ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างมีสีหน้าซึ่งเต็มไปด้วยความตกใจและหวาดกลัว การบีบบังคับและแรงกดดันภายในค่ายกลผนึกสวรรค์นั้นมันมากเกินไป แม้แต่เหล่านักบูโดแห่งสำนักเทียนไฮ่ยังตกใจเป็นอย่างมาก
ส่วนทางด้านกองยุทธการจงโจวและทีมนักบูโด ความกลัวในหัวใจของเขาหนาแน่นขึ้น พวกเขามีความรู้สึกว่าตนเองสามารถถูกสังหารได้ทุกเมื่อ
หยางเฉินขมวดคิ้วแน่น หรี่ตาและมองไปที่ตู้อวี้ซาน
หากพูดตามความเป็นจริง เวลานี้ตู้อวี้ซานไม่ใช่ตัวเองอีกแล้ว ร่างกายของเขากำลังถูกจิตวิญญาณอันแข็งแกร่งครอบงำอยู่
ร่างกายของเขาเองก็เคยถูกจิตวิญญาณของเทพมารควบคุมอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง แน่นอนว่าหยางเฉินเข้าใจถึงความรู้สึกอย่างชัดเจน ลมปราณอันแข็งแกร่งที่พลุ่งพล่านออกมาจากร่างกายของตู้อวี้ซาน มันไม่ใช่ของตู้อวี้ซานเอง
“เจ้าหนุ่ม นายบีบให้ฉันต้องปรากฏตัวออกมาเช่นนี้ ถือว่านายเองก็ไม่ธรรมดา!”
ในเวลานี้ เสียงที่เต็มไปด้วยจิตสังหารอันแรงกล้าดังออกมาจากปากของตู้อวี้ซาน
ในเวลานั้น ร่างกายของเขามีลมปราณอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ซ่านออกมา แม้ว่าจะเป็นหยางเฉินก็รู้สึกได้ถึงการบีบบังคับอันแข็งแกร่ง
เขาในตอนนี้อยู่ในแดนที่เป็นระยะสร้างรากฐานปราณ พลังของเขาเทียบได้กับนักบูโดแดนนภาขั้นสี่ชั้นปลายไปจนถึงผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสี่ชั้นยอด
และในเวลานี้เขาสัมผัสได้ถึงแรงบีบบังคับอันน่าสะพรึงกลัวและแข็งแกร่งจากร่างกายของตู้อวี้ซาน นั่นก็แสดงว่าพลังของอีกฝ่ายนั้นเกินกว่าผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสี่ชั้นยอดไปแล้ว
หยางเฉินไม่เคยต่อสู้กับนักบูโดโบราณแดนนภาขั้นห้ามาก่อน ดังนั้นเขาจึงไม่แน่ใจว่าตนเองสามารถเอาชนะตู้อวี้ซานได้ไหม
หยางเฉินถามออกมาอย่างเยือกเย็น “นายคือคนที่อยู่เบื้องหลังของตู้อวี้ซานอย่างนั้นหรือ?”
ก่อนหน้านี้เขาคิดมาโดยตลอดว่าคนที่อยู่เบื้องหลังของตู้อวี้ซานคือคนที่มาจากโลกบู๊โบราณกลาง หรือไม่ก็มาจากโลกบู๊โบราณบน แต่วันนี้เขาเพิ่งรู้สึกถึงจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของตู้อวี้ซาน
สำหรับผู้แข็งแกร่งแห่งโลกบู๊โบราณกลาง พวกเขาไม่สนใจที่จะเปิดค่ายกลแห่งโลกมนุษย์เลยแม้แต่น้อย และไม่เห็นนักบูโดของโลกมนุษย์อยู่ในสายตา
ส่วนโลกบู๊โบราณบน ด้วยความแข็งแกร่งของตู้อวี้ซาน เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะติดต่อกับผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นด้วยซ้ำ
ดังนั้น ความเป็นไปได้มีเพียงอย่างเดียว คนที่อยู่เบื้องหลังของตู้อวี้ซานก็คือจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่ในยุคโบราณที่อยู่ในร่างกายของเขา
หยางเฉินยังเดาได้อีกว่า จิตวิญญาณดวงนี้จะต้องมีความแค้นกับตี้ชุนเป็นอย่างมาก
ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่สั่งให้ตู้อวี้ซานทดสอบว่าตี้ชุนหายไปจริงหรือไม่ และคงไม่ทำให้เกิดการต่อสู้อันยิ่งใหญ่ของสมาคมผู้อาวุโสทุกแห่งหน
“นายพูดถูก ฉันคือคนที่อยู่เบื้องหลังของตู้อวี้ซาน นายหนุ่ม ฉันรับรู้ได้ถึงลมปราณของตี้ชุนจากร่างกายของนาย นายจะต้องมาจากตี้ชุนเป็นแน่?”
ตู้อวี้ซานเอ่ยปากกล่าวออกไป
หยางเฉินขมวดคิ้ว กล่าวออกไปอย่างเยือกเย็น “ฉันเติบโตขึ้นมาบนโลกมนุษย์แห่งนี้ ฉันจะมาจากตี้ชุนได้อย่างไร?”
ได้ยินเช่นนั้นตู้อวี้ซานก็ขมวดคิ้วด้วยท่าทางที่เหมือนกับกำลังครุ่นคิด
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็หัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น “เป็นไปไม่ได้! หากนายไม่ได้มาจากตี้ชุน เช่นนั้นร่างกายของนายก็ไม่มีทางมีลมปราณของตี้ชุนอยู่ได้”
ครั้งนี้หัวใจของหยางเฉินมีความลังเลปรากฏขึ้นมาเล็กน้อย
พูดตามจริง จนถึงตอนนี้เขาเองก็ไม่แน่ใจเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของเขา
ก่อนหน้านี้เขาคิดมาโดยตลอดว่าตนเองเป็นเด็กที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลอวี๋เหวินที่เป็นหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู แต่หลังจากนั้นถึงได้รู้ว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิด เขากับตระกูลอวี๋เหวินไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางสายเลือดกันเลยแม้แต่น้อย
และเมื่อความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มสูงขึ้น ระดับต่าง ๆ เพิ่มขึ้น เขาก็ตระหนักได้ว่าตัวตนของเขานั้นไม่ธรรมดา
ไม่ว่าจะเป็นโลกมนุษย์ในตอนนั้นเองก็ดี จะเป็นโลกบู๊โบราณล่างในภายหลังเองก็ดี หรือไม่ว่าจะเป็นโลกบู๊โบราณกลาง ในคนรุ่นราวคราวเดียวกัน ไม่มีใครสามารถต่อกรกับเขาได้
หากเขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไปจริง ๆ เหตุใดถึงได้ครอบครองพรสวรรค์แห่งนักบูโดที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...