The king of War นิยาย บท 2155

ในขณะที่เวลาการต่อสู้นานขึ้นเรื่อยๆ ความกังวลของหยางเฉินก็มีมากขึ้นเรื่อย ๆ

เขาเพิ่งเปิดเผยตัวตนในฐานะนักปรุงยา และเขารีบด่วนที่จะสร้างแบรนด์ส่วนตัวของตัวเอง เพื่อสร้างทีมนักบูโดซึ่งมีผู้ฝึกตนในโลกบู๊โบราณล่างเป็นผู้ประกอบขึ้นมาโดยตลอด เพื่อรักษาระเบียบของโลกใหม่

เมื่อเขาพ่ายแพ้ให้กับลูกศิษย์ของซางหยุนเฟิง แล้วใช้สถานะนักปรุงยาเพื่อซื้อใจคน คงจะไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ เพราะยังไงผู้ฝึกตนเหล่านั้นก็เข้าใจดี ระดับแดนบูโดของหยางเฉินนั้นต่ำกว่าลูกศิษย์ของซางหยุนเฟิง

“ตูม!”

ในขณะนี้ คนใส่ชุดคลุมดำได้โจมตีอย่างหนักอีกครั้ง ซึ่งกระแทกเข้ากับหน้าอกของหยางเฉินอย่างแรง ทำให้หยางเฉินต้องถอยห่างออกหลายก้าว

เขารู้สึกว่าอวัยวะภายในของเขาเคลื่อนที่ ผู้ที่แข็งแกร่งในระดับแดนนภาขั้นสามชั้นกลางนั้น ทรงพลังจริงๆ

แต่ร่างกายของเขาได้ถูกสามสายเลือดเทพที่ยิ่งใหญ่เปลี่ยนแปลงมาแล้ว แม้ว่าความแข็งแกร่งจะเทียบกับคนใส่ชุดคลุมดำไม่ได้ แต่ความสามารถในการต้านรับการโจมตี เหนือกว่าผู้แข็งแกร่งที่ใส่ชุดคลุมดำ

“ท่านอาจารย์ หยางเฉินได้ต้านทานการโจมตีที่หนักหน่วงจากศิษย์พี่ใหญ่มาแล้วหลายครั้ง เหตุใดจึงยังมีพละกำลังที่จะต่อสู้อีก? แม้ว่าเขาจะบำเพ็ญวิธีลับในการบำเพญเซียนจริงๆ ความแข็งแกร่งของร่างกายก็ไม่น่าแข็งแกร่งเช่นนี้?”

ในความมืด มู่หรงเยียนเอ๋อร์ถามด้วยความประหลาดใจ

ตามความเข้าใจที่มีต่อศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเอง เมื่อสักครู่การโจมตีทุกครั้ง เป็นอันตรายถึงชีวิต ไม่ต้องพูดถึงผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในระดับแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นกลางเท่านั้น แม้แต่นักบูโดทั่วไปที่อยู่ในระดับแดนนภาขั้นสามชั้นกลาง ก็อาจต้านทานไม่ไหว

อย่างไรก็ตาม หยางเฉินยังคงฝืนต้านรับไว้ ราวกับว่าการโจมตีของคนใส่ชุดคลุมดำ ไม่ได้ทำร้ายและสร้างความเสียหายให้กับเขามากนัก

ใบหน้าของซางหยุนเฟิงเคร่งขรึมมาก เขาจ้องเขม็งไปยังทิศทางที่หยางเฉินอยู่ และพูดว่า “ต้องยอมรับว่า พรสวรรค์ด้านการต่อสู้ของเด็กคนนี้ยอดเยี่ยมมาก แม้แต่ความแข็งแกร่งทางเนื้อหนัง ก็แข็งแกร่งมาก ถ้าฉันเดาไม่ผิด เขายังได้ฝึกฝนวิชากลั่นร่างขั้นสูงสุด และความแข็งแกร่งทางเนื้อหนัง เทียบได้กับผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามชั้นยอด”

มู่หรงเยียนเอ๋อร์เปิดปากเล็กๆของเธอ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ พูดด้วยความประหลาดใจ “ท่านอาจารย์ ในเหตุการณ์นี้ มีคนที่สามารถยกระดับความแข็งแกร่งของเนื้อหนังจากระดับแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นกลางไปถึงระดับแดนนภาขั้นสามชั้นยอดจริงๆเหรอ? มันเหลือเชื่อเกินไปแล้วมั้ง?”

