The king of War นิยาย บท 2114

สรุปบท บทที่ 2114 เกินไปมากหรือ: The king of War

อ่านสรุป บทที่ 2114 เกินไปมากหรือ จาก The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง

บทที่ บทที่ 2114 เกินไปมากหรือ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต The king of War ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

หยางเฉินก็มองออกตั้งแต่เมื่อก่อนหน้านี้แล้ว มือผีไม่ใช่ลูกหลานตระกูลฉี แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ

ยิ่งกว่านั้นขนาดมาถึงจงโจว รอบตัวมือผี ยังมีลูกหลานตระกูลฉีเฝ้ามองอยู่

เผชิญกับการซักถามของมือผี ผู้แข็งแกร่งลูกหลานตระกูลฉีคนนั้น สีหน้าอึมครึมลงไปเต็มที่ ดูเหมือนเขาไม่อยากต้องปะทะกับมือผี กลับจ้องมาที่หยางเฉิงด้วยสายตาหนาวเยือกพูดว่า “ไอ้เด็กน้อย แกอย่ามาเล่นลูกเล่นต่อหน้าข้า แกตอนนี้มีทางรอดชีวิตได้ทางเดียว นั่นก็คือตามพวกข้าไปตระกูลบู๊โบราณตระกูลฉี”

หยางเฉินหยีตามองฝ่ายตรงข้าม ถามไปเสียงเหยียด ๆ “ถ้าข้าไม่ไปล่ะ?”

ในขณะที่พูด พลังบูโดที่บ้าระห่ำกระแสหนึ่ง แผ่คลุมตัวเขาออกมาจากภายในตัว

หากแม้ฝ่ายตรงข้ามลงมือ เขาจะต้องระเบิดกำลังของเขาทั้งหมดออกไปก่อนในเวลานั้น อีกทั้งใช้กระบี่โอรสสวรรค์ มารับมือกับผู้แข็งแกร่งลูกหลานตระกูลฉีนายนี้ ด้วยพลังจู่โจมที่ร้ายแรงที่สุด

ตอนที่เขาอยู่ที่ชั้นบนสุดของโรงแรมจงโจว มีผลการต่อสู้เป็นที่ฮือฮากันอยู่ แต่ที่เห็นอยู่นี้ เขาจะต้องรับมือกับกลุ่มผู้แข็งแกร่งตระกูลฉี กลุ่มกำลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้ ไม่ได้ด้อยกว่ากลุ่มผู้แข็งแกร่งของตระกูลบู๊โบราณ เมื่อตอนที่อยู่บนโรงแรมจงโจวนั้นเลย อีกทั้งน่าจะแข็งแกร่งกว่าด้วย

ผู้แข็งแกร่งกลุ่มลูกหลานตระกูลฉีที่อยู่เบื้องหน้านี้ก็ดี หรือมือผีก็ดี ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งที่ก้าวเข้าไปในแดนนภาขั้นสามชั้นต้นกันแล้วทั้งนั้นขภ ถ้าหากในการศึกบนชั้นสุดโรงแรมจงโจวในครั้งนั้น เป็นพวกเขาคนใดคนหนึ่ง ถึงแม้ผลการต่อสู้จะทำไม่ได้เหมือนหยางเฉิน แต่ก็คงต่างกันไม่น่าจะมากนัก

ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากผู้แข็งแกร่งเทียบระดับแดนนภาขั้นสามชั้นต้นทั้งสองนั้นแล้ว รอบข้างยังมีกลุ่มผู้แข็งแกร่งตระกูลฉีอีก ถ้าเมื่อไหร่ได้ร่วมมือกันลงมือจัดการกับหยางเฉิน หยางเฉินก็จะต้องต่อสู้ด้วยอย่างสุดฤทธิ์ จึงจะมีทางรอด

ผู้แข็งแกร่งจากตระกูลฉีที่อยู่โดยรอบ ต่างก็เปล่งออร่าบู๊ออกมา เตรียมพร้อมลงมือได้ในทันที

ศึกครั้งใหญ่ระเบิดขึ้นได้ทันทีแค่เพียงสะกิด!

ในขณะนั้นเอง มือผีก้าวขึ้นหน้ามา ตวาดใส่หน้าผู้แข็งแกร่งตระกูลฉีไปอย่างเกรี้ยวกราด “ฉีเหลียง พอเสียที!”

บนหน้ามือผีเต็มไปด้วยความโกรธ จ้องอย่างเอาเป็นเอาตายไปที่ฉีเหลียงพูดไปว่า “แกฟังข้าให้ดี ๆ นะ ข้าไม่ใช่คนของตระกูลฉี ระหว่างข้ากับตระกูลฉีก็แค่เพียงพันธะในการร่วมมือกันเท่านั้น สำหรับแก ยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะมาจำกัดความเป็นส่วนตัวของข้า”

ฉีเหลียงคงยังไม่ใส่ใจกับมือผี จ้องเขม็งอยู่ที่หยางเฉิน ในแววตาเต็มไปด้วยการประกาศเตือน เหมือนบอกว่า ถ้าแกขืนกล้าเล่นลูกเล่น ข้าจะทำให้แกต้องเสียใจเป็นแน่

ถึงยังไงฌญ ฉีเหลียงก็ยังไม่ได้ลงมือ

มือผีจึงได้มองไปที่หยางเฉินพูดว่า “แกตามข้ามา!”

