เขาก็เดินหัวเราะออกไป พร้อมกับหยิบมือถือออกมา แล้วกดโทรหาฉินซี “นี่เสี่ยวซี ตอนนี้พวกแกอยู่ที่เป่ยหยวนชุนใช่มั้ย? อยู่ห้องที่เท่าไหร่? ฉันเพิ่งออกจากบริษัท กำลังจะนั่งรถไป!”
“บลึ้น!”
ทันใดนั้นเอง ก็ได้ยินเครื่องยนต์ที่เสียงดังสนั่นไปทั่วถนนทั้งสาย
แล้วเห็นฮาวาล เอชห้า สีดำคันหนึ่งก็ได้พุ่งตรงมาที่ฉินต้าหย่ง
ส่วนฉินต้าหย่งที่กำลังคุยโทรศัพท์กับฉินซีนั้น ความสนใจทั้งหมดก็ได้อยู่ที่การคุยกับลูกสาวเพียงอย่างเดียว โดยไม่ทันได้รู้ตัวเลยว่าภัยอันตรายนั้นกำลังเข้าหาตัวแล้ว
“ตูม!”
เกิดเสียงดังขึ้น กระจังหน้าของฮาวาล เอชห้าคันดำได้ชนเข้าที่กลางลำตัวของฉินต้าหย่งอย่างจัง
ร่างกายของฉินต้าหย่ง ราวกับว่าวที่ด้ายขาดไปแล้ว เขาถูกชนจนกระเด็นออกไปสิบกว่าเมตร
ผู้คนที่อยู่รอบๆ ต่างก็ตกใจจนช็อกไปแล้ว
ร้านอาหารเป่ยหยวนชุน ภายในห้องวีไอพีสุดหรูที่อยู่ชั้นบนสุด
จู่ๆ ฉินยีก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา “พี่เขยคะ จู่ๆ ฉันก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาค่ะ ฉันไม่น่าเล่าเรื่องที่เราจะจัดงานวันเกิดให้พ่อฟังก่อนเลยค่ะ”
“จะเสียใจไปทำไม?”
หยางเฉินถามด้วยรอยยิ้ม
“แบบนี้มันก็ไม่เซอร์ไพรส์แล้วสิคะ! เป็นความผิดของฉันเอง รู้อย่างนี้ให้ฉันรออยู่ที่นี่กับพี่สาว แล้วให้พี่แสร้งทำเป็นผ่านไปที่บริษัทวัสดุก่อสร้างหลงเหอ แล้วรับพ่อมาที่นี่เลย”
ฉินยีพูดด้วยรอยยิ้ม “แต่ก็ไม่เป็นไร เราได้เตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ให้พ่อแล้ว แบบนี้ก็ถือเป็นการเซอร์ไพรส์เหมือนกัน”
“พ่อคะ! พ่อคะ! พ่อคะ! พ่อเป็นอะไรไปคะ?”
ในขณะที่ฉินยีกับหยางเฉินกำลังคุยเรื่อยเปื่อยกันอยู่นั้น จู่ๆ ฉินซีที่กำลังคุยโทรศัพท์กับฉินต้าหย่งอยู่นั้นก็ได้ตะโกนออกมา สีหน้านั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
แต่ทว่า ฉินต้าหย่งในตอนนี้ ได้ถูกรถชนจนกระเด็นไปแล้ว ไม่รู้เป็นหรือตาย แล้วจะไปได้ยินเสียงเรียกของฉินซีได้ยังไง? น้ำตาบนใบหน้าของฉินซีนั้นเอ่อล้นออกมา สายตาตกอยู่ในความช็อก ส่วนมือถือก็หลุดออกจากมือจนหล่นลงพื้น เธอดูตกอยู่ในอาการอกสั่นขวัญหาย
“พี่คะ นี่พี่ร้องไห้ทำไม? พ่อเป็นอะไรคะ?”
ฉินยีรู้สึกร้อนรนขึ้นมาทันที และรีบวิ่งเข้ามา จับไหล่ของฉินซีแล้วตะโกนออกไปเสียงดัง
จู่ๆ หยางเฉินก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมา ถึงแม้จะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ดูจากการตอบสนองของฉินซีแล้ว ท่าทางด้านฉินต้าหย่งต้องเกิดเรื่องอะไรขึ้นแน่นอน
“เร็ว เรารีบไปที่บริษัทวัสดุก่อสร้างหลงเหอเร็ว!”
ถึงแม้ในใจของฉินซีจะรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่เธอก็ยังไม่อยากยอมรับความจริงอยู่ดี
พอสิ้นเสียงของเธอ เธอก็วิ่งออกไปทันที
เมื่อกี้เธอได้ยินเสียงเครื่องยนต์ที่ดังสนั่น ต่อด้วยเสียงของมือถือที่ตกพื้น จากนั้นไม่ว่าจะเรียกฉินต้าหย่งยังไง มันก็ไม่มีการตอบกลับอีกเลย
“พี่คะ ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกับพ่อกันแน่? พี่ช่วยบอกฉันหน่อยได้มั้ยคะ?”
ฉินยีวิ่งตามฉินซี่ไปอย่างรวดเร็ว แล้ววิ่งไปถามไป
ความจริงที่แม้แต่ฉินซียังไม่อยากที่จะเชื่อ แล้วจะพูดให้ฉินยีฟังยังไง เธอไม่พูดอะไรเลยสักคำ ได้แต่วิ่งจากไปอย่างบ้าคลั่ง
ทันใดนั้น ภายในห้องวีไอพีก็เหลือเพียงหยางเฉินกับเสี้ยวเสี้ยวแค่สองคนเท่านั้น
“พ่อคะ แม่เขาเป็นอะไรเหรอคะ?”
เสี้ยวเสี้ยวได้แสดงสีหน้าที่หวาดกลัวออกมาด้วย แล้วถามออกมาพร้อมกอดคอของหยางเฉินเอาไว้แน่น
หยางเฉินส่ายหน้าเบาๆ แล้วพูดไปว่า “เสี้ยวเสี้ยวไม่ต้องกลัวนะ พ่ออยู่ตรงนี้!”
พูดจบ เขาก็หยิบมือถือออกมา แล้วกดโทรหาใครบางคน “ไปสืบให้ผมหน่อย ว่าเมื่อกี้ที่หน้าบริษัทวัสดุก่อสร้างหลงเหอเกิดเรื่องอะไรขึ้น แล้วรายงานผลให้ผมโดยเร็วที่สุด!”
หลังจากวางสาย หยางเฉินก็พาเสี้ยวเสี้ยวออกจากห้องวีไอพีไปเหมือนกัน แล้วมุ่งไปที่บริษัทวัสดุก่อสร้างหลงเหอ
พอมาถึงที่ลานจอดรถ ก็ได้รับสายของกวนเจิ้งซาน “ฉินต้าหย่ง ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดียังไง! รถฉุกเฉินกำลังเดินทางไปที่นั่นครับ!”
“อะไรนะ?”
พอได้รับข้อมูลนี้ หยางเฉินก็ตกใจจนหน้าซีด และได้กัดฟันพูดไปว่า “ไปสืบมา ว่ามันเป็นอุบัติเหตุจริงๆ หรือเป็นการจงใจวางแผนเพื่อฆ่ากันแน่! แล้วช่วยติดต่อหมอที่เก่งที่สุดให้ช่วยรักษาเขาด้วย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...