ซางหยุนเฟิงพูดว่า “เส้นทางเดินและจุดสิ้นสุดของบูโดคืออะไร คาดว่าคงไม่มีใครรู้”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ จู่ๆเขาก็มองไปที่มู่หรงเยียนเอ๋อร์ และพูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง “เยียนเอ๋อร์ เธอต้องจำไว้ให้ดี โลกใบนี้กว้างใหญ่มาก แม้แต่โลกบู๊โบราณบน กลางและล่างที่เรารู้จัก มันก็เป็นแค่เศษเสี้ยวของโลก”

“สักวันหนึ่ง ถ้าเธอสามารถยกระดับความแข็งแกร่งไปสู่ระดับแดนนภาขั้นเก้าชั้นยอด บางทีเธออาจจะรู้เรื่องราวและความลับมากขึ้น และถึงกับต้องการที่จะบุกทะลวงพันธนาการแดนนภาขั้นเก้าชั้นยอด”

“พรสวรรค์ด้านบู๊ของหยางเฉินนั้นแข็งแกร่งมาก แต่เธอต้องไม่ดูหมิ่นตัวเองเกินไป หนทางที่เธอจะเดินยังอีกยาวไกล หลังจากที่เธอไปยังโลกบู๊โบราณกลางแล้ว เธอก็จะได้พบกับคนหนุ่มสาวที่มีพรสวรรค์ด้านบู๊มากมายที่เหนือกว่าเธอ”

“เส้นทางเดินของบูโด นอกจากพรสวรรค์ด้านบูโดแล้ว ยังมีจุดที่สำคัญที่สุดอีกด้วย นั่นคือจิตใจแห่งเต๋าขอเพียงมีจิตใจแห่งเต๋าที่แน่วแน่เท่านั้น ถึงจะไปได้ไกลขึ้นเรื่อยๆ”

หลังจากฟังคำพูดของซางหยุนเฟิง สิ่งที่ไม่พอใจ ก็หายไปในทันที

มู่หรงเยียนเอ๋อร์ยิ้มกว้างด้วยความโล่งใจ ทันใดนั้นเธอก็หลับตาลง คำพูดของซางหยุนเฟิง ยังคงวนเวียนอยู่ในสมองของเธอ

ในไม่ช้า ออร่าที่ทรงพลังก็รวมตัวกันรอบๆตัวเธอ และชี่ทิพย์ที่เข้มข้นก็รวมตัวอย่างดุเดือดอยู่ภายในร่างกายของเธอ

รอยยิ้มอ่อนโยนปรากฏบนใบหน้าของซางหยุนเฟิง เขาพยักหน้าเล็กน้อย

ในชั่วพริบตา ออร่าบู๊ในร่างกายของมู่หรงเยียนเอ๋อร์ พุ่งขึ้นถึงขีดจำกัดของเธอ

“ตูม!”

ในวินาทีถัดมา สิ่งกีดขวางที่อยู่ในร่างกายของมู่หรงเหยียนเอ๋อร์ ก็ถูกทำลายทันที และชี่ทิพย์ในร่างกายของเธอก็เพิ่มขึ้นหลายเท่า

และแดนบูโดของเธอ จากระดับแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น บุกทะลวงไปถึงระดับแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นกลางได้สำเร็จ

“ท่านอาจารย์ ขอบคุณสำหรับคำสอนของท่าน!”

มู่หรงเยียนเอ๋อร์แสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้ง และคำนับขอบคุณ

ซางหยุนเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย และพูดด้วยใบหน้าที่พึงพอใจ “ลูกศิษย์ พรสวรรค์ด้านบูโดของเธอไม่อ่อน ขอเพียงยึดมั่นในจิตใจแห่งเต๋า สักวันหนึ่ง จะต้องเหนือกว่าอาจารย์!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War