ตอนนี้เหอจื้อกลัวจริงๆ หลังจากรู้ว่าหยางเฉินได้มอบสิทธิ์ตัวแทนจำหน่ายยาให้กับตระกูลกู้แล้ว เขาก็ตระหนักได้ว่าเขาสร้างปัญหามากมายให้กับตระกูลเหอ
“คุณพ่อ ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี? ผู้อาวุโสสี่จะมาที่ตระกูลเหอหรือไม่? ถ้าเขามา เขาจะฆ่าผมไหม? จะทำลายล้างตระกูลเหอหรือไม่?”
เหอจื้อสั่นสะท้านไปทั้งตัว ใบหน้าเต็มไปด้วยความกลัว
สีหน้าของเหอหยวนหงเคร่งเครียดสุดๆ โกรธจนสั่นไปทั้งตัว เขาปิดตาแน่น พยายามระงับความโกรธในใจ
แต่เมื่อเขานึกได้ว่าตระกูลกู้ได้รับสิทธิ์ตัวแทนจำหน่ายยา เขาก็ไม่สามารถระงับความโกรธในใจได้
“กูจะฆ่าแกไอ้สารเลว!”
เหอหยวนหงยืนขึ้นอย่างกะทันหัน หยิบเก้าอี้หวายของตัวเองขึ้นมา แล้วฟาดไปที่เหอจื้ออย่างแรง
ในขณะที่ฟาดเขาก็ตะคอกด้วยความโกรธ “ไอ้สารเลว เพราะแก นำหายนะมากมายมาสู่ตระกูลเหอ แกรู้ไหม?”
“เดิมทีตระกูลเหอก็ได้รุกรานผู้อาวุโสสี่แล้ว และตอนนี้แกก็ให้ตระกูลฉ่ายตระกูลหวังตระกูลตู้สามตระกูลนี้ไปลงมือทำร้ายตระกูลกู้ บังเอิญผู้อาวุโสสี่มาเจอเข้า”
แม้ว่าผู้อาวุโสสี่จะไม่ถือสาตระกูลเหอของเรา แต่แกปล่อยให้สามตระกูลมหาเศรษฐีไปจัดการกับตระกูลกู้ เดิมทีตระกูลกู้เป็นตระกูลมหาเศรษฐีอันดับสอง และตอนนี้ก็ได้รับสิทธิ์เป็นตัวแทนของตระกูลในการจำหน่ายยา ในไม่ช้าตระกูลกู้จะกลายเป็นตระกูลมหาเศรษฐีต้นๆในจงโจว
ในเวลานั้น ตระกูลกู้จะยอมปล่อยตระกูลเหอของเราหรือ?”
เหอจื้อถูกทุบตีจนกลิ้งไปมากับพื้น และในขณะที่หลบเขาก็ขอร้อง “คุณพ่อ หยุดทุบตีได้แล้ว ถ้าทุบตีอีกผมก็ตายแน่! ตอนนี้พวกเราต้องรีบหาวิธีแก้ไขเพื่อกู้คืน! ถ้าผู้อาวุโสสี่มาหาถึงที่ ตระกูลเหออาจถูกทำลายล้างจริงๆ!”
ในเวลานี้ เหอหยวนหงก็ระบายอารมณ์มากพอแล้ว เก้าอี้หวายถูกเขาฟาดจนพังเสียหาย ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงนั่งบนโซฟาข้างๆ และจิบชา
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เหอหยวนหงก็จ้องเขม็งไปที่เหอจื้อและพูดว่า “แกให้สามตระกูลมหาเศรษฐีไปจัดการกับตระกูลกู้ ได้ทิ้งหลักฐานไว้หรือเปล่า?”
เหอจื้อรีบส่ายหัว “คุณพ่อ แม้ว่าผมจะบอกพวกเขาเป็นการส่วนตัว แต่สถานที่ของการสนทนาก็อยู่ในอาณาเขตของพวกเราเอง และจะไม่ทิ้งหลักฐานใดๆไว้แน่นอน?”
เหอหยวนหงขมวดคิ้วและถามอย่างเคร่งขรึม “แกแน่ใจหรือ?”
เหอจื้อรีบพยักหน้า “แน่ใจมาก!”
เหอหยวนหงทุบตีอย่างโหดเหี้ยม หน้าผากของเหอจื้อถูกทุบตีจนเป็นแผล และมีเลือดไหลซึมออกมา
“ในเมื่อไม่ได้ทิ้งหลักฐานไว้ แม้ว่าผู้อาวุโสสี่จะมาหาถึงที่ เขาก็ไม่สามารถทำอะไรพวกเราได้ ยังไงเขาก็เป็นผู้อาวุโสสี่ของจิ่วโจว ในสถานกาณ์ที่ไม่มีหลักฐานใดๆคงไม่สามารถทำเรื่องที่ไม่ดีต่อตระกูลเหอได้มั้ง?”
เหอหยวนหงพูดอย่างเฉยเมย “เหอจื้อ แกฟังให้ดีๆ ถ้าผู้อาวุโสสี่ไม่มาก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเขามา หรือหากทีมนักบูโดมาตรวจสอบ ต่อให้แกต้องตาย ก็ห้ามยอมรับว่าแกเป็นคนสั่งสามตระกูลมหาเศรษฐีไปจัดการกับตระกูลกู้ล่ะ”
“ถ้าแกยอมรับ ตระกูลเหอทั้งหมดจะถูกแกทำลาย แกเข้าใจไหม?”
เหอจื้อพยักหน้าและรีบพูด “คุณพ่อ ไม่ต้องกังวล ถ้ามีคนมาตรวจสอบจริงๆ ผมจะไม่ยอมรับเด็ดขาด ทั้งหมดเป็นเพราะตระกูลฉ่ายตระกูลหวังตระกูลตู้สามตระกูลมหาเศรษฐีวางแผนประสงค์ร้ายต่อตระกูลกู้ ดังนั้นจึงลงมือทำร้าย ผมไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน”
เหอหยวนหงพยักหน้า ไม่รู้ว่าทำไม เขารู้สึกไม่สบายใจมาก มักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างถูกละเลย แต่ก็จำไม่ได้
เหอหยวนหงถอนหายใจ และพูดว่า “หวังว่าตระกูลเหอจะผ่านอุปสรรค์นี้ไปได้!”
ดูเหมือนกำลังคุยกับเหอจื้อ และดูเหมือนว่ากำลังพูดกับตัวเอง
ในเวลานี้ ตระกูลเหอ ซึ่งเป็นบ้านรอง
“ลุงรอง ทำไมมาอยู่ที่นี่ได้ไง?”
เซี่ยเหอกำลังอยู่ในห้องคนเดียว จู่ๆเหอสงก็เคาะประตูและเดินเข้ามา
ใบหน้าของเหอสงเต็มไปด้วยความกังวล ขณะที่มองเซี่ยเหอเต็มไปด้วยความซับซ้อน
จู่ๆเหอสงก็ถามขึ้นว่า “เซี่ยเหอถ้าวันหนึ่ง ตระกูลเหอต้องเผชิญกับหายนะ และมีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถช่วยตระกูลเหอได้ เธอจะเต็มใจช่วยหรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...