สนามบินนานาชาติเจียงโจว โบอิง747ลำหนึ่ง กำลังลงจอดอย่างช้าๆ
หญิงสาวที่ใส่แว่นดำอันใหญ่ กำลังก้าวเดินออกมาอย่างสง่างามพร้อมกับผู้คน
ผมสีกัดลัดที่ยาวถึงบ่าอันแข็งแรงหมุนเป็นเกลียวเล็กน้อย เธอสวมชุดโบฮีเมียนสีเข้มที่เป็นกระโปรงยาวสวมหมวกบักเก็ตสีเบจไว้บนหัว พร้อมกับสวมรองเท้าส้นสูงที่ประณีตไว้ที่ขา
หน้าตาที่สะสวย เรือนร่างที่เรียวยาว การแต่งตัวที่มีสไตล์ ไม่ด้อยไปกว่าพวกดาราสาวระดับหัวแถวเลยสักนิด
สายตาที่เร่าร้อนของผู้ชายหลายคน ต่างก็ไม่หยุดที่จะแอบมองมาทางนี้ และยังมีผู้หญิงบางคน มองเธอด้วยสีหน้าที่อิจฉา
และไม่มีใครคาดคิด ว่าหญิงสาวที่สวยและแต่งตัวทันสมัยแบบนี้ จะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติอย่างอ้ายหลิน
“นี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่นั่งเครื่องบินแล้วมาถึงก่อนเวลาเนี่ย” หลังจากที่อ้ายหลินเดินออกจากสนามบินมองดูเวลา ถึงได้รู้ว่าเครื่องบินได้มาถึงก่อนเวลาตั้งครึ่งชั่วโมง
เธอหยิบมือถือออกมา กำลังจะโทรหาหยางเฉิน จู่ๆ ก็มีชายวัยกลางคนสองคนเดินดุ่มๆ เข้ามา ในมือของหนึ่งในนั้นยังถือรูปถ่ายเอาไว้หนึ่งใบ
“สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าคุณคือคุณอ้ายหลินรึเปล่าครับ?”
ชายวัยกลางคนที่แต่งตัวทางการคนนั้นก้มมองรูปถ่ายในมือ แล้วเงยหน้าขึ้นมามองอ้ายหลิน ถึงได้ทำการถามออกมา
“ฉันคืออ้ายหลิน พวกคุณคือคนที่พี่เฉินให้มารับฉันใช่มั้ย?”
อ้ายหลินถามด้วยความสงสัย การเดินทางของเธอนั้นค่อนข้างเป็นความลับ ในเมืองเจียงโจวนอกจากหยางเฉินแล้ว ก็ไม่น่าจะมีใครที่รู้เรื่องอีก
หลังจากที่แน่ใจว่าเป็นอ้ายหลินแล้ว ชายวัยกลางคนคนนั้นก็ดีใจขึ้นมาทันที และรีบยื่นมือออกมา “สวัสดีครับ คุณอ้าย ผมคือเมิ่งเทียนเรียวแห่งตระกูลเมิ่งของเมืองเอกครับ รู้สึกดีใจมากที่ได้พบกับคุณ”
พอได้ยินคำพูดของเมิ่งเทียนเรียว อ้ายหลินก็ขมวดคิ้วอย่างแรง และไม่ได้ไปจับมือกับเมิ่งเทียนเรียว เธอแค่พูดออกไปอย่างเรียบเฉยว่า “ขอโทษนะคะ ฉันยังมีธุระต้องไปทำอีก!”
พูดจบ เธอก็เดินไปข้างๆ เตรียมที่จะไปโบกรถแท็กซี่
เมิ่งเทียนเรียวไม่ใช่คนที่หยางเฉินส่งมา แต่กลับรู้ว่าเธอมาที่เมืองเจียงโจว เห็นได้ชัดว่าข้อมูลเรื่องการเดินทางของเธอนั้นรั่วไหลออกไปแล้ว
แต่ก่อนที่อ้ายหลินจะได้ออกไปไกล ก็ถูกบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลังเมิ่งเทียนเรียวขวางไว้ซะก่อน
“นี่พวกคุณคิดจะทำอะไร?”
อ้ายหลินทำหน้าโมโหขึ้นมาทันที
“คุณอ้ายครับ คุณเข้าใจผิดแล้ว เราไม่ได้มีเจตนาร้ายกับคุณเลย เรื่องเป็นแบบนี้ครับ มือสองข้างของลูกชายผมได้รับบาดเจ็บร้ายแรง หมอบอกว่ามีแค่คุณเท่านั้นที่สามารถรักษาได้ ไม่อย่างนั้นลูกชายของผมก็จะโดนตัดมือทั้งสองข้างออกครับ”
“เขายังหนุ่มยังแน่น ปีนี้เพิ่งอายุยี่สิบเก้า ถ้าต้องมาถูกตัดแขนไปจริงๆ สำหรับเขาแล้ว มันก็เป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนจิตใจของเขาเป็นอย่างมากเลยครับ”
“ตอนนี้คุณช่วยไปกับผมก่อน ขอแค่รักษาลูกชายของผมได้ ค่ารักษาเท่าไหร่ คุณก็กำหนดได้เลยครับ!”
