เมื่อสัมผัสได้ถึงออร่าในร่างกายหยางเฉินที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หวีซู่เบิกตากว้าง เขาไม่สามารถยอมรับได้ว่า คนที่อยู่ในโลกมนุษย์ที่อายุน้อยกว่าตัวเอง จะมีพละกำลังที่ทรงพลังกว่าเขาเช่นนี้
ประเด็นสำคัญก็คือ เห็นได้ชัดว่าฝ่ายตรงข้ามมีเพียงระดับแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นกลางเท่านั้น แต่พลังการต่อสู้ของเขาเทียบได้กับระดับแดนนภาขั้นสามชั้นต้น
ในตอนนี้ หยางเฉินกำลังจะบุกทะลวงสู่แดนใหม่แล้ว หลังจากหยางเฉินบุกทะลวงแล้ว เขาจะแข็งแกร่งขนาดไหน?
ยิ่งคิด หวีซู่ยิ่งตกใจมากขึ้น เมื่อเขามองไปที่หยางเฉิน เจตนาฆ่าที่รุนแรงก็เปล่งประกายในดวงตาของเขา
“ไปตายซะ!”
เห็นเพียงร่างของหวีซู่กลายเป็นเงาดำทันที และพุ่งเข้าหาหยางเฉิน กระบี่ยาวในมือของเขา ไร้ความปราณี และฟันลงไปที่หยางเฉินอย่างดุเดือด
“ไม่!”
เมื่อเห็นฉากนี้ ทันใดนั้นหม่าชาวก็ตะคอกด้วยความโกรธ พลังมารที่น่าสะพรึงกลัว ก็ปะทุออกมาจากร่างกายของเขา
เขาไม่ลังเลแม้แต่น้อย ขยับเท้า และพุ่งเขเหาหวีซู่
รู้ทั้งรู้ว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหวีซู่แต่เขาก็ยังไม่ลังเลที่จะฆ่าหวีซู่
ซ่งจั่วกับซ่งโย่วสองพี่น้องก็โกรธเช่นกัน พวกเขาก็อยากพุ่งออกไป แต่พละกำลังของพวกเขาอ่อนเกินไป ภายใต้แรงกดดันที่รุนแรงเช่นนี้ ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้แต่จ้องมองไปที่หวีซู่ที่กำลังพุ่งเข้าหาหยางเฉิน
“อย่า!”
ซางหยุนเฟิงซึ่งซ่อนตัวอยู่ในความมืดได้สักพัก และคิดไม่ถึงว่า หวีซู่ต้องการฆ่าหยางเฉินจริงๆ และถึงกับลงมือตามที่วางแผนไว้ จึงรีบตะโกนเพื่อหยุดเขา
คนอื่นอาจไม่เข้าใจชัดเจน แต่ในฐานะที่เป็นผู้แข็งแกร่งชั้นยอดในโลกบู๊โบราณล่าง เข้าใจอย่างชัดเจน เมื่อหยางเฉินถูกหวีซู่ฆ่า ผลที่ตามมาจะร้ายแรงเพียงใด
แม้ว่าผู้แข็งแกร่งในโลกมนุษย์จะไม่น่ากลัว แต่อยู่ในโลกมนุษย์ ก็ยังมีสมาคมผู้อาวุโส ในสายตาของเขา ก็ไม่น่ากลัวเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังสมาคมผู้อาวุโส เป็นกลุ่มคนที่ดำรงอยู่อย่างน่ากลัว แม้แต่โลกบู๊โบราณกลาง หรือแม้แต่โลกบู๊โบราณบนก็ไม่มีใครกล้ายั่วยุ
หยางเฉินได้รับกระบี่โอรสสวรรค์แล้ว ซึ่งเพียงพอที่จะแสดงว่า หยางเฉินได้รับการยอมรับจากคนที่ดำรงอยู่เหล่านั้น
เขามาหาหยางเฉินในวันนี้ ไม่ใช่เพราะต้องการฆ่าหยางเฉินจริงๆ แต่เพราะเขามีจุดประสงค์อื่น แต่ตอนนี้ ลูกศิษย์ของเขาอยากฆ่าหยางเฉินจริงๆ
เพียงแต่ว่า เขาอยู่ห่างจากสนามต่อสู้มากเกินไป และสายเกินไปที่จะหยุดเขา
ถึงกระนั้น เขาก็ยังพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูงสุด และพุ่งไปหาหยางเฉิน แม้ว่ามันจะสายเกินไป เขาก็ยังต้องดำเนินการ
ทันใดนั้น ออร่าที่น่าสะพรึงกลัว ราวกับพายุทอร์นาโด ครอบคลุมทุกคน
และในเวลานี้ ออร่าบนร่างของหยางเฉินแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ไปถึงจุดพันธนาการ และอำนาจฟ้าเหนือหัวของเขา ก็แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และฟ้าร้องที่ถี่ขึ้น ทันใดนั้นก็ปรากฎออกมาเรื่อยๆ พร้อมที่จะลงมาทุกเมื่อ
“ไปตายซะ!”
หวีซู่ได้พุ่งไปข้างหน้าหยางเฉิน พร้อมกับตะคอกด้วยความโกรธ กระบี่ยาวฟาดลงไปที่หยางเฉินโดยตรง
แต่ในขณะนี้ ลมปราณที่ทำให้ใจสั่น ได้ปะทุออกมาจากร่างกายของหยางเฉิน
เมื่อสักครู่หยางเฉินซึ่งมีสีหน้าเจ็บปวด จู่ๆก็เงยหน้าขึ้น และดวงตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีเลือดอย่างสมบูรณ์ ราวกับมารที่มาจากโบราณกาล
“เกรี้ยง!”
ในวินาทีต่อมา ฉากที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงก็เกิดขึ้น ทันใดนั้นก็เห็นหยางเฉินเหยียดนิ้วชี้ขวาของเขาออก ดีดนิ้วไปที่กระบี่ยาวของหวีซู่โดยตรง
ในชั่วขณะ พลังทำลายล้าง ได้ปะทุออกมาจากนิ้วชี้ของหยางเฉิน
“ตูม!”
ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของทุกคน หวีซู่ที่จับกระบี่ไว้ ถูกกระแทกออกไปไกลหลายเมตรทันที
“แม้แต่คำพูดของฉันยังกล้าฝ่าฝืน ดูเหมือนว่า มีหลายคนจะลืมการดำรงอยู่ของฉันไปแล้ว!”
หยางเฉินพูดช้าๆ ในดวงตาสีแดง ไม่มีความรู้สึกใดๆ และการแสดงออกที่ไม่แยแส ทำให้ทุกคนสั่นสะท้าน
และในเวลานี้ ซางหยุนเฟิงซึ่งสวมชุดดำก็เข้ามาอยู่ตรงหน้าหยางเฉิน มองไปที่หยางเฉินที่เต็มไปด้วยพลังมาร ใบหน้าเคร่งเครียดสุดๆ
วินาทีต่อมา ชางหยุนเฟิงก็พยักหน้ายิ้มเล็กน้อย และพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ที่แท้ก็คือผู้อาวุโสเทพมาร ขอโทษด้วยที่เสียมารยาท!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...