ในบรรดาผู้แข็งแกร่งจากพันธมิตรพิทักษ์ทั้งสิบคนนี้ ยังมีเงาร่างที่คุ้นเคยอีกร่างหนึ่ง ซึ่งก็คือซือคงที่เคยมีเรื่องกับหยางเฉินครั้นเมื่ออยู่ในสำนักมารบนภูเขามารนั่นเอง
“ผู้อาวุโสสาม จิตวิญญาณของเทพมารอยู่ในร่างกายมัน ก่อนหน้านี้ครั้นเมื่ออยู่ในสำนักมารบนภูเขามารแห่งโลกมนุษย์ ตัวการสำคัญที่ทำให้ม่านพลังแตกร้าวก็คือมัน!”
ซือคงใช้นิ้วชี้มาทางหยางเฉินพลางพูดด้วยใบหน้าที่เปี่ยมล้นไปด้วยความพิโรธ
ผู้ที่ซือคงเรียกแทนว่าผู้อาวุโสสามนั้น ต้องเป็นผู้อาวุโสสามของสหภาพพันธมิตรพิทักษ์ในโลกบู๊โบราณล่างอยู่แล้ว
ผู้อาวุโสสามจากสหภาพพันธมิตรพิทักษ์พูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น: “ข้าไม่สนว่าเจ้าจะเป็นหยางเฉิน หรือจิตวิญญาณของเทพมารกำลังยึดครองเนื้อหนังร่างนี้ วันนี้ พวกเจ้าต้องตาย!”
พลังอำนาจที่น่าสยดสยองแผ่คลุมร่างหยางเฉินเอาไว้
หยางเฉินหลุดหัวเราะออกมา: “เป็นเพียงมดตัวจ้อยแดนนภาขั้นสามชั้นต้นกระจอก ๆ ก็บังอาจวิจารณ์อย่างโอหังต่อหน้าข้าอย่างนั้นหรือ? อย่าว่าแต่มดตัวจ้อยอย่างพวกเจ้าเลย ต่อให้เป็นหัวหน้าสมาคมพันธมิตรพิทักษ์ ข้าก็ไม่นำมันมาไว้ในสายตา”
ผู้อาวุโสสามจากสหภาพพันธมิตรพิทักษ์โกรธเกรี้ยวขึ้นมาในทันที ก่อนจะตะคอกเสียงดังลั่น: “สามหาว! บังอาจสบประมาทเหยียดหยามหัวหน้าสมาคมพันธมิตรพิทักษ์ของข้า เพิ่งบทลงโทษอีกหนึ่งขั้น เป็นโทษประหาร!”
หยางเฉินตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา: “อย่าพูดคำพูดไร้สาระให้มันมากนัก หากจะสู้ก็สู้ซะ ข้าจักอยู่จนสุดทางเอง!”
พอสิ้นเสียง ออร่าบู๊ที่เข้มแข็งและยิ่งใหญ่ก็ระเบิดออกมาจากร่างเขา พุ่งตรงไปทางผู้อาวุโสสามจากสหภาพพันธมิตรพิทักษ์โดยตรง
แต่ทว่าพลังออร่าของฝ่ายตรงข้ามคือแดนนภาขั้นสามชั้นต้น ส่วนหยางเฉินกลับระเบิดพลังออร่าของแดนนภาขั้นสองชั้นต้นออกมาเท่านั้น
ซึ่งห่างกันหนึ่งแดนบูโดใหญ่
“หึ!”
หลังจากผู้อาวุโสสามจากสหภาพพันธมิตรพิทักษ์สัมผัสได้ถึงลมปราณบนร่างกายหยางเฉินแล้ว เขาก็หัวเราะอย่างเย็นเยือก: “มาตรแม้นว่าอดีตเทพมารอย่างเจ้าจะรุ่งโรจน์มากเพียงใด ปัจจุบันก็ทำได้เพียงใช้จิตวิญญาณสถิตอยู่ในร่างมนุษย์ในโลกมนุษย์มิใช่หรือ? แค่ศักยภาพแดนนภาขั้นสองชั้นต้น ก็คิดที่จะสู้กับข้าสิงจี๋อย่างนั้นหรือ? คุณสมบัติของเจ้าน่ะยังมีไม่เพียงพอ!”
หลังจากพูดจบ สิงจี๋ก็กำชับต่อคู่แข่งที่มีศักยภาพแดนนภาขั้นสองชั้นต้นที่อยู่ข้าง ๆ ว่า: “เหล่าเฉิน เจ้าลุยเลย!”
“ขอรับ!”
เหล่าเฉินเดินออกมาจากกลุ่มคน
เวลานี้ ก็มีลมปราณอันน่าสยดสยองของผู้แข็งแกร่งย่างกรายมาถึงอีกหลายร่าง ทุกคนล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภา ผู้แข็งแกร่งที่เป็นผู้นำยิ่งมีศักยภาพอยู่ที่แดนนภาขั้นสามชั้นต้น
“ปรมาจารย์กู่ ท่านมาแล้วหรือ!”