เมิ่งเทียนเรียวรีบพูดอธิบาย แต่พฤติกรรมที่แสดงออกมานั้นไม่ค่อยสุภาพเท่าไหร่ จึงทำให้อ้ายหลินรู้สึกรำคาญมาก
“ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงค่ะ ที่เมืองเจียงโจว ฉันมีการผ่าตัดที่เร่งด่วนต้องจัดการ ตอนนี้จึงยังไปกับคุณไม่ได้ คุณคิดว่าเอาแบบนี้ดีมั้ยคะ? รอให้การผ่าตัดทางนั้นเรียบร้อยแล้ว ฉันค่อยไปกับคุณแล้วกัน”
ถึงอ้ายหลินจะไม่ชอบวิธีการวางอำนาจของเมิ่งเทียนเรียว แต่ด้วยจรรยาบรรณของความเป็นหมอ พอนึกถึงลูกชายของอีกฝั่งอายุเพิ่งจะยี่สิบเก้า เธอก็ตัดใจปฏิเสธไม่ลง
วันนี้เธอเพิ่งเสร็จจากภารกิจการช่วยเหลือทางการแพทย์ระหว่างประเทศ หลังกลับประเทศ ยังไม่ทันได้ออกจาก สนามบินเยี่ยนตูเลย ก็ต้องต่อเครื่องมาที่เจียงโจวแล้ว
ไม่ได้เพราะฉินต้าหย่ง แต่เป็นเพราะเรื่องที่หยางเฉินขอให้เธอช่วยหาไตให้กับแม่ของเซี่ยเหอเมื่อก่อนหน้านี้ หลายวันก่อนเธอก็ได้เบาะแสแล้ว
ไตที่สามารถเข้ากับร่างกายได้ ถึงหาเจอก็ใช่ว่าจะสามารถเอามาได้ง่ายๆ และยังจำเป็นต้องทำการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายให้เสร็จภายในเวลาที่กำหนดด้วย ดังนั้นหลังจากที่เธอกลับประเทศ ทำให้แม้แต่เวลาที่จะกลับไปพักผ่อนที่บ้านยังไม่มีเลย และได้รีบมาที่เจียงโจวทันที
“นี่คือเงินสิบล้าน คุณรับมันไปก่อน ถ้ารักษาลูกผมจนหายแล้ว ผมจะให้คุณอีกสิบล้านครับ!”
เมิ่งเทียนเรียวไม่พูดพร่ำทำเพลง หยิบเช็คเงินสดออกมาหนึ่งใบ ขีดๆ เขียนๆ เซ็นชื่อของตัวเองลงไปแล้วยื่นมันให้อ้ายหลิน
สำหรับเขาแล้ว ขอแค่สามารถรักษามือของเมิ่งฮุยให้หาย อย่าว่าแต่ยี่สิบล้านเลย ต่อให้เป็นสองร้อยล้านเขาก็ยอม
เพราะว่า เขามีเมิ่งฮุยลูกชายแค่คนเดียว หลายปีที่ผ่านมานี้ นอกจากความผิดพลาดที่ประเมินหยางเฉินต่ำไปแล้ว ก็ไม่เคยทำอะไรผิดพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ถึงแม้เมิ่งฮุยจะถูกขับออกจากตระกูลไปแล้ว แต่เมิ่งเทียนเรียวก็มีความมั่นใจเต็มร้อย ที่จะได้รับการสอบทอดเป็นผู้นำของตระกูลแน่นอน
ขอแค่เขาได้ขึ้นเป็นผู้นำตระกูล เมิ่งฮุยก็จะกลายเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลเมิ่งไปโดยปริยาย
อ้ายหลินขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้รับเช็คใบนั้น เธอแค่พูดออกไปอย่างไม่ชอบใจว่า “ฉันคิดว่า ฉันได้พูดไปอย่างชัดเจนแล้ว ที่เจียงโจว ฉันมีการผ่าตัดที่เร่งด่วนมากๆ รออยู่ ถ้าการผ่าตัดนั่นเสร็จสิ้น ฉันก็จะไปกับคุณ”
เมิ่งเทียนเรียวไม่ได้พูดอะไร แล้วเขียนเช็คอีกใบหนึ่ง และยื่นให้อ้ายหลินเหมือนกับเช็คใบแรก “นี่คือยี่สิบล้าน! ไปเมืองเอกกับผมก่อน ถ้ารักษาลูกผมได้เสร็จแล้ว ผมจะให้คุณอีกสามสิบล้าน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...