หลายวันต่อมา ลั่วปิงทยอยนำงานในมือที่ต้องจัดการมากมาย มอบให้เฉินซิงไห่ไปทั้งหมด
เดิมทีหยางเฉินจะให้ลั่วปิงฝึกอบรมผู้ช่วยที่มีความสามารถคนหนึ่ง จากนั้นมอบเรื่องราวทุกอย่างของเมืองโจวเฉิงให้ผู้ช่วย หลังจากนั้นหนึ่งเดือน จะส่งลั่วปิงไปที่เยี่ยนเฉินกรุ๊ปสาขาใหญ่
ปัจจุบันนี้ตระกูลเฉินยอมอยู่ใต้อำนาจหยางเฉิน ด้วยตำแหน่งของผู้ทรงอิทธิพลใหญ่ของเมืองโจวเฉิง เดิมทีจึงไม่ต้องใช้เวลาหนึ่งเดือนถึงให้ลั่วปิงจากไป
เพียงช่วงหนึ่งอาทิตย์สั้นๆ ลั่วปิงก็ส่งต่อให้เฉินซิงไห่เสร็จสิ้นแล้ว
เมืองเจียงโจว ชั้นบนสุดของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปสาขาย่อย
“ท่านประธานครับ เรื่องที่เมืองโจวเฉิงจัดการเรียบร้อยแล้วครับ ผมออกเดินทางไปที่เยนตูได้เมื่อไรครับ?”
ลั่วปิงยืนอยู่ด้านหลังหยางเฉิน มองชายหนุ่มที่เอามือไพล่หลังและทอดสายตามองไปยังที่ห่างไกลคนนั้น
“ข้อดีข้อเสียในการไปเยนตู ฉันเคยบอกกับนายไปแล้ว ตอนนี้นายยังจะยืนยันไปอยู่หรือเปล่า?”
หยางเฉินหมุนตัวทันใด มองทางลั่วปิงแล้วถามขึ้น
ในสายตาของลั่วปิงมีเพียงความเด็ดเดี่ยว พยักหน้าหนักแน่น “ท่านประธานครับ ผมจะไปครับ!”
เดิมทีในใจลั่วปิงยังมีความกังวลส่วนหนึ่ง แต่ทุกอย่างที่เกิดในตระกูลหยวนวันนั้น เสมือนมอบยาสะกดจิตใจสงบให้เขาเม็ดหนึ่ง
ถึงพูดว่าเศรษฐกิจของตระกูลหยวนพังทลาย เป็นเพราะเขาวางหมากที่เมืองโจวเฉิงไว้ล่วงหน้า ถึงสามารถทำได้อย่างราบรื่นขนาดนั้น
ตอนแรกเขาไม่ได้คิดจะวางหมากเปิดโปงเขาที่เมืองโจวเฉิงเร็วขนาดนั้น แต่การปรากฏตัวของหยางเฉิน กลับทำให้ทุกอย่างเปิดเผยมาก่อนล่วงหน้า
โดยเฉพาะเขาเข้าใจด้วยว่าต่อให้ไม่มีการวางหมากล่วงหน้าของเขา ผลลัพธ์ของเมืองโจวเฉิงก็คงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากนี้
“ดี ในเมื่อนายยืนยันแล้ว งั้นวันนี้ นายก็ไปเยนตู!” หยางเฉินเอ่ยปากบอก
สำหรับลั่วปิง ในใจเขายังรู้สึกซาบซึ้งใจระดับหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นสติปัญญาหรือความซื่อสัตย์ของลั่วปิง เขาล้วนเห็นอยู่ในสายตาทั้งหมด
ไม่นานภาพชายวัยกลางคนปรากฏตัวที่ห้องทำงาน
“พี่เฉิน!”
เฉียนเปียวเดินเข้ามาแล้ว
“นายเตรียมตัวสักหน่อย ออกเดินทางไปเยนตู รับผิดชอบคุ้มกันความปลอดภัยในชีวิตของลั่วปิง!”
หยางเฉินพูดแบบท่าทางจริงจัง “จะต้องคุ้มกันเขาให้ดี!”
“ครับ รับรองว่าทำภารกิจสำเร็จแน่ครับ!”
มองท่าทางที่จริงจังของหยางเฉิน เฉียนเปียวจึงรีบยืนตัวตรงทันที เสียงดังกังวานดุจระฆัง
“ไม่ว่าอย่างไรพวกนายต้องมีชีวิตรอดให้ฉัน!”
สายตาของหยางเฉินอ่อนโยนลงมาก มองทั้งสองคนแล้วพูดสั่ง “ถ้าไม่มีทางจัดการสถานการณ์ที่เยนตูได้จริง ต่อให้ยอมแพ้ ฉันก็จะไม่โทษพวกนาย มีแค่พวกนายมีชีวิตรอด ถึงเป็นต้นทุนของฉัน!”
ท่าทางลั่วปิงกับเฉียนเปียวทั้งสองคนรู้สึกประทับใจกันมาก
หยางเฉินสามารถพูดสิ่งพวกนี้กับพวกเขาได้ ย่อมเห็นพวกเขาเป็นพี่น้องของตนเองไปแล้วแบบไม่ต้องสงสัย
“ท่านประธานวางใจได้ครับ ผมจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอนครับ!”
“พี่เฉิน พี่วางใจได้เลย ขอแค่ผมยังมีชีวิตอยู่ จะไม่ให้ประธานลั่วเกิดเรื่องอะไรได้เด็ดขาด!”
ทั้งสองต่างพูดรับประกัน
วันนั้น ลั่วปิงและเฉียนเปียวมุ่งหน้าไปยังเยนตู
สองคนนี้สำหรับหยางเฉินแล้ว เขาฝากฝังความหวังไว้เยอะมาก
เยี่ยนเฉินกรุ๊ป เป็นความทรงจำหนึ่งเดียวที่มารดาเหลือไว้ให้ตนเองบนโลกใบนี้ เขาจึงทุ่มสุดแรงเพื่อรักษาไว้
“ตระกูลอวี๋เหวิน คงมีสักวัน ฉันจะไปหาถึงที่ด้วยตนเอง ถามคนคนนั้นดูหน่อยว่าทำไมตอนแรกถึงไล่ฉันกับแม่ออกจากตระกูลแบบใจดำด้วย!”
ในดวงตาทั้งคู่ของหยางเฉินมีแสงเฉียบแหลมแวบหายไป
ตอนที่ใกล้เลิกงาน หยางเฉินได้รับโทรศัพท์จากซูซาน “หยางเฉิน เย็นนี้คุณว่างไหม? พ่อฉันอยากจะเลี้ยงข้าวคุณสักมื้อ”
ในน้ำเสียงของซูซานเห็นได้ชัดว่ามีความดีใจระดับหนึ่ง
หยางเฉินอยากจะสัมผัสใกล้ชิดซูเฉิงอู่สักหน่อยจริงๆ จึงตอบรับไปแบบไม่คิดมาก
ความจริงตั้งแต่เขาเพิ่งกลับมาเมืองโจวเฉิงวันนั้น หลังเจอซูเฉิงอู่ครั้งแรก ซูเฉิงอู่ก็เคยแอบช่วยเหลือเขาตั้งหลายรอบ
ไม่อย่างนั้นเยี่ยนเฉินกรุ๊ปสาขาที่เมืองเจียงโจวคงไม่อาจได้การร่วมงานสำคัญบางส่วนมาได้อย่างราบรื่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...