“ยาสำเร็จแล้ว!”
ทุกคนต่างมีสีหน้าตื่นเต้นมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักบู๊ที่มาจากโลกบู๊โบราณล่าง แต่ละคนแววตาลุกเป็นไฟ จ้องมองหยางเฉินใส่ยาสามเม็ดลงในขวดหยก
“ขอเรียนถามผู้อาวุโสสี่ ยานี้อยู่ในระดับไหน?”
ในเวลานี้ผู้ฝึกตนคนหนึ่งที่มาจากโลกบู๊โบราณล่าง ถามเสียงสั่น
ในฐานะเป็นนักบูโดแห่งโลกบู๊โบราณล่าง นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นกับตาในกระบวนการกลั่นยา ขณะที่มองไปที่หยางเฉิน แววตาเต็มไปด้วยความนับถือ
นักบูโดผู้แข็งแกร่งที่อายุน้อยขนาดนี้ ขณะเดียวกันยังเป็นถึงนักปรุงยา จอมคนเช่นนี้ มองไปทั่วทั้งโลกบู๊โบราณล่าง ก็ไม่มีใครสามารถเทียบได้
หยางเฉินจ้องมองไปที่นักบูโดผู้ฝึกตนคนนั้นด้วยรอยยิ้ม และเพียงกวาดมองแวบเดียว เขาก็สัมผัสได้ถึงสถานการณ์ของอีกฝ่ายแล้ว
อีกฝ่ายดูแล้วอายุประมาณสี่สิบปี แต่เสื้อผ้าของเขาเรียบง่ายมาก เมื่อเทียบกับตระกูลโลกบู๊โบราณเหล่านั้น ดูแล้วยากจนจริงๆ เป็นผู้ฝึกตนโดยไม่ต้องสงสัย
และแดนบูโดของฝ่ายตรงข้าม ถึงกับเข้าสู่ระดับแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นกลางแล้ว
ในโลกบู๊โบราณล่าง นักบูโดในระดับแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นยอด แม้มีมากมาย แต่อายุประมาณสี่สิบปีแดนบูโดสามารถก้าวเข้าสู่แดนนภา กลับมีไม่มาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงผู้ฝึกตนที่อยู่ตรงหน้า ยังเป็นถึงนักบูโดแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นยอด
เนื่องจากในโลกบู๊โบราณได้ควบคุมทรัพยากรการบำเพ็ญทุกประเภท ผู้ฝึกตนในโลกบู๊โบราณล่าง เมื่อเทียบกับนักบูโดของโลกมนุษย์ เพียงแต่ในสภาพแวดล้อมที่ตั้งอยู่ ชี่ทิพย์เข้มข้นกว่าหลายเท่า
ผู้ฝึกตนก็ไม่สามารถรับทรัพยากรของการบำเพ็ญได้มากนัก ดังนั้น ในโลกบู๊โบราณล่าง หากผู้ฝึกตนต้องการพึ่งพาพรสวรรค์ด้านบูโด ภายในช่วงอายุสี่สิบปี ต้องยกระดับจากแดนไปสู่แดนนภา ก็ถือได้ว่าเป็นพรสวรรค์บูโด
เมื่อได้ยินคำถามของผู้ฝึกตนท่านนี้ คนอื่นๆต่างก็อยากรู้อยากเห็น อยากรู้ว่ายาที่หยางเฉินเพิ่งกลั่นเมื่อกี้นี้ อยู่ในระดับไหน
หยางเฉินยิ้มเล็กน้อย มองดูผู้ฝึกตนท่านนั้นแล้วถามว่า “ท่านอยู่ในระดับแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นยอดใช่ไหม? หากผมเดาไม่ผิด ท่านอยู่ในแดนนี้ น่าจะสามปีแล้วมั้ง”
ได้ยินเช่นนี้ ดวงตาของผู้ฝึกตนเต็มไปด้วยความตกตะลึง พูดว่า “ผู้อาวุโสสี่รู้ได้ยังไง?”
หากต้องการสำรวจแดนบูโดของคนอื่น มีเพียงสองวิธี วิธีแรกคือ แดนบูโดของตัวเองต้องเหนือกว่าแดนบูโดของฝ่ายตรงข้าม
วิธีที่สองก็คือ เมื่อตอนคู่ต่อสู้ริเริ่มปล่อยออร่าบู๊ จึงสามารถค้นหาได้นิดหน่อย แต่อาจไม่ถูกต้อง เนื่องจากคู่ต่อสู้อาจจงใจระงับความแข็งแกร่งไว้ก็ได้
แม้ว่าพลังของหยางเฉินจะแข็งแกร่งมาก ชาวโลกทุกคนก็รู้ว่าแดนบูโดของเขามีเพียงระดับแดนนภาขั้นหนึ่งเท่านั้น แต่จะเป็นชั้นต้นหรือชั้นกลางนั้นหรืออาจเป็นชั้นปลาย มีการคาดเดาที่หลากหลาย
แต่แดนบูโดของผู้ฝึกตนท่านนี้อยู่ในระดับแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นยอด เขาไม่เคยแสดงแดนบูโดออกมา แต่หยางเฉินก็สามารถมองได้ทันที
แค่คิดก็รู้ ในความตกตะลึงของทุกคน
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ หยางเฉินสามารถเดาออกได้ว่าระดับแดนบูโดของฝ่ายตรงข้ามอยู่ในระดับแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นยอดมากี่ปีแล้ว
หยางเฉินไม่ได้อธิบาย แต่หยิบขวดหยกออกมาด้วยรอยยิ้ม และโยนให้กับผู้ฝึกตนท่านนั้น
ผู้ฝึกตนรีบรับขวดหยก และตะลึงไปครู่หนึ่ง เขาเพิ่งเห็นด้วยตาตัวเอง ยาที่บรรจุอยู่ในขวดหยกนี้ เป็นยาหนึ่งในสามเม็ดที่หยางเฉินเพิ่งกลั่นออกมาเมื่อกี้
ผู้ฝึกตนถามอย่างระมัดระวัง “ผู้อาวุโสสี่ นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร?”
หยางเฉินจึงพูดขึ้นว่า “เมื่อสักครู่ที่ผมพึ่งกลั่นคือยาเสือมังกร ด้วยแดนบูโดของคุณ เมื่อทานเข้าไป ก็สามารถทะลวงไปสู่แดนนภาขั้นสองชั้นต้นทันที”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...