หยางเฉินเดินตามมือผี มาถึงบริเวณโล่งกว้างที่อยู่ข้างหน้านั้นอย่างรวดเร็ว

แน่ใจว่าห่างพอที่คนอื่นฟังไม่ได้ยินแล้ว มือผีจึงพูดขึ้นว่า “ไอ้หนู ถ้าหากแกคิดจะขอให้ข้าหักหลังตระกูลฉี ข้าบอกแกได้เลยว่า แกไม่ต้องพูด ให้ดีแกคิดให้ชัดเจนก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะพูดอะไรกับข้า”

หยางเฉินหัวเราะ เอ่ยปากพูดไปว่า “ถ้าผมทายไม่ผิด พลังฝีมือบูโดในแดนนภาขั้นสองชั้นยอดของท่านผู้อาวุโส คงจะมีมาหลายปีแล้วสินะ?”

มือผีขมวดคิ้ว แต่ยังคงพูดไปว่า “ในโลกบู๊โบราณล่าง นักบูโดโดยส่วนมาก เข้ามาในแดนบูโดถึงแดนนภาขั้นสองชั้นยอดแล้ว แทบจะทั้งชั่วชีวิต ล้วนแต่ไม่มีใครทะลวงผ่านเข้าไปแดนนภาขั้นสามได้ เป็นเรื่องปกติมาก”

หยางเฉินพูดต่อไปว่า “แต่ถ้าหากจะพูดว่า จากแดนบูโดเข้าไปถึงแดนนภาขั้นสองชั้นยอดแล้ว ได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในจุดตันเถียน มีโรคแทรกหละ?”

พูดคำนี้ออกมา สีหน้าของมือผีเปลี่ยนไปในฉับพลัน

ถึงแม้เพียงแค่ชั่วแวบเดียว แต่ก็ยังถูกหยางเฉินที่เตรียมจ้องอยู่แล้วจับไว้ได้

ชัดเจน เป็นอย่างที่ตัวเองเดาไว้ไม่มีผิด ในจุดตันเถียนของมือผีมีโรคแทรก หยางเฉินคิดอยู่ในใจ

หยางเฉินหัวเราะออกมาเบา ๆ “ประมาณครึ่งปีก่อนหน้านี้ มีผู้อาวุโสโลกมนุษย์ท่านหนึ่ง จุดตันเถียนถูกทำลาย พลังบูโดที่มีอยู่สูญสลายไปหมด แต่หลังจากนั้น จุดตันเถียนของเขารับการรักษาจนฟื้นคืนสภาพปกติ”

“จริงหรือ?”

คำพูดประโยคเดียวนี้ ทำเอามือผีตื่นเต้นขึ้นมาอย่างที่สุด จ้องเขม็งอยู่ที่หยางเฉินแล้วถาม

หยางเฉินผงกหัว “ด้วยความสามารถของท่านผู้อาวุโสเอง คงจะหาได้อย่างง่ายดาย ที่ผมบอกท่านได้ก็คือ ผู้อาวุโสที่ผมพูดถึงท่านนี้ อยู่ที่ที่เรียกว่าซ่านเฉิงในโลกมนุษย์ และผู้อาวุโสท่านนี้ ก็อยู่ในจวนเจ้าเมืองของซ่านเฉิง คนเขาเรียกกันว่าเงาเพชรฆาต”

แววตาที่ร้อนรุ่มของมือผีจ้องอยู่ที่หยางเฉิน พูดว่า “เพียงขอให้รักษาโรคแทรกในจุดตันเถียนของข้าได้ ข้ารับปากแกได้ทุกเรื่อง!รวมทั้งให้รับมือกับตระกูลฉีแห่งโลกบู๊โบราณล่างนี้ด้วย!”

เขาถึงขนาดไม่มีความคิดที่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ ก็ยอมเชื่อหยางเฉิน

หยางเฉินก็แค่ต้องการคำพูดคำนี้ของมือผีนี่เอง เขายิ้ม ๆ “ผมขอรับรอง จะรักษาโรคแทรกในจุดตันเถียนของท่านได้ สำหรับผมนั้นก็ไม่ต้องการให้ท่านผู้อาวุโสทำอะไรที่เกินไปให้กับผม เพียงขอให้ท่านผู้อาวุโสยินยอมติดตามอยู่ข้างกับผม ในช่วงก่อนที่ผมจะบรรลุถึงพลังฝีมือแดนนภาขั้นสามชั้นยอด ก็เพียงแค่เท่านี้พอ”

มือผีคิ้วย่นขึ้นมาในฉับพลัน พูดไปด้วยสีหน้าไม่พอใจว่า “เจ้าคิดจะควบคุมข้าไว้ตลอดชีวิตเลยหรือไง?”

หยางเฉินพูดว่า “เมื่อเจ็ดปีก่อน ผมเป็นคนธรรมดา ๆ ที่ไม่มีแม้แต่พื้นฐานบูโดใด ๆ และมาในหนึ่งปีก่อนหน้านี้ ผมก็แค่ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นต้น แต่มาตอนนี้ พลังฝีมือบูโดของผมก้าวขึ้นมาถึงแดนนภาขั้นหนึ่ง แต่ยังมีพลังต่อสู้เทียบได้ถึงแดนนภาขั้นสามชั้นต้นแล้ว”

“ผมไม่ได้ต้องการให้มีพลังฝีมือถึงแดนนภาขั้นสามชั้นยอด ขอเพียงให้พลังฝีมือเทียบได้กับผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามชั้นยอด ท่านผู้อาวุโสก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรใด ๆ ให้ผมแล้ว”

ส่วนผมภบ กลับจะหาคนใช้เวลาไม่กี่วัน ก็จะทำให้สำเร็จในสิ่งที่นับสิบปีมาแล้วตระกูลฉียังไม่สามารถทำให้ท่านผู้อาวุโสได้ หรือท่านผู้อาวุโสเห็นว่า สิ่งที่ผมขอร้องนี้ เกินไปมากหรือ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War