เสียงดังกล่าวดังขึ้นมาในสมองหยางเฉิน นอกเหนือจากหยางเฉินแล้ว ผู้อื่นไม่ได้ยินแต่อย่างใด
“ผู้อาวุโส พูดจริงหรือ?”
หยางเฉินมีความสุขขึ้นมาในทันที ก่อนที่เขาจะรีบถามในใจ
เขาเกือบลืมไปแล้วว่าจิตวิญญาณของเทพมารสามารถอาศัยร่างผู้อื่นเพื่อมาต่อสู้ได้
เขาและจิตวิญญาณเทพมารบรรลุข้อตกลงกันแล้ว อนุญาตให้จิตวิญญาณของเทพมารสถิตอยู่ในร่างตัวเองต่อ แต่ทว่าเมื่อตกอยู่ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย เทพมารจำเป็นต้องลงมือช่วยเหลือตน
เสียงของเทพมารดังขึ้นต่อเนื่อง: “ข้านั้นเป็นเทพมารผู้สง่าผ่าเผย จะโกหกเด็กกะโปโลคนหนึ่งได้อย่างไร? ร่างกายในปัจจุบันของเจ้าถูกหลอมสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ซึ่งแข็งแกร่งกว่าอดีตมาก ๆ ต่อให้เป็นระดับความแข็งแกร่งด้านเนื้อหนังของผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสองที่แท้จริง ก็ใช่ว่าจะสามารถเทียบเคียงกับเจ้าได้เสมอไป”
“ระดับความแข็งแกร่งของเนื้อหนังเจ้ายิ่งแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ ศักยภาพที่ปะทุออกมาเมื่อข้าอาศัยร่างเจ้าก็จะทรงพลังมากเท่านั้น เจ้าถือซะว่านี่เป็นโอกาสที่ฝ่าฟันภัยความเป็นความตายครั้งหนึ่งก็แล้วกัน ต่อสู้ให้ถึงที่สุด หากถึงช่วงเวลาที่ส่งผลถึงความเป็นความตาย ข้าจะลงมือช่วยเจ้าเอง”
เมื่อได้ยินคำพูดของเทพมารแล้ว ในที่สุดหยางเฉินก็วางใจลงได้สักที
เมื่อครู่เขาเตรียมใจที่จะพาเฝิงเสียวหว่านมุ่งหน้าไปยังตระกูลเจียงในโลกบู๊โบราณล่างแล้ว เพราะถึงอย่างไรศักยภาพของตัวเขาเองก็มีไม่มากพอ ปัจจุบันเฝิงเสียวหว่านก็กินยาพิษเข้าไปอีก หากไม่สามารถจบศึกการต่อสู้ในครั้งนี้ภายในเวลาสิบนาที พิษที่อยู่ในตัวเฝิงเสียวหว่านก็จะออกฤทธิ์และนางก็จะเสียชีวิตไปในที่สุด
บัดนี้เมื่อมีการรับประกันจากจิตวิญญาณของเทพมาร เขาจึงสามารถสู้ให้ถึงที่สุดได้แล้ว
เจียงเผิงยังไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งที่น่าสยดสยองมากเพียงใด เขากำลังจ้องเขม็งไปทางเฝิงเสียวหว่านอย่างเยือกเย็นพลางพูดว่า: “หากเจ้ากล้าตาย ข้าไม่เพียงจะฆ่าหยางเฉินเท่านั้น แต่จะฆ่าทุกคนที่มีความเกี่ยวข้องกับเจ้า!”
ดวงตาทั้งสองข้างของเฝิงเสียวหว่านแดงเถือก นางไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าสักวันตนก็จะทำให้ผู้บริสุทธิ์เดือดร้อนไปด้วย
นางกัดฟันแน่นพลางจ้องเขม็งไปทางเจียงเผิง บนใบหน้าที่งดงามอย่างไร้ที่ตินั่นเปี่ยมล้นไปด้วยรังสีแห่งความไม่ยอม
หลังจากพูดจบ เจียงเผิงก็มองไปทางหยางเฉินอีกครั้งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา: “เจ้าเข้าใจดีมาก ๆ ว่าระหว่างเรานั้นแตกต่างกันมากเพียงใด การที่จะช่วยเฝิงเสียวหว่านไปจากเงื้อมมือข้านั้น เป็นเรื่องที่แทบจะไม่มีหวังเลย”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไปตระกูลเจียงพร้อมกับข้าแต่โดยดีเสียเถอะ หลังจากเข้าร่วมตระกูลเจียงแล้ว ตระกูลเจียงไม่มีทางปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมต่อเจ้าแน่นอน อนาคต ผู้อาวุโสสี่แห่งตระกูลเจียงก็จะถ่ายทอดต่อให้เจ้าเช่นกัน”
หยางเฉินไม่ได้สนใจเจียงเผิง เห็นเพียงดวงตาทั้งสองข้างของเขาค่อย ๆ กลายเป็นสีแดงเลือด พลังที่เหมือนมาจากสมัยดึกดำบรรพ์ตื่นขึ้นมาในร่างเขา
“โครมโครมโครม!”