เมื่อเห็นคนกลุ่มนี้ สิงจี๋จึงรีบเดินเข้าไปพูดกับผู้แข็งแกร่งที่เป็นผู้นำ ภายในน้ำเสียงมีความเคารพนอบน้อมปนอยู่เล็กน้อย
ในโลกบู๊โบราณ ตำแหน่งของปรมาจารย์ค่ายกลนั้นสูงมาก ๆ โดยเฉพาะปรมาจารย์กู่ที่อยู่ตรงหน้านี้ เขาเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามชั้นต้นคนหนึ่งตั้งแต่แรกอยู่แล้ว อีกทั้งยังเป็นปรมาจารย์ค่ายกลคนหนึ่งด้วย ตำแหน่งของเขาที่อยู่ในโลกบู๊โบราณล่างจึงสูงมาก ๆ
ปรมาจารย์กู่ผงกหัวเบา ๆ แล้วเอ่ยปากพูด: “ผู้อาวุโสสาม ข้าได้เรียกปรมาจารย์ค่ายกลที่มีศักยภาพตั้งแต่แดนนภาขั้นสองชั้นต้นมารวมตัวกันหมดแล้ว”
สิงจี๋พยักหน้า แล้วแหงนหน้าขึ้นไปมองรอยร้าวม่านพลังที่ขยายใหญ่จนกว้างกว่าสองพันตารางเมตรบนนภา พลางพูดด้วยใบหน้าที่ตึงเครียด: “ปรมาจารย์กู่ เรื่องการซ่อมแซมม่านพลังนั้น ฝากท่านจัดการต่อด้วยนะขอรับ!”
ใบหน้าของปรมาจารย์กู่เต็มไปด้วยความกดดัน เขาเอ่ยปากตอบกลับ: “ข้ายังไม่เคยซ่อมแซมรอยร้าวม่านพลังที่กว้างใหญ่เช่นนี้มาก่อน คงทำได้เพียงทุ่มสุดกำลังสามารถ ทางที่ดียังต้องขอให้ผู้อาวุโสสามเตรียมใจไว้ด้วยจะดีกว่า”
เมื่อได้ยินคำพูดของปรมาจารย์กู่แล้ว สภาพจิตใจของสิงจี๋ก็ดิ่งลงไปในทันที
ในโลกบู๊โบราณล่าง ปรมาจารย์กู่เป็นปรมาจารย์ค่ายกลที่เก่งกาจมากที่สุด หากแม้กระทั่งปรมาจารย์กู่ยังไม่สามารถซ่อมแซมม่านพลังนี้ได้ เกรงว่าโลกบู๊โบราณล่างและโลกมนุษย์คงจะผสมรวมกันเป็นหนึ่งโดยสิ้นเชิงจริง ๆ
สิงจี๋ตอบกลับ: “เช่นนั้นก็ฝากฝังให้ปรมาจารย์กู่ด้วยนะขอรับ!”
ปรมาจารย์กู่พยักหน้าเบา ๆ จากนั้นเขาก็โบกมือทีหนึ่งแล้วออกมาคำสั่ง: “จัดวางค่ายกล!”
ภายในเวลาชั่วพริบตา ปรมาจารย์ค่ายกลที่มีศักยภาพตั้งแต่แดนนภาขั้นสองชั้นต้นสิบกว่าคนก็เริ่มจัดวางค่ายกล วางแผนที่จะซ่อมแซมรอยร้าวม่านพลัง
ดวงตาอันเฉียบคมของสิงจี๋กำลังจ้องเขม็งไปทางหยางเฉิน พลางกัดฟันพลางพูด: “วันนี้ข้าจะใช้ชีวิตของเทพมารอย่างเจ้า มาชดใช้ม่านพลังที่แตกร้าว จนส่งผลให้โลกบู๊โบราณล่างได้รับความเสียหายอย่างมากเพราะเจ้า”
หลังจากพูดจบ เขาก็โบกมือทีหนึ่งแล้วตะคอกเสียงดัง: “ลงมือ!”
เท้าของเหล่าเฉินขยับ ก่อนจะพุ่งตรงไปทางหยางเฉินภายในเสี้ยววินาที
“ฆ่า!”
เหล่าเฉินตะคอกเสียงดัง ง้างมือขึ้นแล้วโจมตีไปทางหยางเฉิน
หยางเฉินทำเสียงหึอย่างเยือกเย็น มองดูเหล่าเฉินที่พุ่งมาฆ่าตนด้วยใบหน้าที่เหยียดหยาม พลางพูดอย่างสบาย ๆ ว่า: “เพิ่มสิบเท่า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...