The king of War นิยาย บท 2007

“ไปตายซะเถอะ!”

เจียงจ้านตะคอกเสียงดังลั่น กรีซอาถรรพ์ที่อยู่ในมือพุ่งตรงมาอย่างดุดัน

สีหน้าของลี่เฉินเปลี่ยนไปมาก เขาอยากหลบหนีแต่กลับหนีไม่ทันด้วยซ้ำ ทำได้เพียงมองดูมีดพกยิ่งอยู่ยิ่งเข้าใกล้ม้ามของตนต่อหน้าต่อตา แต่กลับไม่มีกำลังแรงที่จะหลบหลีกแม้แต่น้อย

“ติ๊ง!”

และในเวลานี้เอง เสียงเหล็กกระแทกกันก็ดังขึ้นกะทันหัน เห็นเพียงกรีซอาถรรพ์ที่เจียงจ้านทิ่มแทงตรงมา ถูกกระแทกจนกระเด็นออกไปโดยตรง 

“ผู้ใด?”

สีหน้าของเจียงจ้านและพวกไป๋หลี่เย่ต่างเปลี่ยนไปมาก

ใบหน้าของลี่เฉินก็เปี่ยมล้นไปด้วยความตะลึงงัน ถึงแม้เขาจะไม่เห็นว่าผู้ใดเป็นคนช่วยชีวิตตนเอาไว้ แต่กลับจำของอาถรรพ์ที่พุ่งชนเข้ากับกรีซอาถรรพ์ของเจียงจ้านจนกระเด็นออกไปได้ 

“ผู้คนในโลกบู๊โบราณนี่ล้วนจองหองพองขนเช่นนี้กันหมดเลยหรือ?”

และในตอนนี้ จู่ ๆ ก็มีเสียงที่เย็นชาถึงขั้นสุดเสียงหนึ่งดังก้องกังวานไปทั่วทั้งยอดเมฆา

ทันใดนั้นเอง พลังอำนาจวิถีบู๊อันน่าสยดสยองพลังหนึ่งก็ย่างกรายมาถึง แผ่คลุมร่างไป๋หลี่เย่และเจียงจ้าน รวมไปถึงฆฆทั้งสามคนโดยตรง

“แดนนภา!”

ใบหน้าของทั้งสามคนขาวซีดถึงขั้นสุด

เมื่อฟังจากคำพูดของฝ่ายตรงข้ามแล้ว สามารถคาดการณ์ได้ไม่ยากเลยว่าฝ่ายตรงข้ามเป็นคนในโลกมนุษย์

ความแข็งแกร่งของลี่เฉินทำให้พวกเขารู้สึกช็อกมากถึงมากที่สุดแล้ว บัดนี้กลับมีผู้แข็งแกร่งแดนนภาในโลกมนุษย์ปรากฏอีกคนหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นผู้ที่มีศักยภาพความสามารถแข็งแกร่งกว่าลี่เฉินอีกด้วย 

“พี่หยาง!”

เมื่อเฝิงเสียวหว่านได้ยินเสียงที่คุ้นเคยนี้แล้ว น้ำตานางก็พรั่งพรูลงมาดุจสายฝนในทันที

ในเวลานี้เอง มีเงาร่างที่คุ้นเคยร่างหนึ่งจุติลงมาจากสวรรค์ ปรากฏอยู่ตรงหน้าเฝิงเสียวหว่าน

“เสียวหว่าน ทำเจ้าลำบากไปด้วยเลยนะ!”

หยางเฉินมองหน้าเฝิงเสียวหว่านด้วยใบหน้าที่เปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึกผิด

เฝิงเสียวหว่านกลั้นน้ำตาไว้ เช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้าพลางส่ายหน้าสุดชีวิต แล้วพูดอย่างสะอึกสะอื้นว่า: “พี่หยาง ข้าไม่เป็นอะไร!”

หยางเฉินพยักหน้าเบา ๆ จากนั้นสายตาเขาก็ร่วงลงบนตัวลี่เฉิน

วินาทีนี้ ทั่วทั้งร่างกายของลี่เฉินล้วนเต็มไปด้วยบาดแผล ในที่สุดเขาก็ดึงสติกลับมาจากความรู้สึกช็อกในเมื่อครู่นี้ได้แล้ว

เขามองหน้าหยางเฉิน อดกลั้นความรู้สึกช็อกในใจไว้พลางเอ่ยปากพูด: “นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าเจ้าจะฟื้นฟูได้รวดเร็วเช่นนี้ ศักยภาพของเจ้าแข็งแกร่งกว่าเดิมแล้ว!”

ก่อนเขาจะออกจากภูเขามาร หยางเฉินยังเป็นคนพิการที่ไม่สามารถฝึกตนได้อยู่เลย สาเหตุที่เขาจะมารับตัวเฝิงเสียวหว่านที่ยอดเมฆานั้น ก็เป็นเพราะจะให้เฝิงเสียวหว่านไปรักษาตัวให้หยางเฉิน กลับนึกไม่ถึงเลยว่าเขาเพิ่งมาถึงยอดเมฆา หยางเฉินก็มาแล้วเช่นกัน 

ดูจากกระบวนท่าที่หยางเฉินปากริชอาถรรพ์กระแทกกริชอาถรรพ์ที่อยู่ในมือเจียงจ้านจนกระเด็นออกไปในเมื่อครู่นี้ ก็สามารถยืนยันได้แล้วว่าผลการฝึกตนของหยางเฉินไม่เพียงฟื้นฟูกลับมาแล้ว ศักยภาพยังแข็งแกร่งมากกว่าอดีตด้วย

ไป๋หลี่เย่และพวกเจียงจ้านเป็นผู้ที่รู้สึกช็อกมากที่สุด เดิมทีพวกเขาคิดว่าผู้ที่ย่างกรายมาถึงนั้นเป็นปีศาจเฒ่าที่ซ่อนเร้นอยู่ในโลกมนุษย์ แต่กลับนึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นชายที่ยังหนุ่มขนาดนี้

เจียงจ้านที่อยู่ในกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น หลังใช้วิชาลับสามารถระเบิดศักยภาพที่เทียบเท่ากับผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นออกมาได้ ทว่ากริชอาถรรพ์ที่เจียงจ้านทิ่มแทงไปทางลี่เฉิน กลับถูกกริชอาถรรพ์ที่หยางเฉินปาออกมาอย่างสบาย ๆ กระแทกจนกระเด็นออกไป เท่านี้ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าศักยภาพของหยางเฉินอยู่เหนือเจียงจ้านแล้ว

เช่นนี้ก็หมายความว่าศักยภาพของหยางเฉินบรรลุถึงแดนนภาแล้วสิ? 

แต่ประเด็นคือสภาพภายนอกของหยางเฉินดูแล้วอายุยังไม่ถึง 30 ปีเลย มาตรแม้นว่าอยู่ในโลกบู๊โบราณ ก็ไม่มีผู้แข็งแกร่งแดนนภาที่หนุ่มขนาดนี้!

“เจ้าคือหยางเฉิน!”

จู่ ๆ ไป๋หลี่เย่ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ก่อนเขาจะพูดด้วยใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความช็อก

เมื่อได้ยินคำพูดของเขา สีหน้าของเจียงจ้านก็เปลี่ยนไปมาก เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเขาก็รู้จักชื่อหยางเฉินนี้อยู่

เพราะถึงอย่างไรก็มีชีวิตหลายชีวิตของสายเลือดตระกูลเจียงสูญสิ้นอยู่ในเงื้อมมือหยางเฉินแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War