แผ่นดินใหญ่สั่นสะเทือนขึ้น
ลมปราณที่ทำให้คนรู้สึกหวาดผวาแผ่กระจายออกมาจากตัวหยางเฉิน แผ่คลุมไปทั่วทั้งยอดเมฆา
ใบหน้าของไป๋หลี่เย่และเจียงจ้านเต็มไปด้วยความเฉื่อยชา
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”
ไป๋หลี่เย่พูดอย่างตะลึง: “เห็น ๆ อยู่ว่าแดนบูโดของเขายังไม่บรรลุสู่แดนนภา เหตุใดถึงสามารถระเบิดพลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้ออกมาได้?”
เจียงจ้านก็พูดอย่างช็อกว่า: “มาตรแม้นว่าเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นยอด ก็ใช่ว่าจะสามารถระเบิดพลังอำนาจที่น่าเกรงขามเช่นนี้ออกมาได้เสมอไปหรือเปล่า?”
วินาทีนี้ ลมปราณที่แผ่กระจายออกมาจากตัวหยางเฉินอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทุกคนต่างสัมผัสได้ถึงแรงกดดัน
บนใบหน้าของเจียงเผิงที่ดูถูกดูแคลนหยางเฉินในตอนแรก ก็มีรังสีแห่งความตึงเครียดปรากฏขึ้นมาเช่นกัน
ศักยภาพของเขาอยู่ที่แดนนภาขั้นสองชั้นกลาง เขาจึงต้องทราบเป็นธรรมดาอยู่แล้วว่าพลังที่ระเบิดออกมาจากตัวหยางเฉิน ณ บัดนี้มันทรงพลังมากเพียงใด
เหมือนดั่งที่เจียงจ้านกล่าวมา มาตรแม้นว่าเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นยอด ก็ใช่ว่าจะสามารถระเบิดพลังอำนาจที่น่าเกรงขามเช่นนี้ออกมาได้เสมอไป
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผิดปกติมาก ๆ
เจียงเผิงไม่เคยพบเจอคนประเภทนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ
“โลกมนุษย์ ไม่ใช่ที่ที่เจ้าสามารถทำตัวป่าเถื่อนได้!”
หยางเฉินกัดฟันแน่นพลางพูด: “อยากจะพาผู้คนที่อยู่รอบกายข้าไป ก็ผ่านด่านข้าไปให้ได้ก่อน!”
“ตู้ม!”
จากการคำรามของหยางเฉิน ก็มีพลังที่น่าสยดสยองมากกว่าระเบิดออกมาจากร่างกายเขา เสียงตู้มดังลั่นขึ้น ตำแหน่งที่เขายืนอยู่ถูกระเบิดจนกลายเป็นฝุ่นผง
เจียงเผิงจ้องเขม็งไปทางหยางเฉินพลางพูด: “บูโดอัจฉริยะที่ตายอยู่ในเงื้อมมือข้านั้นมีเยอะมาก! อย่าคิดว่าเจ้าสามารถระเบิดศักยภาพที่เทียบเท่ากับแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นยอดออกมาได้ แล้วเจ้าจะสามารถโค่นล้มข้าได้ ข้ามีศักยภาพแดนนภาขั้นสองชั้นกลางเชียวนะ การที่จะฆ่าเจ้านั้นมันไม่ต่างอะไรจากการฆ่าหมาตัวหนึ่งเลย!”
“ฆ่า!”
หยางเฉินตะคอกเสียงดังลั่น เท้าที่เหยียบอยู่บนพื้นขยับ ก่อนจะพุ่งตรงเข้าไปทางเจียงเผิงโดยตรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...