เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฉิน เทพมารก็ยิ้มเย้ยหยัน “คุณคิดว่าม่านพลังที่ปรมาจารย์ค่ายกลในแดนนภาขั้นหกชั้นยอดสร้างไว้ จะถูกทำลายอย่างง่ายดายเหรอ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยางเฉินตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เทพมารเคยยืนอยู่ในจุดที่สูงสุดของโลกบู๊โบราณบน และการดำรงอยู่ในระดับแดนนภาขั้นเก้าชั้นยอดไม่ใช่เหรอ?
ทำไมฟังจากที่เขาพูด ถึงกับกลัวผู้แข็งแกร่งที่มีระดับแดนนภาขั้นหกชั้นยอดล่ะ?”
“คุณกำลังคิดบ้าบออะไร?”
เสียงของเทพมารรู้สึกรำคาญเล็กน้อย และพูดอย่างโกรธเคือง “ฉันเป็นถึงผู้แข็งแกร่งในระดับแดนนภาขั้นเก้าชั้นยอดในโลกบู๊โบราณบน จะไปกลัวผู้ที่อยู่ในแดนนภาขั้นหกชั้นยอดที่เหมือนมดตัวหนึ่งได้ไง?”
“ถ้าตอนนั้นฉันไม่ตาย แล้วจะตกอยู่ในสถานการณ์นี้ได้อย่างไร? ตอนนี้ฉัน ตกอยู่ในสภาพจิตวิญญาณเท่านั้น ยังไม่ถึงหนึ่งในสิบล้านของสภาวะสูงสุดของฉันด้วยซ้ำ”
“นายถึงกับคิดว่าฉันจะกลัวมดตัวหนึ่งที่อยู่ในระดับแดนนภาขั้นหกชั้นยอดเหรอ?”
หยางเฉินรีบพูดขอโทษ “ผู้อาวุโสเทพมาร ท่านอย่าโกรธเลย ผมแค่คิดไปเรื่อยเปื่อย ด้วยบารมีของท่านในตอนนั้น คิดว่าแค่นิ้วเดียวก็สามารถทำลายล้างทั่วโลกบู๊โบราณกลางจนสิ้นซาก ดังนั้นจะมากลัวผู้แข็งแกร่งชั้นยอดที่อยู่ในโลกบู๊ราณกลางได้อย่างไร?”
ทันใดนั้นความโกรธของเทพมารก็ลดลง และตะคอกอย่างเย็นชา “ถือว่านายรู้จักพูด!”
“ม่านพลังของโลกบู๊โบราณล่าง สร้างขึ้นโดยกลุ่มปรมาจารย์ค่ายกลชั้นเลิศในโลกบู๊โบราณกลาง สูญเสียหินอาถรรพ์ระดับกลางในการสร้าง แม้ว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นหกชั้นยอด ต้องการทลายม่านพลัง ก็ต้องจ่ายราคามหาศาล ยิ่งกว่านั้น ระดับแดนนภาขั้นหกชั้นยอดเหล่านี้ไม่สามารถเปิดม่านพลังนี้ได้ ต้องรู้ว่า ชี่ทิพย์ในโลกบู๊โบราณกลางนั้นเข้มข้นกว่าของโลกบู๊โบราณล่าง”
“แม้ว่าผู้แข็งแกร่งในโลกบู๊โบราณกลางต้องการเปิดม่านพลัง นั่นก็คือการเปิดม่านพลังระหว่างโลกบู๊โบราณกลางกับโลกบู๊โบราณบน มีเพียงแต่ทำให้ความเข้มข้นของชี่ทิพย์ในโลกบู๊โบราณกลางสูงมากขึ้น พวกเขาก็จะเปิดทะลวงเข้าสู่แดนนภาขั้นเจ็ดอย่างง่ายดาย”
เมื่อได้ยินคำอธิบายของเทพมาร หยางเฉินก็เข้าใจ ทันใดนั้นเขาก็จำได้ว่า ในตอนนั้นจิตวิญญาณของเทพมารได้ใช้เนื้อหนังของเขา ระเบิดแดนที่เทียบเท่ากับแดนนภาขั้นสามชั้นยอด หรือพลังที่แข็งแกร่งกว่า ถึงทะลวงม่านพลังระหว่างโลกบู๊โบราณล่างกับโลกมนุษย์ได้
ถ้าพูดกันตรงๆ ถ้าอยากจะทะลวงม่านพลังของโลกบู๊โบราณล่างกับโลกบู๊โบราณกลาง อย่างน้อยก็จะต้องเป็นผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในระดับแดนนภาขั้นหกชั้นยอด และจะต้องจ่ายราคามหาศาล ถึงจะทำเช่นนั้นได้
หยางเฉินถามอย่างสงสัย “แล้วบนท้องฟ้าในจงโจวที่มีกระแสพลังงาน เกิดจากอะไรล่ะ?”
สิ่งที่เขารู้ก็คือ เทพมารได้ใช้เนื้อหนังของเขา ใช้มือถือกระบี่โอรสสวรรค์ และฟันลงไปเพียงครั้งเดียว ไม่เพียงแต่จะทำลายการทะลวงภัยพิบัติสวรรค์ของเขาเท่านั้น แต่ยังโจมตีลงบนสิ่งกีดขวางที่มองไม่เห็น สิ่งกีดขวางนี้ น่าจะเป็นม่านพลัง
เทพมารพูดว่า “นายดูอีกครั้ง กระแสพลังงานนั่นยังอยู่ไหม?”
หยางเฉินรีบเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว พึ่งสังเกตเห็น กระแสพลังงานที่อยู่บนท้องฟ้าเหนือจงโจว ได้หายไปแล้ว
โดยไม่รอให้หยางเฉินถาม เทพมารพูดต่อ “กระบี่โอรสสวรรค์ไม่ใช่อาวุธธรรมดา แม้ว่าจะเป็นอาวุธจิตวิญญาณระดับสูงในโลกบู๊โบราณบน คาดว่าก็น่าจะด้อยกว่ากระบี่โอรสสวรรค์”
“อะไรนะ?”
หยางเฉินตกตะลึง ระดับของกระบี่โอรสสวรรค์นั้น สูงกว่าระดับของอาวุธจิตวิญญาณระดับสูงในโลกบู๊โบราณบนจริงหรือ?
เป็นไปได้อย่างไร?
เทพมารพูดด้วยเคร่งขรึม “พูดให้ถูกต้องคือ กระบี่นี้ ไม่ใช่ผลผลิตของโลกนี้เลย”
พูดถึงตรงนี้ เขาก็หยุดชะงักทันที
ความวิตกในใจของหยางเฉินนั้นยิ่งมากขึ้น
นอกจากนี้เขายังตระหนักถึงความพิเศษของกระบี่โอรสสวรรค์ และเชื่อว่ากระบี่นี้ไม่ได้เป็นของโลกนี้ แต่โลกที่เขาคิดไว้ก็คือโลกมนุษย์
อย่างไรก็ตามโลกที่เทพมารพูดถึง รวมถึงโลกบู๊โบราณบน กลาง และล่างสามโลก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...