“เว่ยเชิน ผมจะให้โอกาสคุณครั้งสุดท้าย ปล่อยเธอซะ ผมรับปากว่าชีวิตของคุณจะไม่เป็นไร!” ความอดทนของหยางเฉินแทบจะถึงขีดสุดแล้ว
ระหว่างที่พูด ในมือของหยางเฉินก็ได้มีใบไม้เพิ่มขึ้นมาหลายใบ พวกมันถูกหนีบอยู่ระหว่างนิ้วกลางกับนิ้วชี้
ถ้าเว่ยเชินกล้าที่จะฆ่าโจวยู่ชุ่ย หยางเฉินก็รับรองได้เลยว่าเว่ยเชินนั้นต้องตายก่อน
สิ่งที่เว่ยเชินได้พบเจอมานั้น เขาเองก็เห็นใจมาก แต่จากการขู่บังคับครั้งแล้วครั้งเล่าของอีกฝ่าย ทำให้หยางเฉินเกิดความคิดที่อยากจะฆ่าขึ้นมา
“ลูกชาย แกใจเย็นๆ ก่อน! ฉันเสียลูกชายไปแล้วคนหนึ่ง และไม่อยากสูญเสียคนในครอบครัวอีกแล้ว! ขอแค่แกยอมปล่อยมือ ฉันรับปาก จากนี้ฉันจะยกตระกูลเว่ยให้แกแน่นอน!”
“พ่อทำผิดไปแล้ว ผิดไปแล้วจริงๆ!”
จู่ๆ สีหน้าของเว่ยเฉิงโจวก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความเจ็บปวด เสียง“ตุบ” ดังขึ้น เขาก็ได้คุกเข่าลงกับพื้น จ้องมองเว่ยเชินด้วยดวงตาที่แดงก่ำ และพูดไปว่า “ลูกชาย แกเองก็รู้ ว่าชีวิตนี้ของฉัน ไม่เคยขอร้องใครมาก่อน และไม่เคยคุกเข่าให้ใครมาก่อน แต่วันนี้ ฉันได้คุกเข่าลงต่อหน้าแก ขอร้องแก!”
กับการขอร้องของเว่ยเฉิงโจวนั้น เว่ยเชินกลับไม่ได้รู้สึกอะไรเลย นัยน์ตามีเพียงแค่ความเคียดแค้นเท่านั้น
“เว่ยเฉิงโจว แกไม่ต้องมาแสดงละครต่อหน้าฉัน แกเป็นคนยังไง ฉันนั้นรู้ดีกว่าใคร แกคิดว่าแค่บีบน้ำตาจระเข้ออกมาไม่กี่หยด ฉันก็จะเชื่อจริงๆ แล้วเหรอ?”
“ถ้าฉันยอมปล่อยมือจริงๆ เกรงว่าทันทีที่กลับไปที่ตระกูลเว่ย แกก็คงสั่งคนมาฆ่าฉันแล้ว”
“การฆ่าคนในครอบครัว ไม่ใช่ว่าแกไม่เคยทำสักหน่อย ตอนนั้น พ่อของแก็ถูกแกฆ่าเองกับมือ แกถึงได้ขึ้นรับตำแหน่งไม่ใช่รึไง?”
กับความลับบางอย่างของเว่ยเฉิงโจว เหมือนเว่ยเชินจะรู้ดีอย่างมาก
“ลูกชาย ตอนนี้ฉันก็คุกเข่าอยู่ตรงหน้าแกแล้ว แล้วแกไม่คิดจะยกโทษให้ฉันเลยเหรอ?” สีหน้าของเว่ยเฉิงโจวนั้นเต็มไปด้วยความร้องของ
เว่ยเชินส่ายหน้า แล้วพูดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยว่า “ในเมื่อหยางเฉินไม่ยอมฆ่าแก งั้นฉันจะให้ทางเลือกแกหนึ่งทาง ก็คือแกตาย หรือไม่ก็ผู้หญิงคนนี้ตาย!”
“ถ้าแกไม่ตาย ฉันก็จะฆ่าผู้หญิงคนนี้ซะ พอถึงตอนนั้น ผลลัพธ์มันก็จะออกมาเหมือนกัน”
“ฉันคิดว่า ถึงฉันจะเป็นคนฆ่าเธอ แต่ตระกูลเว่ยก็เป็นสาเหตุของเรื่องนี้ หยางเฉินคงไม่ยอมปล่อยแกไปหรอกจริงมั้ย?”
“เอาล่ะ สิ่งที่ควรพูดก็พูดไปหมดแล้ว ภายในหนึ่งนาที ถ้าแกไม่ตาย ฉันก็จะฆ่าผู้หญิงคนนี้ทิ้งซะ!”
ในตอนนี้ สีหน้าของเว่ยเชินนั้นนิ่งเฉย นิ่งเฉยจนน่ากลัว
คนแบบนี้ ไม่ได้สนใจเรื่องความเป็นความตายแล้ว ถึงได้แสดงท่าทางแบบนี้ออกมาได้
“เว่ยเชิน มันก็แสดงว่า แกจะไม่มีวันยกโทษให้ฉันแล้วใช่มั้ย?”
ทันใดนั้น เว่ยเฉิงโจวก็ได้ลุกขึ้นมา เห็นได้ชัดว่า ต่อให้เขาพูดจนปากฉีก เว่ยเชินก็ไม่ยอมเปลี่ยนแปลงความคิดแน่นอน
“ยังเหลือเวลาอีกสี่สิบวิ!”
เว่ยเชินไม่ได้ตอบ แต่กลับแจ้งเวลาที่เหลือออกมา
หยางเฉินค่อยๆ หรี่ตาทั้งสองข้างลง ใบไม้ที่อยู่ระหว่างทั้งสองนิ้ว แทบจะถูกเขาบดจนละเอียดแล้ว
“เหลืออีกสามสิบวิ!”
เว่ยเชินแจ้งเวลาที่เหลือออกมาแทบจะทันที
“หยางเฉิน ฆ่าไอ้แก่นั่นทิ้งซะ ฉันเป็นถึงแม่ยายของแกนะ แล้วแกจะยืนดูฉันถูกฆ่าไปต่อหน้าอย่างนั้นเหรอ?”
“ถ้าเกิดฉันตายไป เสี่ยวซีกับเสี่ยยีจะรู้สึกยังไง?”
“เช้าวันนี้ ฉันได้ถ่ายทอดสด แล้วพูดใส่ร้ายแกไปตั้งเยอะ ตอนนี้ก็มีแค่ฉันคนเดียวที่สามารถแก้ข่าวพวกนั้นได้!”
“ไม่อย่างนั้น เสี่ยวซีกับเสี่ยวยีต้องเข้าใจว่า แกส่งคนมาฆ่าฉันแน่นอน พอถึงตอนนั้น เสี่ยวซีกับเสี่ยวยีก็จะเกลียดแกไปตลอดชีวิต!”
เมื่อรับรู้ถึงความเย็นของมีดที่จ่ออยู่ที่คอ สีหน้าของโจวยู่ชุ่ยก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว แล้วตะโกนใส่หยางเฉิน
ในที่สุดหยางเฉินก็หมดความอดทน จ้องมองเว่ยเชินด้วยสายตาที่นิ่งเฉย
“สิบวิสุดท้าย!”
เว่ยเชินแจ้งเวลาอีกครั้ง พร้อมกับสีหน้าที่แน่วแน่
“เก้าวิ!”
“แปดวิ!”
……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...