงดังแล้วก็ตามออกไป
ฉินยีเพิ่งจะไล่ตามออกไปก็โดนโจวยู่ชุ่ยฉุดแขนเอาไว้ “นี่เป็นเรื่องที่เธอก่อขึ้นมาเอง เธอต้องเป็นคนไปขอร้อง นายท่านถึงอาจจะยอมปล่อยพวกเราไป”
“ออกไป!”
ฉินยีทุ่มแรงดิ้นให้หลุดออกจากข้อมือของโจวยู่ชุ่ย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอพูดจาแบบนี้กับแม่ของเธอ
รอจนตอนที่เธอตามออกไป ไหนเลยจะมีเงาร่างของฉินซี?
คฤหาสน์ตระกูลฉิน
ประตูคฤหาสน์ของนายท่านฉิน เงารูปร่างสวยงามผอมบางกำลังคุกเข่าอยู่ตรงนั้น สายฝนที่กระหน่ำทำให้เธอเปียกปอนจนเหมือนกับลูกหมาตกน้ำไปนานแล้ว ลมหนาวที่เหน็บหนาวเสียดกระดูก ทุกอย่างที่ร่างกายแบกรับนั้นเทียบไม่ได้เลยกับเศษเสี้ยวความเจ็บปวดที่อยู่ในใจ
“คุณปู่คะ ขอร้องล่ะ ท่านให้โอกาสฉันหนึ่งครั้ง ขอเพียงท่านไม่ไล่พวกเราออกจากตระกูล ฉันจะยอมทุกอย่างค่ะ”
ฉินซีพูดไปร้องไห้ไป น้ำฝนและหยาดน้ำตาบนใบหน้าผสมปนเปกันไปหมด
เธอคุกเข่าอยู่เป็นเวลานานท่ามกลางลมหนาวและสายฝนพัดกระหน่ำ ร่างกายอ่อนแอโงนเงนกำลังจะล้มลงไป ถ้าหากไม่ได้มีความตั้งใจที่เด็ดเดี่ยวเกรงว่าเธอจะล้มพับไปตั้งนานแล้ว
ระหว่างนายท่านฉินกับฉินซีมีเพียงแค่ประตูบานหนึ่งกั้นขวางเอาไว้ แต่ตอนนี้บนใบหน้าของนายท่านฉินเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยว แม้กระทั่งเสียงตอบรับแค่คำเดียวก็ไม่ยินยอมเปล่งออกมา
ด้านข้างคฤหาสน์ของนายท่านฉินก็คือบ้านของฉินเฟย ข้างกายเขารายล้อมไปด้วยบุคคลที่มีความสัมพันธ์สายตรงของตระกูลฉินหลายคน ตอนนี้ทั้งหมดมองดูอยู่ข้าง ๆ อย่างเฉยเมย
“ผู้หญิงคนนี้หัวแข็งจริง ๆ นึกไม่ถึงว่าจะคุกเข่าอยู่ท่ามกลางสายฝนพัดกระหน่ำนานขนาดนี้เพียงเพื่อที่จะขอให้นายท่านให้อภัย”
“เธอไม่ได้หัวแข็ง แต่เธอไม่ทำแบบนี้ไม่ได้ต่างหากล่ะ ออกจากตระกูลฉินไปเธอก็นับเป็นอะไรไม่ได้เลย”
“ดูเหมือนครั้งนี้นายท่านฉินจะขับไล่ครอบครัวของพวกเธอออกจากตระกูลฉินจริง ๆ”
……
ในตอนนี้เองประตูห้องของนายท่านฉินก็ถูกเปิดขึ้นอย่างฉับพลัน จากนั้นก็เห็นพ่อบ้านเดินมาจนถึงประตู ในมือถือเอาเอกสารฉบับหนึ่งมา
ฉินซีเองก็มองเห็นเงาร่างนั้น จากนั้นก็ได้ยินพ่อบ้านอ่านสิ่งที่อยู่ในเอกสาร “ประกาศฉบับนี้เป็นฉบับพิเศษ คำสั่งการของผู้นำหมายเลขเจ็ด จากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในที่ประชุมของตระกูล ทุกสาขาบริษัทภายใต้การบริหารของตระกูลฉินมีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ให้ขับไล่ครอบครัวของฉินซีออกจากตระกูลฉิน ตัดชื่อออกจากแผนผังวงศ์ตระกูล เรียกคืนบ้านพักของตระกูลฉิน!”
ครืน!
ทันใดนั้นสายฟ้าแลบหลายสายก็ผ่าลงที่ขอบฟ้าราวกับจะฉีกท้องฟ้าออกจากกัน ฝนยิ่งโหมกระหน่ำรุนแรงขึ้น
ฉินซีที่เพิ่งจะกอดความหวังเล็ก ๆ เอาไว้ หลังจากที่ได้ยินคำสั่งการของผู้นำร่างกายก็โซซัดโซเซ แขนขาไร้เรี่ยวแรงโดยสิ้นเชิง
ในตอนนี้เองเงาร่างหนึ่งก็ปรากฏที่ข้างกายของเธอทันที
“คำสั่งการของผู้นำ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...